น้ำท่วมรถ ควรทำอย่างไร
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้รถมักต้องลุ้นในช่วงฤดูฝนก็คือหลังฝนตกหนักๆ แล้วจะมีน้ำท่วมขังสูงเนื่องจากมีน้ำที่รอการระบายมากหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัญหาน้ำท่วมสูงจนทำให้จราจรติดขัดเนื่องจากต้องค่อยๆ ขับตามกันบนถนนจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับบางพื้นที่ในประเทศไทยที่มักได้รับลูกหลงจากพายุใหญ่ที่เคลื่อนผ่าน หรือมักมีปัญหาเรื่องน้ำป่าที่ไหลหลากหลังฝนตกหนัก เพราะสิ่งที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่น้ำท่วมทำให้เดินทางลำบาก แต่น้ำอาจท่วมสูงมิดหลังคาหรือมีระดับน้ำที่สูงจนไม่สามารถขับรถได้ และได้แต่ปล่อยให้รถแช่น้ำอยู่อย่างนั้นจนกว่าน้ำจะลดระดับลงเอง ซึ่งหากเผชิญสถานการณ์ลักษณะนี้มีคำแนะนำเบื้องต้นที่ควรทำ
โทรแจ้งประกันรถยนต์
เจ้าของรถควรตรวจสอบว่ารถของตนเองมีประกันที่คุ้มครองกรณีรถเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วประกันชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหายนี้ รวมไปถึงประกันชั้น 2 ++ ของบางบริษัทประกันภัยด้วย หากประกันที่ทำไว้คุ้มครองก็โทรแจ้งประกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประกันมาประเมินความเสียหาย
อย่าเพิ่งต่อขั้วแบตเตอรีรถยนต์
หากต้องจอดรถอยู่ในพื้นที่และสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเจอน้ำท่วมสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือคิดว่าจะต้องเจอน้ำท่วมสูงแน่ๆ ควรถอดสายแบตเตอรีออกให้หมด เพราะน้ำที่อยู่ในรถจะทำระบบไฟฟ้าของรถลัดวงจร และทำให้เสียหายมากขึ้น หรือหากยกแบตเตอรีออกจากรถก็ยิ่งดีเพื่อป้องกันน้ำที่ท่วมทำประจุไฟรั่วในแบตเตอรีรั่วออกจนหมด โดยเมื่อน้ำลดระดับลงแล้วต้องการเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่ยังไม่ควรต่อขั้วแบตเตอรีคืน โดยคาดหวังว่าอาจขับรถออกไปเองได้ แต่ให้ใช้รถลากจูงแทน
เคลื่อนย้ายรถเพื่อตรวจสอบความเสียหาย
เมื่อเคลื่อนย้ายรถแล้วควรนำรถตากแดดเพื่อให้น้ำระเหยออกไปจากรถบ้าง จากนั้นตรวจสอบว่าเสียหายมากแค่ไหน ซึ่งหากอยู่ในระดับที่ท่วมมิดหรือเกือบมิดทั้งคันอาจทำให้เกิดความเสียหายหนักจนต้องการผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยระบบไฟฟ้าในส่วนต่างๆ ของรถ
ล้างภายนอกรถให้สะอาด
ไม่ใช่แค่ล้างรถในส่วนที่ตามองเห็นว่าสกปรกเท่านั้น แต่ยังควรฉีดน้ำเข้าไปที่บริเวณใต้ท้องรถและซุ้มล้อด้วย เพื่อล้างเศษดินทรายซึ่งมากับน้ำที่ติดอยู่หรือตกค้างออก รวมไปถึงเศษขยะและเศษหญ้าที่เมื่อแห้งแล้วอาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้
ทำให้ห้องโดยสารแห้งและสะอาด
หากรถถูกน้ำท่วมปริ่มๆ หลังจากรถอยู่ในที่แห้งแล้วควรเปิดประตูรถทั้งหมดเพื่อให้ลมผ่านและตากแดดไว้ จากนั้นถอดเบาะ พรม ผ้าต่างๆ ในรถออกมาซักทันที เพราะหากทิ้งไว้นานจะทำให้มีกลิ่นเหม็นอับตามมา รวมทั้งเกิดเชื้อราและเชื้อโรคต่างๆ แต่หากรถถูกน้ำท่วมมิดคันก็ควรเปิดประตูรถเพื่อระบายน้ำออก แล้วนำรถไปให้ศูนย์จัดการจะดีกว่า
เป่าลมไล่น้ำตามส่วนต่างๆ
ควรใช้ที่เป่าลมหรือไดร์เป่าผมเป่าทุกซอกทุกมุมในรถ ตรวจดูปลั๊กไฟจากนั้นใช้ลมเป่าทำความสะอาด หรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดทิ้งไว้
นำรถไปตรวจสภาพ
ถึงแม้ว่ารถจะไม่ได้ถูกน้ำท่วมจนมิดหรือเกือบถึงหลังคา แต่หากถูกน้ำท่วมสูง หลังจากทำให้รถสะอาดและแห้งแล้วก็ควรนำรถไปตรวจสภาพ เพื่อให้ช่างตรวจสอบดูส่วนต่างๆ ของรถว่ามีส่วนใดเสียหายบ้าง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th