หลายคนอาจรู้สึกว่ากระจกรถไม่ใช่สิ่งที่ต้องดูแลมากนัก นอกจากว่าจะมีฝุ่นหรือคราบเกาะจนมองเห็นไม่ชัดเจนหรือสร้างความรำคาญในขณะขับรถ
จึงค่อยเช็ดล้าง รวมทั้งเมื่อมีสิ่งมากระทบกระจกรถจนเกิดความเสียหายก็อาจคิดว่าเป็นความโชคร้าย แต่จริงๆ แล้วกระจกรถคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทางเพราะส่งผลต่อการมองเห็นถนน รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือพาหนะอื่นๆ ที่ร่วมทาง รวมทั้งคนเดินถนน ดังนั้นการดูแลกระจกของรถทั้งกระจกหน้า กระจกข้าง และกระจกหลังเพื่อให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนจึงมีความสำคัญ รวมทั้งสิ่งที่คิดว่าเป็นโชคร้ายเมื่อเกิดความเสียหายกับกระจกก็สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเงินในการเปลี่ยนกระจกใหม่

• ทำความสะอาดกระจกสม่ำเสมอ

เมื่อนำรถออกไปใช้แม้ในสภาพอากาศปกติที่ไม่ใช่ฤดูฝนก็มักมีฝุ่นสะสมอยู่บนกระจกรถ และเมื่อมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงควรเช็ดกระจกรถอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยก็ควรทำสักอาทิตย์ละครั้ง แต่หากเป็นช่วงฤดูฝนก็ควรทำความสะอาดบ่อยขึ้น โดยควรทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านในของกระจกรถ ซึ่งกับด้านในห้องโดยสารสามารถใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดได้ ในขณะที่ด้านนอกของกระจกควรใช้น้ำยกเช็ดกระจกและผ้าเนื้อนิ่ม อย่างไรก็ตามสำหรับกระจกที่ติดฟิล์มควรใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดเท่านั้น ห้ามใช้น้ำยาเช็ดกระจกที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมเด็ดขาด

        ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนเสมอ

        ควรตรวจสอบใบปัดน้ำฝนเสมอว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบุรณ์หรือไม่ และควรเปลี่ยนเมื่อพบว่าเสื่อมสภาพ เพราะไม่ใช่เพื่อความมั่นใจว่าใบปีดน้ำฝนจะยังคงทำหน้าที่ได้ดีเมื่อต้องการเท่านั้น แต่เพื่อความมั่นใจว่าใบปัดน้ำฝนจะไม่เสียหายหรือชำรุดจนก่อให้เกิดความเสียหายกับกระจกรถเมื่อใช้งานด้วย

• เลือกสถานที่จอดรถ

        ควรเลือกจอดรถในร่ม เพราะนอกจากแสงแดดจะทำให้สีรถเสียหายได้แล้ว ก็ยังสร้างความเสียหายให้กับกระจกรถได้ด้วย แม้ว่ากระจกรอบคันของรถจะถูกทำออกมาเพื่อให้มีความทนทานต่อแสงแดดที่แรง แต่ทุกสิ่งย่อมมีขีดจำกัด ดังนั้นแสงแดดจึงสามารถทำให้กระจกรถเปราะลงได้ การจอดรถกลางแดดจึงเป็นการสร้างความเสียหายให้กับกระจกรถ และเมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้อายุการใช้งานของกระจกรถสั้นลง

นอกจากนี้ยังควรเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้เพื่อเลี่ยงการมีผลไม้หรือกิ่งไม่ร่วงงมาสร้างความเสียหายกับกระจกรถ

• ขับรถทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้า

        นอกจากเมื่อขับรถบนถนนที่มีเศษหิน ลูกรัง หรือกรวดทราย ซึ่งควรทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อป้องกันสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกดีดจากรถขึ้นหน้าขึ้นมาทำความเสียให้ให้กับกระจกรถแล้ว เมื่อขับรถบนถนนที่มีความราบเรียบใกล้กับรถคันหน้ามากเกินด้วยความเร็วไปก็ยังมีโอกาสที่มีเศษกรวดหรือหินเล็กๆ บนถนนดีดขึ้นมาจากรถคันหน้าสร้างความเสียหายได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นแม้ว่าจะเดินทางบนถนนที่ราบเรียบก็ยังควรที่จะทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเมื่อใช้ความเร็ว และหากเกิดเหตุการณ์ถูกหินหรือกรวดดีดขึ้นมาจนทำให้กระจกหน้ารถเสียหายหนัก ก็ควรรีบเปลี่ยนกระจกใหม่ทันทีที่ทำได้เพื่อความปลอดภัย

• อย่ารุนแรงกับประตูรถ

        ไม่ว่าจะโดยไม่ตั้งใจหรือเพื่อระบายอารมณ์ การปิดประตูรถด้วยความรุนแรงอย่างการกระแทกปิดบ่อยๆ  ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับกระจกหน้าต่างหรือแม้แต่กระจกหน้าของรถได้ เพราะการสั่นสะเทือนของประตูที่ถูกปิดอย่างรุนแรงบ่อยๆ อาจทำให้กระจกรถที่ติดแน่นอยู่คลายความแน่นลง นอกจากนี้หากมีรอยร้ายหรือรอยแตกเล็กๆ อยู่แล้ว การกระแทกของประตูรถก็อาจขยายบาดแผลนี้ให้ใหญ่ขึ้นด้วย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th