จานเบรก เลือกอย่างไรเมื่อต้องเปลี่ยน
แม้ จานเบรก จะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ หรือมีกำหนดที่แน่นอนว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ต่างกับชิ้นส่วนอื่นๆ ในรถยนต์ที่เมื่อใช้งานไปแล้วมีการสึกหรอไปเรื่อยๆ จนต้องเปลี่ยนเมื่อมีการสึกหรอถึงระดับหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาที่ควรจะต้องเปลี่ยนก็ควรทำ เพราะนี่คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหยุดรถซึ่งหมายถึงความปลอดภัยในการเดินทาง แต่หากไม่รู้ว่าเมื่อเปลี่ยนจานเบรกแล้วควรจะเลือกอย่างไร เพราะมีหลายแบบให้เลือกลองมาทำความรู้จักกับจานเบรกแบบต่างๆ รวมทั้งจุดเด่นของจานเบรกแต่ละแบบดู
เมื่อจะเปลี่ยนจานเบรกจะพบว่ามีลักษณะของจานเบรกหลายแบบให้เลือกทั้งจานเบรกแบบเรียบธรรมดาเหมือนที่ติดมากับรถยนต์ทั่วไปจากโรงงาน, จานแบรกแบบเซาะร่อง, จานเบรกแบบเจาะรู, และจานเบรกที่ทั้งเจาะรูและเซาะร่อง ซึ่งจานเบรกแต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
จานเบรกแบบเรียบ
จานเบรกแบบเรียบที่ผลิตมาจากการนำเหล็กมาหล่อให้มีลักษณะเป็นจานเบรกมีผิวหน้าเรียบปกติ มักพบเห็นได้ว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มาจากโรงงานกับรถยนต์รุ่นทั่วไป หากเปลี่ยนจานเบรกแล้วเลือกใช้จานเบรกลักษณะนี้ข้อดีหนึ่งคือจากลักษณะของผิวหน้าจานเบรกที่รียบจึงทำให้มีอายุการใช้งานทั้งตัวจานเบรกและผ้าเบรกนานกว่าจานเบรกแบบอื่น รวมทั้งยังเงียบและไม่ทำให้เกิดฝุ่นจากการเบรกมากเมื่อเทียบกับจานเบรกแบบอื่น ดังนั้นจานเบรกแบบเรียบตันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาจานเบรกแทนของเดิมที่มีลักษณะเหมือนกับจานเบรกที่ติดรถมาจากโรงงานสำหรับการขับรถทั่วไปในแต่ละวัน หรือหากพอใจกับประสิทธิภาพการเบรกจากจานเบรกแบบเรียบที่มากับรถอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้จานเบรกแบบอื่น
จานเบรกเซาะร่อง
จานเบรกที่มีลักษณะถูกเซาะเป็นร่องยาวบนผิวหน้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกมากขึ้นกว่าจานเบรกแบบเรียบปกติ จึงทำให้เหมาะกับรถสมรรถนะสูง รถแข่งหรือรถที่บรรทุกหนัก รวมไปถึงรถเอสยูวีและรถออฟโรดที่ต้องการประสิทธิภาพการเบรกสูงขึ้น โดยร่องบนจานเบรกจะช่วยป้องกันการเสียดสีที่น้อยลงจากแก๊ซที่เกิดจากเบรก กำจัดเขม่าที่เกิดจากความร้อนของผ้าเบรกออกไป ทำให้ได้ใช้เนื้อผ้าเบรกที่มีความสดใหม่กว่าในการเบรกครั้งต่อไป ส่งผลให้มีการจับตัวระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรกดีขึ้น มีประสิทธิภาพที่สูงในการเบรกแม้กับรถที่บรรทุกหนัก รวมทั้งยังช่วยระบายความร้อนที่ผิวจานเบรกได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับจานเบรกแบบเซาะร่องก็คือจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าจานเบรกแบบอื่น รวมไปถึงยังทำให้ผ้าเบรกมีอายุการใช้งานที่สั้นด้วย
จานแบรกแบบเจาะรู
จานเบรกแบบเจาะรูจะเพิ่มประสิทธิภาพการหยุดมากขึ้นกว่าจานเบรกแบบเซาะร่องเนื่องจากมีการจับและเสียดสีมากขึ้นกว่าจานเบรกแบบเซาะร่อง ในขณะที่รูบนผิวหน้าของจานเบรกจะช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้มากขึ้น เนื่องจากรูบนจานเบรกทำให้อากาศไหลเวียนได้ดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าด้วยคุณสมบัติของจานเบรกจึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถสมรรถนะสูง รวมทั้งยังมักเห็นรถสมรรถนะสูงหลายรุ่นที่มีจานเบรกเจาะรูเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาพร้อมกับรถ แต่นอกจากนี้จานเบรกแบบเจาะรูยังมีประโยชน์เมื่อขับรถในสถานการณ์ที่ฝนตกด้วย เพราะรูบนจานเบรกจะช่วยเป็นช่องทางให้น้ำออกระบบเบรกได้มากขึ้น รวมไปถึงยังเป็นจานเบรกที่มีน้ำหนักเบากว่าแบบอื่น
อย่างไรก็ตามแม้จะเหมาะสำหรับใช้กับรถสมรรถนะสูง แต่จานเบรกแบบเจาะรูอาจเกิดการแตกร้าวได้เมื่อใช้กับรถแข่งซึ่งมักมีความร้อนสูงในขณะแข่ง รวมไปถึงยังทนต่อการเปลี่ยนแปลงของการเปลี่ยนความร้อนและเย็นซ้ำๆ กันได้ไม่มากนัก นอกจากนี้ยังมักสึกหรอในลักษณะเป็นร่องวนจากตรงกลางเมื่อรูบนผิวจานเบรกมีรูปแบบไม่เรียบ
จานเบรกเจาะรูและเซาะร่อง
นี่เป็นการประนีประนอมทั้งในด้านคุณสมบัติข้อดีและข้อเสียของจานเบรกที่มีผิวหน้าไม่เรียบทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกันทั้งในด้านการระบายความร้อน การขจัดคราบบนผ้าเบรกออกไปเพื่อให้ได้เนื้อผ้าเบรกที่ใหม่สำหรับหยุดรถ หรือช่วยนำน้ำออกจากระบบเบรกเมื่อฝนตก แต่อย่างไรก็ตามจานเบรกแบบนี้อาจไม่ได้มีคุณสมบัติด้านใดที่ดีกว่าจานเบรกแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ
โดยทั่วไปมักเห็นรถยนต์หรูมีจานเบรกทั้งเจาะรูและเซาะร่องติดมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และด้วยคุณสมบัติของจานเบรกที่ผสมผสานจึงทำให้เหมาะกับทั้งรถที่มีสมรรถนะสูงรวมไปถึงรถออฟโรดและรถที่บรรทุกหนักด้วย
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th