คาราวานมาสด้าพิชิตแสงเหนือ วันที่สอง ล่องเรือทะเลบอลติกข้ามไปฟินแลนด์
เข้าสู่วันที่ 2 ของการเดินทาง คาราวานมาสด้า ตอนรับแสงแรกของสวีเดน วันนี้สบายๆ เปิดหน้าต่างรับอากาศเย็น 17 องศา เสียงเรียกตอนเช้าของหัวหน้าทริ๊ปย้ำอีกครั้ง “วันนี้ไม่มีขับ” ใช่ครับ เพราะตามโปรแกรมช่วงบ่ายสามต้องไปเข้าคิวลงเรือ Viking Line ข้ามทะเลบอลติกจากสวีเดนไปฟินแลนด์ เป็นเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ระดับหรือเดินสมุทรที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง และแน่นอนมันบรรทุกรถ Mazda CX-5 ของเราข้ามไปด้วย ดังนั้นต้องมีขั้นตอนลงเรือเล็กน้อยจึงทำให้ช่วงเช้าถึงเที่ยง เป็นการท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าในเมืองสต๊อกโฮล์ม
ช่วงสายหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายเนื่องจากมีมิจฉาชีพย่องดอดเอากระเป๋าถือสมาชิกในกลุ่มไปจากล้อบบี้โรงแรมทำให้ต้องรีบแก้ไข โดยการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ติดต่อสถานทูตไทยที่อยู่ใกล้ รร. ห่างไปนิดเดียว ออกพาสปอร์ตชั่วคราวให้ ซึ่งผ่านพ้นไปด้วยดี เนื่องจากเราต้องใช้พาสปอร์ตตลอดทุกวันในการข้ามประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ทำเอาหลายคนถึงกลับต้องระวังตัวแจ เพราะคิดว่าฝรั่งแถบนี้น่าจะปลอดภัย ไม่ใช่อเมริกา หรือฝรั่งเศลนะเว๊ย! แต่อย่างว่าคนท้องถิ่นบอกว่า คนอพยพเยอะ หลายอย่างเปลี่ยนไป
ออกเดิน “ย้ำ” เราต้องใช้พลังกายอย่างมากในการเที่ยวชมเมืองเพราะว่าหลายคนเป็นครั้งแรกในการเที่ยวยุโรปเหนือ ตัวผมด้วยก็เช่นกัน ไม่อยากให้เวลา 4 ชั่วโมงที่มีสูญปล่าว ต้องเดินเข้าออกร้านรวงให้คุ้มค่าการมาที่สุด เผลอแป๊ปเดียวเราออกมาห่างจากจุดนัดร้านอาหารไทยเกือบครึ่งชม. ดีที่ยุคนี้มีสมาร์ทโฟน และกูเกิ้ลนำทางดูแผนที่ ไม่ง้อทัวร์ ต้องเตือนตัวเองอย่าออกนอกวง อย่างกับเล่นเกม PUBG ไม่งั้นไม่ทันนัดแน่ ร้านส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตลอดเส้นทางในตึกที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา เหมือนมีการควบคุมดีไซน์ให้มันดูคลาสสิค อย่างมากก็แค่ป้ายร้านเล็กๆ ที่บอกว่าขายอะไร กับพรมที่มีโลโก้ร้านพร้อมให้นักท่องเที่ยวมาเหยีบย่ำ ใช่ครับนิสัยคนไทย ไม่ร้อนรองเท้ากีฬา ก็เครื่องสำอางค์ ที่มักจะเข้าไปเช็คราคา กันแต่แล้วก็ต้องถอย เพราะมันไม่ต่างจากบ้านเราเลย ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ของคนแถบนี้ที่ไม่คุ้น โดยเฉพาะร้านเครื่องหนังจะเยอะหน่อย และร้านกาแฟมีให้เลือกชิมเพียบ
ถึงเวลาเติมพลัง “ร้านเจ๊เป้า” หรือในชื่อ SiamThai Gamlastan คนไทยส่วนใหญ่อยู่ยุโรปเยอะเหมือนกันมีหลายแบบเป็นเจ้าของกิจการบ้าง (ร้านอาหาร) บางคนทำงานตาม รร. เป็นแม่บ้าน เหมือนที่เราพักเจอเพียบเลยคุยกันง่าย แต่ไม่รู้ทำไมสองร้านที่ผ่านมาต้องตกแต่งสไตล์อยู่ในถ้ำ “ไทยสไตล์” ไม่ใช่มั่ง ถือว่าเป็นการวางแผนทริ๊ปได้ดีอาหารเที่ยงส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย ต้มยำรวมมิตร กระเพรา ชูชี่ปลา ไข่เจียว ผัดผัก ให้หายคิดถึงบ้านได้บ้าง ก่อนที่จะแอบตุนใส่กล่องไว้กินมื้อดึก และแล้วก็ได้เวลาเดินกลับ รร. เพื่อเก็บกระเป๋า ขับรถมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ
จำหนังยุคไวกิ้งได้ไหม เป็นหัวข้อที่เราคุยกันส่วนใหญ่ ระหว่างกรีก โรมัน ใครเก่งรบทางทะเลมากกว่ากัน หัวข้อการสนทนาครั้งเพราะมันไปคล้องกับชื่อเรือ Viking Line เป็นเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่โครต มีห้องพักเหมือน รร. คาสิโน ร้านอาหาร ผับบาร์ รวมถึงที่สันทนาการเพียบ คืนเดียวไม่มีเบื่อ ห้องพักมีหลายแบบ แล้วแต่งบประมาณ เริ่มต้นที่ 100 ยูโรโดยประมาณ ราคาขนรถไปด้วย แล้วท๊อปอัพเข้าไปเรื่อยๆ เช่นค่าอาหารเย็นบุฟเฟ่ อาหารเช้า เป็นต้น แพงไหม ไม่หรอกค่าครองชีพไม่เหมือนกัน แถบคนที่เอารถข้ามไปฟินแลนยังไงๆ เที่ยวไม่ง้อแท๊กซี่คุ้มกว่าอยู่แล้ว จากรถที่เราจอดขึ้นลิฟท์มาชั้นเดียวเป็นโซนห้องพัก สะดวกมากในห้องมีเตียง 4 เตียงแบบพับ “นึกถึงตู้นอนรุ่นใหม่ของการรถไฟก็ได้” ห้องน้ำในตัวสบายเลยคืนนี้ มี Wifi ให้เล่นด้วย (เอาเข้าจริงใช้งานไม่ได้เลย) ในห้องไม่มีน้ำดื่ม ไม่เป็นไรในรถมีหลายโหล อ้าว…ข้อมูลใหม่เดินไปชั้นจอดรถไม่ได้ถ้าไม่ถึงเวลาลงเรือก่อนครึ่ง ชม. ดีนะเรามันพวกกระเพาะใหญ่ตุนจากห้องอาหารเย็นมาเยอะอยู่ได้ยันเช้า เอาจริงก็หัวถึงหมอนหลับเป็นตายตื่นมาตอนแสงสาดจากหน้าต่าง เฮ้ยนี่มันทะเลเพียวๆ คลื่นลมไม่แรงมาก ไม่บอกไม่รู้ว่าอยู่ในเรือ นิ่งดีจริงๆ เพราะตอนมาถึงก็เกือบมืด
“เตรียมลุยต่อวันที่ 3 ถึงแล้ว่าเรือเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ พร้อมขับ…เป้าหมาย 390 กม. สู่เมืองคูโอปิโอติดตามได้เร็วๆ นี้ ลุยบ้านซานต้า!”
เรื่อง ภาพ : ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th