คันไหนคุ้ม All NEW HONDA CITY รุ่นล่างสุด กับรุ่นท็อปสุด ราคาต่างกัน 1.595 แสนบาท
All NEW HONDA CITY นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจด้วยรูปทรงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทันสมัย อีกทั้งยังได้เครื่องยนต์รุ่นใหม่พร้อมเทอร์โบเข้ามาประจำการ ทำเอาวัยรุ่นขาซิ่งอยากจับจองเป็นเจ้าของไปตามๆกัน และด้วยความที่ All NEW HONDA CITY ออกมาทั้งหมดถึง 4 รุ่นย่อย ทำให้ราคารุ่นล่างสุด กับรุ่นสูงสุดห่างกันถึง 159,500 บาท เลยทีเดียววันนี้เราจะมาดูกันว่าเงินอีกแสนกลางๆนี่จะมีอะไรหายไปบ้าง
ราคา
รุ่น 1.0 TURBO S CVT 579,000 บาท
รุ่น 1.0 TURBO RS CVT 739,000 บาท
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เหมือนกันทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยน เป็นเครื่องเบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 988 ซีซี. ระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20 ปล่อย CO2 99 g./km.
ภายนอก
เรามาดูอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่นล่างสุดที่ฮอนด้าเค้าให้มากันก่อนเลย แน่นอน เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 TURBO 122 แรงม้า 173 นิวตันเมตร และ เกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมัน E20 ระบบเบรกคู่หน้า ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดรัมเบรกพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลัง Torsion Beam เหมือนกับรุ่นสูงสุด ล้อกระทะเหล็ก – ฝาครอบล้อ ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R15 อันนี้ไม่เหมือนแน่นอนเพราะรุ่นสูงสุดเค้าให้ ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R16 เลยนะคุณ ไฟหน้าก็เป็นอีก 1 จุดที่สำคัญเพราะเจ้ารุ่นถูกสุดนี่ได้แค่ Projector Lens แบบฮาโลเจน แต่รุ่นท็อปสุดเป็น Projector Lens LED ซึ่งมันหล่อเหลากว่าเยอะทีเดียว ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์ ไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟท้าย แบบ LED มีเหมือนกัน อ่อรุ่นท็อปเค้าให้ไฟตัดหมอกLEDด้วยรุ่นอื่นไมมี กระจังหน้าโครเมียมดูไม่ซิ่งเท่าไหร่นักแต่รุ่นท็อปเป็น Gloss Black สีดำเงา นอกจากนี้เค้ายังมี กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต รุ่น RS กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต รุ่น RS สปอยเลอร์หลัง สีดำเงา Gloss Black หล่อมากบอกเลย มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถเหมือนกัน ระบบปัดน้ำฝน แบบปรับตั้งหน่วงเวลาได้ เสาอากาศแบบครีบฉลาม ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า – หลัง เหมือนกัน กระจกมองข้าง ปรับด้วยไฟฟ้าแต่พับด้วยมือ ส่วนของรุ่นท็อปปรับด้วยไฟฟ้าและพับไฟฟ้า
สรุป ภายนอกที่รุ่นท็อปสุดได้เพิ่มขึ้นมาคือ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R16 ไฟหน้าแบบ LEDไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED กระจังหน้า สีดำเงา Gloss Black กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต รุ่น RS กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต รุ่น RS สปอยเลอร์หลัง สีดำเงา Gloss Black มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถกระจกมองข้าง สีดำเงา Gloss Black
ภายในห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำเหมือนรุ่นท็อป เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า แต่รุ่นท็อปเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับ Suede สลับผ้า ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายสีแดง เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศ แบบธรรมดา กุญแจรีโมท พร้อมสวิตซ์เปิดฝากระโปรงท้าย ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button ระบบ Idle Stop พร้อมสวิตซ์เปิด-ปิด พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก) รุ่นท็อปมีเพิ่มเติมคือแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift และมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด Eco Indicator ปุ่ม ECON ส่วนรุ่นท็อปโดดเด่นกว่าด้วย มาตรวัดเรืองแสง Optitron สีแดง ช่องชาร์จไฟ 12V 1 ตำแหน่ง แต่รุ่นท็อปมี 2ตำแหน่ง ที่บังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้า ฝั่งคนขับ มือจับภายในห้องโดยสาร 3 ตำแหน่งรุ่นท็อปให้ 4 ต่ำแหน่ง ไฟส่องสว่างที่เก็บสัมภาระด้านท้าย เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง / รับสาย-โทรออก บนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ลำโพง 4 ตำแหน่ง ในขณะที่รุ่นท็อปมี 8 ตำแหน่ง และมาพร้อมระบบระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT สั่งการทำงานของรถยนต์ ล็อค – ปลดล็อค สั่งสตาร์ทรถยนต์ สั่งเปิดสัญญาณไฟ แสดงพิกัดตัดรถ Find My Car ในรุ่นล่างสุดจะมี ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง)ส่วนรุ่นท็อปจะมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
สรุป สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นท็อป เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับ Suede สลับผ้า ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายสีแดง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาตรวัดเรืองแสง Optitron สีแดง ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่บังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้าฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ที่วางแขน เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่วางแก้ว มือจับภายในห้องโดยสาร 4 ตำแหน่ง ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT สั่งการทำงานของรถยนต์ ล็อค – ปลดล็อค สั่งสตาร์ทรถยนต์ สั่งเปิดสัญญาณไฟ แสดงพิกัดตัดรถ Find My Car ลำโพง 8 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
ระบบเพื่อความปลอดภัยต่างมีให้เหมือนกัน
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบสัญญาณกันขโมย
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
สีตัวถังภายนอก
สีแดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น RS) และ สีขาวมุก Platinum White Pearl (เฉพาะรุ่น RS / SV) เพิ่มเงิน 10,000 บาท นอกนั้น สีดำ Crystal Black Pearl เพิ่มเงิน 6,000 บาท สีเงิน Lunar Silver Metallic สีเทา Modern Steel Metallic และสีขาว Taffeta White มีในทุกรุ่น
สรุป แล้วรุ่นล่างสุด และรุ่นท็อปสุดราคาต่างกันถึง 159,500 บาท แต่มันก็แลกมาด้วยออฟชั่น ระบบ ต่างๆที่อัดมาเต็มในรุ่นท็อป แถมยังมาพร้อมกับหน้าตาอันหล่อเหลาสปอร์ตราคาถามว่ารุ่นท็อปราคา 739,000 บาท ถามว่าแพงมั้ย แพงครับ !! แต่ถ้าอยากได้หล่อออกมาจากโรงงานไม่ต้องทำอะไรเพิ่มมากก็ตอบโจทย์อยู่นะครับ ส่วนท่านไหนต้องการแค่เครื่องยนต์ ส่วนอื่นๆต้องเอาไปแต่งเพิ่มอยู่แล้วตามสไตล์คุณผมว่ารุ่นล่างสุดราคา 579,000 บาท ดูจะคุ้มค้ามากที่สุดครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th