กระบะเชฟโรเลต ตำนานที่ข้ามกาลเวลามาแกร่ง
เชฟโรเลต เป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่สร้างประวัติศาสตร์และตำนาน รวมถึงสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่น่าจดจำข้ามผ่านกาลเวลามาทุกยุคทุกสมัย กลายเป็นรถยนต์อเมริกันที่โดดเด่นด้านความอึด ทน แกร่งและเติมเต็มความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกและปลอดภัยมาถึงปัจจุบัน
1976 Chevrolet C10 Stepside
1995 Cherolet Cameo-Carrier
สำหรับรถกระบะเชฟโรเลต ชื่อของ “โคโลราโด” จะถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในกลุ่มของผู้ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งโคโลราโดรุ่นใหม่ มีการพัฒนาและผลิตขึ้นมาบนตำนานความสำเร็จของรถกระบะเชฟโรเลตที่ได้รับการยอมรับว่ามีห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย รูปทรงแข็งแกร่ง และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ ระบบช่วงล่างและขุมพลังดูราแมกซ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะที่ทรงพลังเป็นเยี่ยม
2001 Chevrolet Silverado
และนี่คือบางส่วนของรถกระบะของเชฟโรเลตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์
แอดวานซ์ ดีไซน์ ซีรีส์ (ปี 1947 – 1955) (The Advance Design Series) เป็นรถใหม่รุ่นแรกของจีเอ็มหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเวอร์ชั่นปี 1955½ เป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมเครื่องยนต์สมอลบล็อก V8 ซึ่งขับเคลื่อนอยู่ในคอร์เวทท์เช่นกัน แอดวานซ์ ดีไซน์ ซีรีส์ช่วยวางรากฐานรถกระบะให้เชฟโรเลต และเป็นรถกระบะที่สร้างความสำเร็จให้จีเอ็มและอเมริกาหลังสิ้นสุดสงคราม
ทาสก์ ฟอร์ซ ซีรีส์ (ปี 1955 – 1959) (The Task Force Series) รวมถึงรถกระบะน้ำหนักเบาอาปาเช่และคาเมโอ ซึ่งเป็นรถกระบะสำหรับใช้งานส่วนบุคคลรุ่นแรกของเชฟโรเลต มาพร้อมสีตัวถังและการตกแต่งภายในแบบทูโทน คาเมโอเน้นความหรูหรา ถ่ายทอดการออกแบบหลายส่วนมาจากรถซีดานคลาสสิก เชฟโรเลต เบลแอร์
1961 Chevrolet-Corvair-Rampside
คอร์แวร์ 95 แรมพ์ไซด์ รุ่นปี 1961 – 1964 (The 1961-64 Corvair 95 Rampside) เปิดแนวคิดใหม่ให้รถกระบะ โดยมีแผงประตูด้านข้างที่เปิดออกได้ แรมพ์ไซด์เป็นรถกระบะที่มีความแตกต่างอย่างมาก และแสดงถึงศักยภาพของจีเอ็มในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เรายังคงใช้ในการพัฒนารถกระบะในปัจจุบัน
1970 Chevrolet El Camino SS
เอล คามิโน รุ่นปี 1970 (The 1970 El Camino) สร้างแนวคิดใหม่ให้กลุ่มรถกระบะด้วยเช่นกัน ด้วยการออกแบบคล้ายรถมัสเซิลคาร์ซึ่งมาพร้อมพื้นที่กระบะหลังแทนที่ฝากระโปรงหลัง
ซี/เค ซีรีส์ (รุ่นปี 1960 – 1999) (The C/K Series) รวมถึงรุ่นทรงอิทธิพลในปี 1988 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นความนิยมให้รถกระบะแนวสปอร์ตในช่วงทศวรรษที่ 1990 และนำมาสู่การพัฒนารถกระบะอีกหลายรุ่น อย่างโคโลราโด ไฮ คันทรี สปอร์ต เอดิชั่น
ซิลเวอร์ราโด ซีรีส์ (รุ่นปี 1999 – ปัจจุบัน) (The Silverado Series) รวมถึงรุ่นปี 2001 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ดีเซลที่มีพละกำลัง แรงบิดและความประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้นที่สุด ทำให้จีเอ็มเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ถึงสามเท่าภายในปี 2002 จีเอ็มผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ในประเทศไทยและส่งออกสู่อเมริกาเหนือสำหรับใช้งานในโคโลราโด
อวาแลนซ์ รุ่นปี 2002 (The 2002 Avalanche) มาพร้อมตัวถังแบบชิ้นเดียวและระบบการเปลี่ยนพื้นที่กระบะหลังเอกสิทธิ์เฉพาะซึ่งมีช่องระหว่างห้องโดยสารและกระบะหลังเพิ่มความอเนกประสงค์ ตลอดจนแผงกระจกหลังที่ถอดออกได้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอีกหลายนวัตกรรมที่จีเอ็มนำเสนอในกลุ่มรถกระบะ
โคโลราโด ไฮ คันทรี รุ่นปี 2015 (ประเทศไทย) และโคโลราโด รุ่นปี 2016 (สหรัฐอเมริกา) คือรถกระบะขนาดกลางสองเวอร์ชั่นของเชฟโรเลต โคโลราโดเป็นรถที่มีความสำคัญที่สุดของเชฟโรเลตในประเทศไทย และได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอเมริกาเหนือซึ่งบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ที่ผลิตในประเทศไทย
สำหรับ โคโลราโด รุ่นใหม่ ล่าสุดรุ่นปี 2017 ติดตั้งเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ที่ถูกปรับปรุงใหม่ ลิตร มีพละกำลัง 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร (325 ฟุต-ปอนด์) ที่รอบต่ำ 2,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รุ่นนี้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีดตามแต่รุ่นย่อย โดยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดได้รับการปรับแต่งอัตราทดเกียร์ใหม่ เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงยังมาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS)
ภายนอกถูกออกแบบด้านหน้าใหม่เน้นความสปอร์ตทั้งแผงกันชน กระจังหน้า ฝากระโปรง และไฟหน้า ติดตั้งไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันแอลอีดีรูปทรงเรียวบางที่พร้อมดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน
ภายในห้องโดยสารของโคโลราโดรุ่นใหม่ ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและความหรูหราเหมือนกับภายนอก ด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมดที่เน้นความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง ความประณีต และเทคโนโลยี
แผงแดชบอร์ดและการตกแต่งเบาะที่นั่งใหม่ยกระดับความรู้สึกพรีเมียม ซึ่งออกแบบเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยเฉพาะ
ขณะที่คอนโซลกลางที่ถูกปรับดีไซน์ใหม่ทำให้ใช้งานได้ง่ายดายมากขึ้น การจัดวางตำแหน่งเน้นความสะดวกสบายด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่น) และระบบอินโฟเทนเมนท์ มายลิงค์ รองรับ Apple CarPlay สำหรับแสดงผลจากสมาร์ทโฟน รวมถึงยังมีฟังก์ชั่น สิริ อายส์ฟรี และซอฟท์แวร์สั่งงานด้วยเสียง วัสดุผ้าให้พื้นผิวสัมผัสนุ่มนวล การตกแต่งทั่วทั้งห้องโดยสารให้ความสะดวกสบาย มีการเลือกใช้วัสดุอย่างละเอียดเพื่อให้มีความทนทานและเพิ่มความสะดวกสบาย สำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง การตัดเย็บที่ออกแบบมาสำหรับโคโลราโดโดยเฉพาะ
ด้านความปลอดภัยติดตั้งทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั้งขณะออกตัวและในโค้ง Traction Control System (TCS), ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน Panic Brake Assist (PBA), ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control (HDC) และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน Hill Start Assist (HSA) พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่
และนี่คือ รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ตำนานความแกร่งที่ข้ามกาลเวลา พิสูจน์ความแกร่งและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมได้ด้วยตัวคุณเอง..เพราะคุณคือผู้ตัดสินใจ
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th