ดวลกันหมัดต่อหมัด ! สนุกแน่นอน รถใหม่พร้อมบุกไทย ปลายปี 2019 นี้
ปลายปี 2019 นี้สนุกแน่นอนครับ เพราะคาดว่าหลายค่ายจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาสู้กันช่วงไตรมาสสุดท้ายปลายปี โดยเฉพาะ 4 รุ่น จาก 4 ค่าย 2 เซ็กเม้นท์ ที่เรียกได้ว่าออกมาดวลกันหมัดต่อหมัดสู้กันแบบไม่มีใครยอมใคร มีรถอะไรรุ่นไหนบ้างเราไปชมกันครับ
All New Toyota Corolla Altis 2019 ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 800,000 บาท
แน่นอนรถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าทั้งหมดจะใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ที่เน้นจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน แถมมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และไฮบริด 1.8 ลิตร มาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบครันไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าฮาโลเจน Bi-beam ปรับระดับสูง-ต่ำได้, เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนัง, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง, หน้าจอ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงผลด้วยสี, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC และระบบ Active Bending Assistant System (ACA) ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, แผงคอนโซลตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ค, ระบบปรับอากาศ S-FLOW, ระบบอินโฟเทนเม้นท์ Toyota Drive+ Connect หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบปรับมุมต่ำอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และเซ็นเซอร์ช่วยกะระยะท้าย มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล, หน้าจอ MID แบบสีขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง, ระบบอินโฟเทนเม้นท์หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว, กุญแจ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และระบบเตือนมุมอับสายตา BSM เป็นต้น
ในรุ่นไฮบริดจะเป็นไฟหน้า LED Bi-beam ปรับสูง-ต่ำได้จากสวิตช์ภายในรถ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, หน้าจอ Head-up Display แสดงผลด้วยสี, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า, ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร และกล้องมองภาพรอบทิศทาง เป็นต้น
[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ประกอบด้วย 4 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Pre-collision System, ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Daparture Alert และไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam
เครื่องยนต์ เบนซินรหัส 2ZR-FE ความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคอัตราทดได้ 7 สปีด มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 14.9 กม./ลิตร และ เบนซินไฮบริดรหัส 2ZR-FXE ความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 96.5 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที กำลังสูงสุดระบบไฮบริด 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 25.8 กม./ลิตร
คาดว่า Toyota Corolla Altis 2019 ใหม่ โฉมนี้ละที่จะเป็นว่าที่ Toyota Corolla Altis ใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยน่าจะช่วงเดือนกันยายนนี้ ส่วนจะมีเครื่องยนต์ไฮบริดหรือเปล่านั้นต้องรอลุ้นกันอีกทีนะครับ
All New Mazda 3 2019 ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 850,000 บาท
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เค้าคอนเฟริม์มาแล้วว่า All new Mazda 3 2019 มาแน่นอนในปีนี้ มาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ภายใต้เทคโนโลยี SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่มีโครงสร้างตัวถังใหม่ที่แข็งแรง มีระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่ง มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงและอยู่กลางตัวรถมากที่สุด และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ SKYACTIV-X ใหม่ล่าสุด ภายนอกของเน้นความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ด้วยการออกแบบกระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ ไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยว เน้นเส้นสายที่คมเด่นชัดมากขึ้น ขนาดและมิติสำหรับรถรุ่นใหม่ รุ่นซีดาน มีความยาว x กว้าง x สูง เท่ากับ 4,662 x 1,797 x 1,445 มิลลิเมตร และรุ่นแฮทช์แบ็ค มีขนาดตัวถังเท่ากับ 4,459 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,725 มิลลิเมตร
ส่วนรุ่นเดิมนั้น รุ่นซีดาน มีความยาว x กว้าง x สูง เท่ากับ 4,589 x 1,795 x 1,450 มิลลิเมตร และรุ่นแฮทช์แบ็ค มีขนาดตัวถังเท่ากับ 4,470 x 1,795 x 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร
สรุปก็คือ All new Mazda 3 2019 กว้างเกือบเท่าเดิม และเตี้ยลงเล็กน้อย รุ่น 4 ประตูตัวถังจะยาวกว่ารุ่นเดิม ในขณะที่รุ่น 5 ประตูกลับสั้นลงกว่ารุ่นก่อน
ภายในห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบใหม่ เน้นความเรียบง่ายแบบสีทูโทน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทาอ่อนและสีเบจ ติดตั้งหน้าจอ Infotainment ขนาด 8.8 นิ้ว มีปุ่มควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมระบบ Mazda Connect และสามารถสั่งการและควบคุมระบบต่างๆ ผ่าน Mazda Commander Control ที่บริเวณคอนโซลกลาง และมีหน้าจอ Head-up Display เพื่อแสดงผลที่กระจกหน้า
ระบบด้านความปลอดภัย ประกอบด้วย ระบบช่วยควบคุมคันเร่ง, เบรก และประคองพวงมาลัยขณะการจราจรหนาแน่น และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านหน้าขณะขับผ่าน 4 แยก
All new Mazda 3 2019 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ล่าสุด SKYACTIV-X ที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบเบนซินและดีเซล โดยมีทั้งการเผาไหม้แบบเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป และสามารถเปลี่ยนไปใช้ในรูปแบบการเผาไหม้แบบเครื่องยนต์ดีเซลได้อย่างราบรื่น โดยมีตัวควบคุมจุดระเบิดสำหรับการเผาไหม้ทั้งสอง เพื่อให้เครื่องยนต์ใหม่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทางมาสด้ายังไม่ประกาศออกมาว่าจะมีเครื่องยนต์ไหนเข้ามาขายในไทยบ้าง ซึ่งในต่างประเทศจะมีเครื่องยนต์อยู่ทั้งหมด 5 บล็อก (ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค) ได้แก่
- SKYACTIV-G เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร (ปรับปรุงใหม่)
- SKYACTIV-G เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร (ปรับปรุงใหม่)
- SKYACTIV-G เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (ปรับปรุงใหม่)
- SKYACTIV-D ดีเซล ขนาด 1.8 ลิตร
- SKYACTIV-X (Mild Hybrid)
สรุปว่าทางมาสด้าประกาศชัดเจนแล้วว่าในปี2019นี้ เราจะไปยลโฉมเจ้า All new Mazda 3 2019 อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นเครื่องยนต์รุ่นไหน และราคาเท่าไหร่บ้างนั้นต้องรอลุ้นกันต่ออีกไม่นานเกินรอครับ
All New Honda City 2019 ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 580,000 บาท
มีข่าวกระซิบหลุดออกมาว่าในช่วงไตรมาส 4 ปี 2019 หรือไม่ก็ต้นปี 2020 จะมีการเปิดตัว All New Honda City 2019 ซึ่งจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งในตลาดเมืองไทย ที่ไม่แน่ใจว่าจะเปิดปลายปี2019 หรือต้นปี 2020 นั้นก็เพราะว่าค่ายนี้ชอบเลื่อนกำหนดการเปิดตัวแบบข้ายังไม่พร้อมรอไปอีกนิดดีกว่า ซึ่งเห็นได้จากการเลื่อนการเปิดตัวของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ที่เป็นโรคเลื่อนไปเรื่อยๆจนมาช้ากว่าค่ายอื่นๆ หรือไม่แน่ All New Honda City 2019 อาจจะมาเร็วแบบเซอร์ไพรส์ก็อาจจะเป็นไปได้
All New Honda City 2019 จะเปลี่ยนขุมพลังใหม่ เป็นแบบ Downsizing 3 สูบ 1.0 ลิตร VTEC Turbo มาวางแทน เพื่อให้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม ECO-Car Phase 2 ขุมพลังใหม่สำหรับ All New Honda City 2019 จะมีให้เลือก 2 แบบ ดังนี้
เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร VTEC Turbo
เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 998 ซีซี. พร้อมระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วง Turbocharger แบบ Single Scroll ของ Borg Warner กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร (20.38 กก.-ม.) ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT ยกมาจาก Civic 1.0 Turbo เวอร์ชันจีน แต่จะมีการปรับปรุงให้สามารถเติมน้ำมัน Gasohol E85 ตามออกมาในภายหลัง
เบนซิน 1.5 ลิตร Hybrid i-MMD (New Generation)
เครื่องยนต์ L15 เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,498 ซีซี หัวฉีด PGM-FI เดิม แต่ปรับปรุงระบบ Hybrid ใหม่ โดยเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไป รวมเป็น 2 ลูก (เนื่องจากการพัฒนายังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น รายละเอียดทางเทคนิคและตัวเลขพละกำลัง จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้)
ด้านรูปร่างหน้าตา All New Honda City 2019 มีเส้นสายที่สวยงามลงตัวและดูสมส่วน รูปลักษณ์ภายนอกอ้างอิงการออกแบบจาก Honda Insight ชุดไฟหน้า และ ไฟท้าย เรียวยาว กระจังหน้าแบบ Solid Wing ส่วนชุดไฟท้ายเหมือน BMW เลยจร้า โดยรวมดูสวยงามและหรูหราขึ้นกว่าเดิม ส่วนภายในผมว่าคงจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะดูจากรูปภาพ และการออกแบบรุ่นที่ออกมาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งดูหรูหราจริงแต่ก็ไม่ ว๊าว เท่าไหร่นัก
All New Nissan Almera 2019 ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 550,000 บาท
ได้ยินมาว่า All New Nissan Almera 2019 พร้อมที่จะเปิดตัวในไทยช่วงปลายปีนี้ สำหรับเมืองไทย ทาง นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้นำ All New Nissan Almera 2019 เข้าร่วมในข้อตกลงการเป็น Eco car Phase 2 ซึ่งข้อตกลงมันก็คือ ห้ามมิให้ CO2 สูงเกินกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร และถ้าเป็นเครื่องเบนซินก็ห้ามมีความจุเกิน 1.3 ลิตร ดังนั้นเวอร์ชั่นไทย น่าจะต้องใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จแทน
รูปลักษณ์ภายนอกถ้ามาแบบในรูปจริง ก็ต้องบอกเลยว่าสวยมาก แล้วถ้านิสสันเปิดตัว All New Nissan Almera 2019 ก่อน All New Honda City 2019 คร่าวนี้ละสนุกแน่นอน เพราะเจ้าคันนี้อาจจะดึงลูกค้าที่รอ All New Honda City 2019 อยู่ให้เปลี่ยนใจก็เป็นได้ เพราะการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของรถยนต์นิสสันเหมือนกับที่ใช้ใน นิสสัน เทียน่า ด้วยกระจังหน้า V-motion, ชุดไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง ตกแต่งบริเวณเสา C แบบลอยตัวโดยใช้การเชื่อมโยงจากขอบกระจก
สำหรับภายในก็ปรับปรุงใหม่หรูหราดูดีมากกว่าเดิม ด้วยการออกแบบ Gliding Wing ให้พื้นที่ภายในกว้าง ไม่อึดอัด เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่กลมกลืนทั้งห้องโดยสาร หน้าจออินโฟเทนต์เมนต์ขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay-Android Auto, ระบบแอร์ออโต้, ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์, กุญแจ keyless พวงมาลัยท้ายตัดแบบ D-shape ซึ่งมาแทนพวงมาลัย 3 ก้านแบบเดิม ชุดมาตรวัดแบบใหม่ คล้าย Nissan LEAF ทางขวาเป็นมาตรวัดความเร็วแบบเข็มธรรมดา ทางซ้ายเป็นจอ TFT ที่ปรับแสดงค่าได้หลากหลาย
ระบบความปลอดภัย Nissan Safety Shield 360 เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบตรวจจับคนเดินเท้าและเบรกอัตโนมัติ, เตือนรถการออกจากเลน, ระบบช่วยไฟสูงอัตโนมัติ, การแจ้งเตือนจุดบอดเมื่อถอยหลัง และระบบวัดแรงดันลมยาง
ขุมกำลังคาดว่าน่าจะใช้ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 1.0 IG-T ให้พละกำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 20.4 – 19.6 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step เรายังต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าเมื่อนิสสันเปิดตัว All New Nissan Almera 2019 แล้ว จะใช้เครื่องยนต์อะไร ราคาเท่าไหร่ ปีนี้น่าจะรู้กันครับ
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]