กลับมาสู่ความเรียบง่าย แต่สมบูรณ์แบบด้วย “นิสสัน โน๊ต”
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แสงแดดอ่อนๆ ผ่านม่านหน้าต่างเริ่มแยงตา เสียงนกกระจอกเจื้อยแจ้วเสียงใสช่วยให้สติกลับมาอีกครั้ง เช้าวันนี้เป็นวันดีๆ อากาศกำลังสบาย ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วจิบกาแฟเพลินๆ ในหัวไม่ต้องคิดอะไร ปล่อยจิตใจให้อยู่กับสิ่งที่เห็น แล้วหยิบกุญแจ “นิสสัน โน๊ต” สตาร์ทเครื่องแล้วชวนครอบครัวออกเดินทางโดยไม่ต้องคิดว่าจะไปไหน ให้ “หัวใจ” นำทางก็เพียงพอ
นิสสัน โน๊ต (Nissan NOTE) รถที่ดูเรียบง่าย ไม่เด่นจนเตะตา แต่สะกิดใจให้มองตาม..บางครั้งชีวิตไม่จำเป็นต้องตั้งโจทย์และคาดหวังเอาไว้มากมาย เพราะพื้นฐานของการใช้ชีวิตนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง การทำตามใจโดยที่ไม่รบกวนใครก็เป็นความสุขเช่นกัน เหมือนกับการขับ นิสสัน โน๊ต ออกเดินทางในครั้งนี้ ที่ไม่ได้หรูหรา แต่ตอบโจทย์การใช้งานของ “ครอบครัว” ได้อย่างตรงจุด
ประตูผู้โดยสารด้านหลังเปิดได้กว้างถึง 85 องศา สะดวกในการเข้าออก และการยกสัมภาระขนาดใหญ่
ยืดระยะห่างระหว่างเบาะหน้ากับเบาะหลังได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ช่วงขา ทำให้ผู้นั่งเบาะหลังรู้สึกสบายและผ่อนคลายกว่ารถในระดับเดียวกัน
เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ นั่งสบาย
เบาะหลังรุ่น VL ปรับแยกแบบ 60 : 40 รุ่น V พับแบบชิ้นเดียว
ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เบาะนั่งด้านหน้าและหลังกว้างขวาง โดยเฉพาะด้านหลังที่มีพื้นที่วางขาได้ถึงขนาดนั่งไขว้ขาได้ มันช่างสบายจริงๆ แนวคิดของนิสสันเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคตที่ว่า “Nissan Intelligent Mobility” เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงตอบสนองกับการขับขี่…นิสสันทำได้จริง เพราะเมื่อได้ลองควบคุมแล้ว “ความสุข” มันเกิดขึ้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเกิดขึ้นในรถคันนี้
เครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 1.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT แรงม้าไม่เยอะแต่เพียงพอต่อการใช้งานที่ 79 แรงม้า แรงบิด 1.6 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที อาจจะดูน้อยไปสำหรับคนที่ชอบขับรถที่เร็วและแรง แต่สำหรับรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างนิสสัน โน๊ต กลับเป็นสมรรถนะที่ “พอเพียง” ต่อการใช้งาน ที่สำคัญมันประหยัดน้ำมันใช้ได้เลย
การใช้งานในเมืองคล่องตัว พวงมาลัยให้ความรู้สึกถึงการตอบสนองที่มีชีวิตชีวา ขับเรื่อยๆ เพลินๆ การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบไม่สะดุด และยังสนุกได้อีกนิดด้วยเกียร์ CVT แบบ XTRONIC CVT D-Step Logic และยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ใส่มาให้ด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการใช้งานก็สามารถปิดระบบนี้ได้เช่นกัน และเพียงแค่เข้าใจในจังหวะการทำงานของเกียร์ ทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุมที่สร้างความสนุกในการขับได้ไม่ยาก
ขนาดตัวถังยาว 4,105 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,535 มม. ระยะฐานล้อ 2,600 มม. ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,480 มม. คู่หลัง 1,485 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 155 มม. ด้วยระยะฐานล้อที่ยาว ทำให้ นิสสัน โน๊ต ใหม่ เป็นรถแฮทช์แบคที่มีพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง
ส่วนการขับออกนอกเมือง อย่างครั้งนี้ขับไปเรื่อยๆ จนถึง อ.สัตหีบ แวะทานมื้อกลางวันกันริมทะเล รวมระยะทางร่วม 200 กิโลเมตร เติมน้ำมันกลับไปเต็มถังกดเครื่องคิดเลขออกมาเป็นอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 17 กิโลเมตรต่อลิตร ด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 นั่งเต็มคัน 4 คน ขับเร็วบ้าง ช้าบ้างเหมือนกับการใช้งานจริง สรุปไปกลับ อ.สัตหีบ-กรุงเทพ น้ำมันยังเหลืออีกครึ่งถัง อย่างนี้ไม่เรียกว่าประหยัดแล้วจะพูดว่ายังไง กลายเป็นรถที่ครอบครัวชื่นชอบเพราะไม่ต้องกังวลว่าไปไกลแล้วจะต้องเติมน้ำมันขนาดไหน เพราะรถคันนี้น้ำมัน 1 ถัง (41 ลิตร) ไปได้ถึง จ.เชียงใหม่ได้แน่นอน
นิสสัน โน๊ต ใหม่ ได้รับการออกแบบเส้นสายภายนอกให้ดูโดดเด่น ภายใต้เอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่มีสไตล์ สวยงาม ในทุกมุมมอง
ด้านหน้า กระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์การออกแบบภายใต้เอกสิทธิ์ของนิสสัน และช่องกันชนด้านล่างแบบโครเมียม โคมไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม LED Signature Light ไฟตัดหมอกคู่หน้า โดยไฟหน้าสามารถปรับระดับสูงต่ำได้
กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ให้ความสะดวกและปลอดภัย แต่มีขนาดเล็กไปหน่อย ทำให้ต้องเพ่งมองมากขึ้น แต่สามารถปรับสายสัญญาณให้มาแสดงผลที่หน้าจอเครื่องเล่นที่คอนโซลได้
แม้ว่ารถคันนี้จะดูเรียบง่าย แต่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่จัดมาให้สุดคุ้มไม่ว่าจะเป็น กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง มองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว จากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection) โดยแสดงผลที่กระจกมองหลัง ให้ความปลอดภัยและก้าวล้ำเทียบเท่ารถยนต์ระดับหรูขนาดใหญ่
ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง
เข้าเกียร์ถอย R ก็จะแสดงผลที่กระจกมองหลังเช่นกัน พร้อมเส้นกริดบอกตำแหน่ง
ปุ่มควบคุมเปิด-ปิดระบบต่างๆ ติดตั้งอยู่บริเวณด้านขวาของพวงมาลัย อยู่ในตำแหน่งที่ปรับได้ง่าย
ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ เซ็นเชอร์จากกล้องด้านหน้ารถจะตรวจจับบุคคล และยานยนต์บริเวณหน้ารถ แล้วส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยวิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วด้วยกล้องด้านหน้า แล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถบรรเทาอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนยานยนต์ และ ครั้งแรกในรถ อีโค-คาร์ กับระบบ Lane Departure Warning ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทางที่ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ ด้วยเสียงและสัญญาณไฟที่บริเวณหน้าปัดเมื่อรถออกนอกช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะทำงานที่ความเร็วมากกว่า 70 กม./ชม.
ด้วยราคารุ่น V 568,000 บาท และรุ่น VL 640,000 บาท เป็นราคาที่เป็นเจ้าของได้และค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ถ้าไม่ต้องการออปชั่นเยอะ ขอเพียงสิ่งที่ให้มาเป็นพื้นฐานในรุ่น V ก็พอเพียงต่อการใช้งานแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวได้อย่างลงตัว เพราะรถที่ดีไม่ใช่รถที่แรง เร็ว หรือเทคโนโลยีชั้นสูง แต่เป็นรถที่มีความเรียบง่าย ควบคุมได้ ปลอดภัยและสร้างรอยยิ้มให้กับครอบครัวได้เหมือนกับ นิสสัน โน๊ต คันนี้.
มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิทัล เสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า ระบบเตือนเมื่อลืมกุญแจ
เส้นสายด้านข้าง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ดูสวยงาม สปอร์ต พลิ้วไหว ยังได้รับการออกแบบให้มีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) ต่ำสุดเพียง 30 ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดี ลดเสียงรบกวน และประหยัดเชื้อเพลิง มือจับประตู โครเมียม เพิ่มความหรูหรา กระจกข้างสีเดียวกับตัวรถ พับและปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวบนฝาครอบกระจก ดูสวยงามและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต แบบ D-Shape ปรับสูงต่ำได้ โดยรุ่น VL เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ระบบความบันเทิงในรุ่น V ติดตั้งวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง AUX, USB ลำโพงคุณภาพเสียงดี 4 ตำแหน่ง ส่วนรุ่น VL ติดตั้ง วิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอ LED แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว เพิ่มความสะดวกในการควบคุม ระบบเชื่อมต่อ AUX, USB, Bluetooth และช่องเชื่อมต่อ AV-in , HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth ลำโพง 4 ตำแหน่ง พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ที่พวงมาลัย
ปีกเบาะโอบกระชับ นั่งสบาย
เบาะหลังกว้างพับได้ ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์
ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์ ให้ทั้งมุมมองสปอร์ตและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ (รุ่น VL) ไฟท้าย LED แบบ Signature รูปทรงบูมเมอแรง ดูโฉบเฉี่ยวมีเอกลักษณ์ พร้อมไฟเบรกแบบ LED
มียางอะไหล่ติดตั้งมาให้ด้วย
กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer
กลับมาสู่ความเรียบง่าย แต่สมบูรณ์แบบด้วย “นิสสัน โน๊ต”
เรื่อง/ภาพ : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th