ทดลองขับ มินิ คูเปอร์ รถสุดแซบ ! ฟิลลิ่งโกคาร์ท
ถ้าพูดถึงรถยนต์ที่ขับสนุก ขับมันส์ แถมยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่น แถมยังมีประวัติที่ยาวนานไม่มีใครเหมือน เชื่อว่าหลายท่านคงจะนึกถึงเจ้ารถยนต์จากดินแดนผู้ดี อย่างมินิ คูเปอร์ ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่มากมายหลากหลายรุ่น หลายประเภทให้สาวกมินิได้เลือกใช้ตามไลท์สไตล์ของแต่ละคน ล่าสุด มินิ ประเทศไทย
เชิญสื่อมวลชนให้ไปลองสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ของรถ MINI ทั้ง 5 รุ่น กันบนสนามปทุมธานี สปีดเวย์ กับกิจกรรม MINI Driving Experience 2016 เราไปทดลองขับกันดีกว่าว่าเจ้ามินิมันจะขับสนุกขนาดไหน แถมวันนี้มินิ ประเทศไทยยังจัดตัวแรงอย่างเจ้ามินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ มาให้ได้สัมผัสกัน
MINI Driving Experience 2016 ครั้งนี้ทางมินิ ประเทศไทยจัดรถมาให้ลองกันทั้งหมด 5 รุ่นคือ MINI Hatch 3 Door JCW , MINI John Cooper Works ,MINI Hatch 5 Door Cooper S , MINI Clubman Cooper S และMINI Countryman Cooper SD All4 แค่เห็นชื่อรุ่นก็อยากกระโดดเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยซะแล้วนอกจากมีรถแซบๆมาให้ลองขับกัน งานนี้สเตชั่นต่างๆก็สามารถดึงสรรถนะของรถได้อย่างเต็มๆ โดยจะแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 สเตชั่นคือ 1.Figure 8 ทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว DSC 2.Elk Test ทดสอบการเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน 3. Handling Course ทดสอบการบังคับควบคุม เมื่อรถพร้อมคนพร้อม ออกไปลุยกันเลย
สเตชั่น 1 : Figure 8 สเตชั่นนี้รถทุกคันปิดการทำงาน DSC (Dynamic Stability Control หรือ ระบบควบคุมการทรงตัว) วิ่งวนไพลอนเป็นเลข 8 แถมบนสนามฉีดน้ำเอาไว้เปียกเชียวลื่นน่าดู 2 รอบแรกปิด DSC กดให้มิดเข้าไฟลอนแรก อ่อๆลืมบอกไปคันแรกนี่ผมขับเจ้า MINI Hatch 5 Door Cooper S รถรถคุมยากหน่อยเมื่อวนรอบไฟลอนด้วยความเร็ว มีอาการหน้าดื่อ รถแถบานออกยกคันเร่งนิดนึงตัวรถก็กลับเข้าสู่ไลน์ที่ต้องการแต่ต้องใช้ทักษะในการบังคับเยอะหน่อย จอดเพื่อเปิด DSC มาดูกันว่ามันจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน เหยียบคันลงไปรถพุ่งเข้าโค้งอย่างรวดเร็วระบบ DSC ทำงานทันที โอโห เนียนเลยจร้า เค้าไลน์เลข 8ได้โดยเท้าไม่ได้ยกออกจากคันเร่ง ระบบ DSC ช่วยคำนวนการทรงตัวได้ดี รับรู้ถึงการทำงานของระบบ DSC จากการที่รถจะมีอาการหน่วงเนื่องจากล้อถูกลดกำลังจากเบรกและแรงบิดของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติจนสามารถวิ่งวนเป็นเลข 8 ได้โดยไม่หลุดโค้งไปเสียก่อน เค้าโค้งได้เนียนกว่าปิดระบบ DSC เยอะพูดเลย นี่ถ้าเป็นถนนจริงผมแนะนำเลยเปิดระบบ DSC ไว้เค้าโค้งถนนลื่นขนาดไหนเอาอยู่แน่นอน
สเตชั่น 2 : Elk Test สเตชั่นนี้ผมย้ายมาจับจองเจ้าตัวแรงอย่าง MINI John Cooper Works สเตชั่นนี้เรียกกันง่ายๆว่าเลนเชนจ์ คือทดสอบการทรงตัวและการบังคับควบคุมด้วยการหักหลบในระยะกระชั้นชิด เริ่มจากทางตรงด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. ในรอบแรกและเพิ่มเป็น 60 กม./ชม. ในรอบที่สอง ก่อนถึงจุดที่ต้องหักหลบไปทางซ้ายและดึงกลับขวาทันทีเพื่อเข้าช่องทางเดิมจากนั้นเบรกจนหยุดนิ่งโดยจะมีไพลอนวางกันไว้ เปิดระบบควบคุมการทรงตัว (DSC) ตลอดนะครับ รอบแรกด้วยความที่ขับตัวแรงอย่าง MINI John Cooper Works เลยปิด DSC ไว้พอเข้ามาทดสอบในสเตชั่นนี้ลืมเปิดจร้า แถมวิ่งเข้าไปเร็วประมาณ 80 กม./ชม. เข้าเลนเชนจ์ ตัวรถมีอาการสไลด์ท้ายแถออกเล็กน้อยแต่ควบคุมอยู่ รอบสอบเปิดระบบ DSC แต่ความเร็ว 80 กม./ชม.เท่าเดิม รอบนี้เข้าเนียนเป๊ะ ไม่มีสะบัด หรือแถ พวงมาลัยเฉียมคมสุดๆรอบ3รอบ 4 เข้าตรงตามไลน์แบบสบายๆคุมง่ายมาก สัมผัสได้ถึงช่วงล่างที่แน่นหนึบ
สเตชั่นที่ 3 : Handling Course เรามาเริ่มจากการลองอัตราเร่ง และทดสอบระบบเบรกกันก่อนเลย (Acceleration and Braking) เรายังคงใช้ MINI John Cooper Works ปรับเป็นโหมดสปอร์ตเลยจร้า กดคันเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สัมผัสได้ถึงความแรงดึงแบบยาวๆ ประมาณ 400 เมตร กดเบรกจนมิด ABS ทำงานแหมมหยุดสนิทได้ดั่งใจจริงๆเลยเชียว มินิทุกคันทำได้ดีโดยไม่มีอาการเซหรือไถล ชอบๆ หลังจากนั้นก็สล้บไปขับในรุ่นอื่นๆอัตราเร่งรุ่นอื่นๆแน่นอนมันสู้เฮีย Jonh ของเราไม่ได้อย่างแน่นอน แต่อัตราเร่งก็ไม่ถือว่าอืดนะครับยังคงขับสนุกในทุกๆรุ่น
การทดสอบ Handling Course รอบสนามที่มีโค้งซ้าย-ขวาสลับ ทั้งหักศอกและโค้งกว้าง พูดตรงๆเอาจริงๆเลย รถ MINI ทุกอย่างมันควบคุมง่าย ขับสนุก แต่ระวังอย่าเค้าโค้งตามลิมิตของรถนะครับ มินิทุกรุ่นเด่นในเรื่อง ความคล่องแคล่ว แม่นยำของพวงมาลัยและช่วงล่างที่หนึบแน่น สลับรุ่นขับไปจนครบ ทุกคันมีบุคลิกของความสปอร์ตที่ทำให้ขับสนุกอยู่ในตัวชัดเจน ด้วยการบังคับควบคุมที่แม่นยำ คล่องแคล่วและว่องไว ทั้งจากเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ช่วงล่างตั้งแต่ระบบกันสะเทือน
เรามาดูข้อมูลของรุ่นเด่นๆแซบๆของการทดสอบครั้งนี้กัน
มินิ คลับแมน โฉมใหม่ ใหญ่ที่สุดในตระกูลมินิ
ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตรเมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่ จึงเป็นรถยนต์มินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมตอบรับทุกการใช้งานด้วยช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่ 40:20:40 ส่วนฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตา เป็นอีกจุดเด่นชวนมองในส่วนท้ายของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ เสากลางระหว่างบานกระจกซ้าย-ขวามีขนาดเล็กลงกว่าในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเปิดประตูแบบไม่ต้องสัมผัส เพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น มินิ คลับแมน โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น โดยขุมกำลังของมินิ รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้อารมณ์ในการขับขี่แบบโกคาร์ทโดยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้านต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ เต็มพลัง ส่งตรงจากสนามแข่ง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ ผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหราเต็มเปี่ยมของมินิรุ่นล่าสุด ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ใหม่ มาพร้อมกับที่สุดแห่งขุมพลังสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 4 สูบที่ติดตั้งแบบ transverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมท้าทายทุกสนามแข่ง ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด โดยมีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ยังมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยระบบแสดงผล MINI Head-Up Display พร้อมคอนเทนต์พิเศษในรุ่นนี้เฉพาะ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบา จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลายจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ส่วนระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ เซอร์โวทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติ Dynamic Traction Control (DTC) Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ เป็นรุ่นที่สามของมินิรุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิกที่เปี่ยมความหรูหรา พร้อมจับทุกสายตาด้วยดีไซน์และสีสันพิเศษสุดเฉพาะตัว ตัวถังสีเทาเมทัลลิก Earl Grey จับคู่กับหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Oak Red พร้อมแต่งด้วยแถบสีสไตล์สปอร์ตในสีเดียวกับกระโปรงรถ กันชนท้าย และส่วนข้างตัวรถ ขณะที่ไฟเลี้ยวติดตั้งในกรอบชุบโครเมียมที่แต่งด้วยสีแดง Oak Red เช่นกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทาในดีไซน์ Turbo Fan Dark Grey พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่ง MINI ALL4 Exterior มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร
สำหรับบรรยากาศการขับขี่ที่สนามปทุมธานีสปีดเวย์ในวันนี้นั้นนอกจากจะเต็มอิ่มกับประสบการณ์ใหม่ของมินิในปีนี้ แล้วงานนี้ยังถือได้ว่าเป็นงานทดสอบรถยนต์ที่มันส์ระดับ “ห้ามพลาด” เพราะนอกจากทีมงานมินิที่ขึ้นชื่อเรื่องเปิดโอกาสให้เผายางกันเต็มที่เพื่อสัมผัส “อรรถรสแบบมินิ” ได้เต็มประสิทธิภาพทำเอาสื่อมวลชนทุกสำนักประทับใจสุดๆกับความสนุกของมินิ คูเปอร์ ที่ใครได้สัมผัสต้องหลงรักอย่างแน่นอน เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เพราะนี้คือไอคอนรถเล็กที่สามารถเทียบชั้นรถสปอร์ตสุดหรูได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th