ดูโรงงานประกอบรถเบนซ์ เจอเซอร์ไพรส์เปิดตัว EQS 450+ AMG Premium ตัวจริงอย่างงาม!
Grandprix Online ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย ภายใต้การดูแลของบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TESM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่ได้รับอนุญาตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่เพียงผู้เดียว และต้องบอกว่าในส่วนของการประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถไฮบริดและ EV ถือว่าได้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เช่นเดียวกับที่ประกอบในต่างประเทศอีกด้วย
ย้อนอดีตกลับไป 116 ปีที่ผ่านมา แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์กับประเทศไทยมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปไกลถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันแรกเข้ามาในราชอาณาจักรสยามเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2448
สายสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์กับประเทศไทยมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ได้แต่งตั้งให้บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (ในขณะนั้น) ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในปี 2493 หรือกว่า 70 ปีมาแล้ว ต่อมาในปี 2521 บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด ได้เริ่มประกอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่โรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ โดยเริ่มต้นด้วยเมอร์เซเดส-เบนซ์ W123 เป็นรุ่นแรก ก่อนจะพัฒนาสายการผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นการประกอบรถยนต์จนฉลองความสำเร็จของการประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยครบ 100,000 คันในปี 2559 การดำเนินการปรับปรุงและขยายโรงงานเพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงปี 2560-2562 และการริเริ่มให้มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริดเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นครั้งแรก ภายใต้การดูแลของบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TESM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่ได้รับอนุญาตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่เพียงผู้เดียว โดย TESM ซึ่งมีพื้นที่รวม 11,000 ตารางเมตรใช้พื้นที่ราว 10,000 ตารางเมตรสำหรับการผลิตแบตเตอรี่โดยเฉพาะ และแบ่งพื้นที่อีก 800 ตารางเมตรเพื่อการตรวจสอบและทดสอบคุณภาพของแบตเตอรี่ โดย TESM มีความสามารถในการผลิตแบตเตอรี่ที่ 30 ชุดต่อวัน
ทั้งนี้ โรงงานแบตเตอรี่ในประเทศไทยเป็นหนึ่งในเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยนับเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งที่ 6 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง 7 แห่งทั่วโลก โรงงานนี้จะผลิตเพื่อรองรับความต้องการในประเทศและเพื่อส่งออก โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีโรงงานทั้งในเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และจีนอีกด้วย เครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่นี้จะตอบสนองความต้องการในตลาดอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการผลิตรถยนต์ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่อันทันสมัยจากศูนย์กลางการผลิตในแต่ละพื้นที่ ทั้งยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา ไว้พร้อมรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นตามแผนงานรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ทั้งนี้ โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทยได้เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
TESM ให้ความสำคัญกับพนักงานซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาความสำเร็จมาให้กับธุรกิจสูงสุด จึงเป็นที่มาให้บริษัทจัดการฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญกับการบริหารสมดุลการทำงานระหว่างการใช้ระบบออโตเมติกและการใช้คนในการผลิตเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของแบตเตอรี่ที่ผลิตออกมาภายใต้การบริหารต้นทุนอย่างเหมาะสม โดยบริษัทมีความพร้อมในการผลิตและทดสอบแบตเตอรี่ทั้งสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ BEV ซึ่งเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของแบตเตอรี่ที่มีการผลิตออกมา TESM ได้มีการทดสอบและตรวจวัดคุณภาพของแบตเตอรี่ภายใต้มาตรฐานการทดสอบระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes Global Testing Standard) ทั้งในเรื่องความทนทานภายใต้อุณหภูมิที่แตกต่าง การทดสอบเรื่องการสั่น การกันน้ำและกันฝุ่น รวมไปถึงการทดสอบฟังก์ชันและสมรรถนะของแบตเตอรี่ ฯลฯ
TESM ได้เริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่รุ่น PB300 สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่น C-Class, E-Class และ GLC ขนาดความจุ 13.8 kWh ในเดือนกรกฎาคม 2562 และเริ่มส่งออกแบตเตอรี่ชนิดนี้ไปยังประเทศเยอรมนีในเดือนกรกฏาคม 2563 และในเดือนกันยายนที่ผ่านมา TESM ยังได้เริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่รุ่น PB400 ขนาดความจุที่ใช้ได้ 21.4 kWh เพื่อให้เป็นแบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่น S 580 e โดยเฉพาะ
แบตเตอรี่รุ่น PB400 ให้พลังไฟฟ้าที่มากขึ้นสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยหากเป็นการขับขี่โดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็สามารถพารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดไปได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร สำหรับการชาร์จ หากเป็นการชาร์จด้วยปลั๊กไฟฟ้าภายในบ้านจะใช้เวลา 6.15 ชั่วโมง (จาก 10-100%) หากเป็นการชาร์จผ่าน MB Wall Box จะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง (จาก 10-100%) และหากเป็นการชาร์จด้วย DC Fast Charge จะใช้เวลาเพียง 20 นาที (จาก 10-80%)
นอกจากนี้ TESM กำลังจะเริ่มต้นการผลิตแบตเตอรี่รุ่น EB40x สำหรับรถยนต์รุ่น EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะมีการประกอบในประเทศไทย โดยแบตเตอรี่รุ่น EB40x เป็นแบตเตอรี่ขนาดความจุ 107.8 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 670 กิโลกรัม สามารถใช้ขับขี่ได้ไกลถึง 770 กิโลเมตร
ในอนาคตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน TESM ยังมีแผนการสร้างระบบแบตเตอรี่เพื่อกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ได้จากโซลาร์รูฟท็อปภายในโรงงาน ผ่านการทำงานร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเรื่องคอนเซ็ปต์และเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน และกับผู้ผลิตระบบโซลาร์รูฟท็อปในประเทศไทย และมีแผนที่จะพัฒนาและต่อยอดการรียูสและรีไซเคิลแบตเตอรี่ทั้งจากในประเทศไทยและในประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ นั่นคือ การเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า 100% ถือว่าเป็นเรือธงแห่งอนาคตของเมอร์เซเดส นั่นคือเมอร์เซเดส EQS 450+ AMG Premium ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะนำรถไฟฟ้ารุ่นนี้เข้ามาขายในบ้านเรา ซึ่งจะเริ่มผลิตปีหน้า
สเปคที่ต้องว้าวคือ เมื่อชาร์จเต็มจะขับได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP มีใครให้ไกลกว่านี้มั้ย ส่วนแรงม้าก็เบาๆ แค่ 333 แรงม้า แรงบิดจัดจ้าน 568 นิวตันเมตร ออกแบบมาเพื่อให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำเงาที่มีตราเมอร์เซเดสขนาดใหญ่พร้อมตกแต่งด้วยดาวสามแฉก ไฟหน้าแบบ digital light ความสว่างระดับ high resolution ความละเอียดของแสงถึง 6 ล้านพิกเซล ไฟท้ายดีไซน์โดดเด่นแปลกใหม่และเป็นครั้งแรกกับหน้าจอแบบ mbux hyperscreen ที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด mbux7 ที่มีขนาดยาวเต็มหน้าจอถึง 56 นิ้ว พร้อมรองรับเทคโนโลยี ai ภายในห้องโดยสารดูเรียบหรูให้สัมผัสถึงความพรีเมียม
ส่วนใครที่อยากสัมผัสตัวจริงของ เมอร์เซเดส EQS 450+ AMG Premium เตรียมพบกันได้ภายในงาน Motor Expo ครั้งที่ 38 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้..พูดเลยว่ารถคันจริงสวยจัดๆ และนี่คือก้าวแรกที่สำคัญของการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้นจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เค้าตั้งใจจริง ไม่ได้สร้างภาพกันเล่นๆ นะ
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th