ล้อแม็กเป็นชิ้นส่วนอีกหนึ่งชิ้นที่มีความสำคัญมากและโดยส่วนมากเจ้าของรถมักจะชอบเปลี่ยนมันไปตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ วันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องดีไซน์ว้าล้อแม็กลายไหนแบบไหนสวย แต่เราจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับรถแม็กให้มากขึ้นว่ามันผลิตจากวัสดุอะไรบ้างมีข้อดีข้อเสียต่างกันตรงไหน และลายหลักๆมีกี่ลาย มาดูกันครับ

 วัสดุที่ผลิตล้อแม็กแบ่งออกได้ 3 ประเภท

• ล้อเหล็ก หรือล้อกระทะ

ล้อแม็กแบบเบสิค ส่วนใหญ่พบในรถรุ่นเก่าๆ หรือรถยนต์รุ่นราคาถูก เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตรถยนต์

ข้อดี -ราคาถูก มีความเหนียว แข็งแรง และปลอดภัยสูง

ข้อเสีย -น้ำหนักมาก มีแบบให้เลือกไม่เยอะ

• ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย (Magnesium Alloy Wheel)

เป็นที่มาของคำว่า “ล้อแม็ก” ซึ่งเป็นชื่อย่อของคำว่า “แม็กนีเซียม” ส่วนล้อแม็กที่ไม่ใช่ล้อเหล็ก เรียกว่า “ล้ออัลลอย” ล้อแม็กประเภทนี้เกิดขึ้นในสมัยปี 1960 ที่มีการผลิตล้อแม็กนีเซียม เพื่อการแข่งขันรถ Super Car ก่อนจะผลิตขายเป็นล้อแม็กให้คนทั่วไปได้ใช้งาน

ข้อดี -มีน้ำหนักเบากว่า ทำให้รถเคลื่อนที่ได้เร็ว เพราะแรงต้านการหมุนน้อย และน้ำหนักใต้สปริงต่ำ มีแบบให้เลือกหลากหลาย

ข้อเสีย -ราคาแพง เพราะใช้ต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูงมาก แข็งแรงน้อยกว่าล้อเหล็ก เหมาะสำหรับการวิ่งในทางเรียบ ผุกร่อนและพังง่าย ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน

• ล้ออลูมิเนียมอัลลอย (Aluminum Alloy Wheel)

ล้อแม็กประเภทนี้เป็นแบบที่พัฒนาต่อจากล้อแม็กนีเซียมอัลลอย เพราะต้องการให้ล้อแม็กมีความทนทาน และราคาถูกกว่า และยังแถมด้วยเรื่องดีไซน์ ที่มีแบบให้เลือกหลากหลาย ใช้ได้ในรถหลายประเภท ทั้งรถกระบะ รถเก๋ง รถ SUV

ข้อดี -น้ำหนักเบา ลวยลายสวยงาม มีดีเทลล้อมากกว่า ทำOffset ล้อได้หลายสเปค หลายแบบกว่า

ข้อเสีย -มีการผลิตหลายขั้นตอน ทำให้มีราคาแพง

การออกแบบลายของล้อแม็ก แบ่งออกได้ 4 ประเภท

1. Disc type หรือ ล้อแม็กแบบจาน

มีลักษณะจานหรือแผ่นตรงกลาง และด้วยรูปแบบจึงมีความแข็งแรงทนทานสูง เหมาะสำหรับรถที่บรรทุกน้ำหนักจำนวนมากเป็นประจำ หรือกรณีที่ใช้รถเพื่อบรรทุกของอยู่บ่อย ๆ

2. Spoke type หรือ ล้อแม็กแบบก้านใหญ่

ล้อแม็กแบบก้านใหญ่ เป็นรูปแบบทั่วไปที่ใช้กันมากที่สุด โดยหลักแล้วถูกพัฒนามาจากแบบ ล้อแม็กแบบจาน ให้มีความสวยงามมากขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรง

3. Fin type หรือ ล้อแม็กแบบก้านเล็ก

ล้อแม็กแบบก้านเล็ก มีรูปแบบของก้านล้อหรือซี่ล้อเล็กลง ซึ่งมองได้ว่ามีความสวยงามมากขึ้นเมื่อเทียบกับแบบก้านใหญ่ แต่ในแง่ของความแข็งแรงทนทานก็ลดลงเช่นกัน จึงมีโอกาสเกิดความเสียหายได้มากขึ้นในการใช้งานจริง

4. Mesh type หรือ ล้อแม็กแบบตาข่าย

เป็นรูปแบบของก้านล้อขนาดเล็ก ๆ ที่เรียงแบบถี่ ๆ คล้ายตาข่ายซึ่งทำให้ล้อแม็กแบบตาข่ายถือว่ามีความแข็งแรง และให้ความรู้สึกในแง่ของความสวยงามด้วย แต่ก็มีข้อด้อยในเรื่องของการทำความสะอาดบำรุงรักษา

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th