เมื่อต้องเจอเพื่อนร่วมทางที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่ปฎิบัติตามกฎจราจร คงจะรู้สึกหัวเสียไม่น้อยจนเป็นที่มาของคำตัดพ้อที่ว่า “สอบใบขับขี่มาได้ยังไง” “ซื้อขับขี่มาใช่ไหม?”

แต่ต่อจากปี 2561 เป็นต้นไปเราคงจะเจอเพื่อร่วมทางที่ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งคัดมากขึ้นเพราะกรมขนส่งทางบกหันมาเอาจริงมากขึ้นเร่งปรับรูปแบบการทำใบอนุญาตขับขี่ให้ยากขึ้น ทั้งอบรมและปฎิบัติ และเริ่มนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการสอบอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งใช้เซนเซอร์ตรวจผลการสอบปฏิบัติ จนถึงการยืนยันตัวตนของผู้เข้าสอบ โดยใช้บัตรประชาชนควบคู่การสแกนนิ้ว เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผู้ขอสอบใบอนุญาตขับขี่จริง

กรมขนส่งทางบกยังได้หารือร่วมกันกับแพทยสภาพิจารณาห้าม 5 โรคดังนี้ห้ามทำใบอนุญาตขับขี่ได้แก่  1.โรคลมชัก  2.เบาหวานร้ายแรง  3.ความดันโลหิตสูง  4.ผู้ที่เคยผ่าตัดสมองมาก่อน  5.โรคหัวใจ (ที่เสี่ยงจะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด)

และยังได้ระบุอีกว่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพต้องมาตรวจสมรรถภาพสายตาและร่างกายทุก 3 ปี เพื่อตรวจความพร้อมในการขับขี่

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้แจ้งว่ากลางปี 2561 จะได้ข้อสรุปที่แน่ชัดในเรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการออกใบขับขี่ใหม่ ให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาด้านอุบัติเหตุทางถนนที่เป็นที่มาของการเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลก

เรื่อง : จณิสตา จุลโพธิ์

แหล่งข้อมูล : www.komchadluek.net, www.kapook.com, www.mgronline.com

ภาพจาก : www.theglobeandmail.com, www.itv.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th