Mercedes-Ben A 250 e คือ รถยนต์ benz รุ่นใหม่ ที่ออกแบบให้ใช้งานภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 เทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้า 218 แรงม้า กับเทคโนโลยีการชาร์จไฟที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EQ Power กับขุมพลังที่พร้อมเผชิญกับทุกเส้นทาง เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ หรือกำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.6 วินาที และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงถึง 74-76 กิโลเมตร

ความเป็นมาของ รถยนต์ benz Mercedes-Ben

หากพูดถึง Mercedes-Ben หลายคนอาจจะไม่รู้จักหรือไม่ค่อยคุ้นหู แต่หากพูดถึงรถยนต์ที่มีสัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกอย่าง รถยนต์ benz แล้วละก็จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะด้วยชื่อเสียงที่มีมาอย่างยาวนาน จนได้กลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ยานยนต์ และเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตรถยนต์ภายใต้คอนเซปต์ต่าง ๆ ซึ่งความโดดเด่นของ Mercedes-Ben คือ การพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่เน้นการใช้งานได้จริง และโดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหรา

Mercedes-Ben หรือ รถยนต์ benz เปิดตัวครั้งแรกในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งถูกนำมาใช้ในการสัญจร จนเมื่อราวปีพุทธศักราช 1904 ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 5 จนกลายเป็นรถพระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็น รถยนต์ benz ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 35 แรงม้า รุ่น 28 Hp 4 สูบ ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยได้มีโอกาสรู้จักกับรถที่เรียกว่า Mercedes-Ben

เมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบันก็ได้มีการดัดแปลง และเพิ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต จึงทำให้มีความโดดเด่นและทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงความคลาสสิกและความหรูหรา พร้อมทั้งเน้นด้านรูปลักษณ์ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก มาพร้อมกับการใช้งานที่หลากหลาย เสริมด้วยช่วงล่างแน่น รับประกันความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง และถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายคลาส โดยแต่ละคลาสก็จะเน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แต่เน้นสไตล์ที่เรียบง่าย แฝงไปด้วยความเก๋ และรูปลักษณ์ที่ยังคงปราดเปรียว

ความโดดเด่นของ รถยนต์ benz รุ่น A 250 e

มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการขับขี่ที่เป็นแบบเน้นความสะดวกสบาย ประหยัดพลังงาน และมีความคล่องตัวในการใช้งาน เสริมด้วยระบบการสั่งการผ่านกุญแจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร 1,332 ซีซี มีกำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620 รอบต่อนาที พร้อมเสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 102 แรงม้า และ 300 นิวตันเมตร

นอกจากนั้น ยังรองรับการชาร์จหลากหลายรูปแบบ และต้องใช้เวลาชาร์จสูงสุดนาน 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งในการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ 74-76 กิโลเมตร

ฟังก์ชันที่มีความน่าสนใจของ รถยนต์ benz

• ระบบส่งกำลัง Dual Clutch 7 Speed
• ระบบบังคับเลี้ยว
• ระบบกันสะเทือน
• ระบบเบรก EBS และABS
• EPS ระบบช่วยในการทรงตัว
• ASR ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
• Attention Assist ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าจากการขับขี่
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ
• ระบบเตือนแรงดันลมยาง
• กล้องมองหลัง

รถยนต์ benz เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์แนวสปอร์ตที่ครบทั้งฟังก์ชันการใช้งานและความหรูหรา มาพร้อมกับราคาที่สามารถจับต้องได้ เพราะเริ่มต้นเพียง 1,255,000 บาท ด้วยรูปลักษณ์ที่ปรับโฉมใหม่ให้ถูกใจคนทุกเพศทุกวัยมากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างตราดาวสามแฉก ที่เป็นภาพจำของแบรนด์ยอดนิยมในยุคอดีต และเป็นต้นแบบรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่า ทำให้มาตรฐานการผลิตยังคงการันตีคุณภาพในการใช้งาน ทั้งรูปลักษณ์ที่ดูดีมีเสน่ห์ของภายในและภายนอกตัวรถ เริ่มต้นตั้งแต่กระจังหน้า Diamond Grille ท่อไอเสียคู่ แถบสีแดงบริเวณชายล่าง กันชนหน้าหลัง ช่อง Rear Diffuser และล้อ AMG ขนาด 18 นิ้ว 5 แฉก ซึ่งยิ่งเป็นการเสริมให้ตัวรถดูมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นเป็นเท่าตัว อีกทั้งด้วยสมรรถนะในการทำงานของเครื่องยนต์ จึงเหมาะแก่การขับขี่อย่างมาก

นอกจากนั้น ภายในตัวรถยังถูกตกแต่งด้วยการคุมโทนสี เพิ่มความหรูหรา มีการออกแบบเบาะที่นั่งที่รับกับสรีระของผู้ขับขี่ ช่วยทำให้นั่งสบาย ไม่อึดอัด พร้อมระบบการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ และระบบป้องกันการลื่นไถลหลุดออกจากช่องทางเดินรถ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในการขับขี่ในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะโค้ง ตรง ขรุขระก็ไร้ซึ่งปัญหา ด้วยระบบช่วงล่าง กันสะเทือนแบบ MacPherson Strut เสริมความยืดหยุ่นและมั่นคงให้กับการเคลื่อนที่ของตัวรถ อีกทั้งสามารถรับแรงได้ดี ด้วยระบบ TSC และESP ที่พยุงรถให้มีเสถียรภาพ เสริมความมั่นใจ แม้ในช่วงเวลาที่ฝนตกก็สามารถขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมฟังก์ชันความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ

รถยนต์ benz Mercedes-Ben ถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ถูกใจเหล่าคนรุ่นใหม่ กับภาพลักษณ์ที่คงไว้ซึ่งความเรียบหรูและสง่างาม กับการเพิ่มฟังก์ชันเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้การขับขี่ปลอดภัย และเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือเดินทางท่องเที่ยว ด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูง เพิ่มความสนุกในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะรุ่น A 250 e ที่มาพร้อมระบบชาร์จไฟฟ้า เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 เทอร์โบ 218 แรงม้า และการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 76 กิโลเมตร จึงถือเป็นตัวเลือกที่พลาดไม่ได้อย่างแน่นอน

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th