ประโยชน์จากการใช้น้ำมันดีเซล B10
ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามที่กรมธุรกิจพลังงานและกระทรวงพลังงานได้ประกาสออกมาและดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาจากปลายปี 2562 นั้น ถึงตอนนี้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับน้ำมันดีเซลมาตรฐานได้เกิดขึ้นแล้ว และหลาบยคนอาจจะอยากทราบว่าจริงๆ แล้ว การใช้น้ำมันดีเซล B10 และมีการกำหนดเป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานแทนที่ B7 นั้น ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
จากข้อมูลในปัจจุบัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 โดยน้ำมันดีเซลทั้ง 3 ประเภท มีคุณภาพเหมือนกันทุกประการ แต่มีความแตกต่างกันที่สัดส่วนผสมไบโอดีเซล คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา หรือ B7 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 6.6 – 7% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 9 – 10% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 19 – 20%
เนื่องจากประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบมาผลิตเป็นน้ำมันสำเร็จรูป ดังนั้น นโยบายการเพิ่มสัดส่วนการผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนที่สูงขึ้น จะทำให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากการนำเข้าได้มากขึ้นตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น ปกติการใช้ B7 วันละประมาณ 60 ล้านลิตร ดังนั้น หากดีเซล B10 เป็นดีเซลฐาน ทำให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3 ของปริมาณการใช้ดีเซล หรือประมาณวันละ 1.8 ล้านลิตร
นอกจากลดการนำเข้าน้ำมันดีเซลแล้ว เรายังสามารถสร้างสมดุลล์มน้ำมันทั้งระบบในประเทศและปริมาณการใช้งานทั้งในภาคพลังงานและเพื่อการบริโภค ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังการสร้างเสถียรภาพในด้านราคาของปาล์มน้ำมัน และสิ่งที่ต่อเนื่องตามมาคือ การช่วยลดมลพิษในอากาศ โดยเฉพาะในส่วนของ PM 2.5 ที่เคยเป็นประเด็นที่คุกคามคนกรุงเทพ และจังหวัดใหญ่ๆ กันมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th