มินิ ประเทศไทย สร้างประสบการณ์ขับขี่ทางไกลด้วยรถพลังงานไฟฟ้า 100%
มินิ ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนเพื่อการใช้งานจริงบนท้องถนน ไปกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากมินิ พิสูจน์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทางไกลข้ามจังหวัด เส้นทางกรุงเทพฯ – เขาใหญ่ พร้อมทดสอบการอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge ซึ่งมีจุดให้บริการตลอดเส้นทางดังกล่าว ให้การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย ครอบคลุมเส้นทางนอกเมืองและต่างจังหวัดยิ่งกว่าเคย
ในการทดสอบรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอสอี บนเส้นทางจริงในครั้งนี้ สื่อมวลชนยังได้เรียนรู้วิธีการใช้งานแอปพลิเคชั่น MINI Connected ซึ่งสามารถเช็คสถานะรถยนต์และรองรับการสั่งงานระยะไกลได้ รวมถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นบริการจาก PEA VOLTA จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA, EleX จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT, และ EA Anywhere จากบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่จะช่วยให้การค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า การตรวจสอบอัตราค่าบริการ การเติมเงินและชำระเงิน และบริการอัดประจุไฟฟ้าอื่น ๆ ง่ายดายสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยการทดสอบรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอสอี เส้นทางกรุงเทพฯ – เขาใหญ่ครั้งนี้สามารถเลือกอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge ได้ตามจุดบริการหลัก ดังนี้
- ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สระบุรี (EA Anywhere)
- ปั๊มน้ำมันบางจาก แก่งคอย (PEA VOLTA)
- ปั๊มน้ำมันพีที ปากช่อง (EleX)
- เขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์ม (EA Anywhere)
- โรงแรม เดอะ เภรี เขาใหญ่ (EA Anywhere)
- โรงไฟฟ้าวังน้อย (EleX)
ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สระบุรี (EA Anywhere)
ปั๊มน้ำมันพีที ปากช่อง (EleX)
ปั๊มน้ำมันบางจาก แก่งคอย (PEA VOLTA)
โรงไฟฟ้าวังน้อย (EleX)
เขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์ม (EA Anywhere)
โรงแรม เดอะ เภรี เขาใหญ่ (EA Anywhere)
มินิ คูเปอร์ เอสอี ราคาจำหน่าย: 2,290,000 (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ คูเปอร์ เอสอี (สี MINI Yours Enigmatic Black metallic) ราคาจำหน่าย: 2,320,000 (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ คูเปอร์ เอสอี เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากมินิรุ่นแรก มาในดีไซน์แปลกใหม่สะกดทุกสายตาบนท้องถนน พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้พัฒนาขึ้น สามารถส่งพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า และด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจึงสามารถส่งแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที มอบความแรงเร้าใจใน 60 เมตรแรกได้เทียบชั้นรถสปอร์ต และสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที มินิ คูเปอร์ เอสอี ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 203-234 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบส่งกำลังและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังระบบต่าง ๆ ของมินิ คูเปอร์ เอสอี จะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถในโครงสร้างรูปทรงท่อ ส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับมินิ คูเปอร์ เอสอีโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง
พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนมินิ คูเปอร์ เอสอี สามารถชาร์จจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ ทั้งจากปลั๊กไฟในบ้านโดยตรง (อุปกรณ์มาตรฐานของตัวรถ) จากเครื่องชาร์จ MINI ELECTRIC Wallbox และจากสถานีชาร์จสาธารณะ โดยสามารถรองรับหัวชาร์จทั้ง AC และ DC แบบ Type 2 และหัวชาร์จ CCS Combo 2 แบตเตอรี่แรงดันสูงสามารถรองรับสายชาร์จทั้งแบบมาตรฐานและสายชาร์จจาก MINI ELECTRIC Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 2.5 ชั่วโมง และชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน 3.5 ชั่วโมง ซึ่งลูกค้ายังสามารถเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จ MINI ELECTRIC Wallbox ที่ติดตั้งได้ทั้งในโรงรถ และบริเวณที่จอดรถที่มีหลังคา หรือเครื่องชาร์จ AC Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 7.4 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 3.12 ชั่วโมง หรือเลือกใช้บริการจากสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะแบบ DC Fast Charge ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 50 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 36 นาที
สมรรถนะสุดสปอร์ตของมินิ คูเปอร์ เอสอี ไม่เพียงโดดเด่นด้วยการตอบสนองที่เฉียบพลันบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังแตกต่างด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานโดยแทบจะไร้เสียง ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการติดตั้งระบบการจำลองเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนน ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะสำหรับรุ่นมินิ คูเปอร์ เอสอี เท่านั้น โดยจำลองเสียงผ่านทางระบบลำโพงสำหรับขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ สร้างความสุนทรีย์ขณะขับขี่ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ยังเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โดยทุกชิ้นส่วนของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะได้รับการปกป้องด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากได้เกิดการชน ในส่วนของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จะอยู่ภายใต้กันชนและโครงสร้างมอเตอร์ที่เสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูงจะติดตั้งอยู่ภายในแผ่นรองฐานใต้ท้องรถทีออกแบบมาเพื่อป้องกันชิ้นส่วนแบตเตอรี่โดยเฉพาะ มินิ ประเทศไทย
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากมินิรุ่นแรกนี้ รองรับการตั้งค่าต่าง ๆ ตามสภาวะการขับขี่และรูปแบบการขับขี่ที่เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล โดยมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Sport, MID, GREEN, และ GREEN+ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่โดยการจำกัดหรือหยุดการทำงานของระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นระบบปรับอากาศหรือระบบอุ่นเบาะที่นั่ง เป็นต้น อีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป คือการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ (regenerative brake) ที่ทำให้รถชะลอความเร็วทันทีที่ผู้ขับยกเท้าออกจากคันเร่ง จึงสามารถลดความเร็วรถได้ขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำโดยไม่ต้องแตะเบรก ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วได้โดยใช้เพียงคันเร่งเท่านั้น หรือที่เรียกว่าเป็นประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling โดยมินิ คูเปอร์ เอสอี ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่ผู้ขับสามารถเลือกปรับเปลี่ยนระหว่างการขับขี่แบบ one-pedal feeling หรือเลือกลดระดับการนำพลังงานจากเบรกกลับมาใช้ใหม่ เพื่อทำให้รถชะลอตัวนุ่มนวลยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินได้ไม่ต่างจากมินิรุ่นอื่น ๆ
มินิ คูเปอร์ เอสอี มอบความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟด้วยดีเอ็นเอมินิพันธุ์แท้ ภายในมาพร้อมเบาะผ้าสีดำ Carbon Black ลาย Double Stripe หัวเกียร์ในดีไซน์เฉพาะสำหรับรุ่นมินิ คูเปอร์ เอสอี ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน แยกการระบายอากาศและการควบคุมอุณหภูมิระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า รองรับการสั่งงานระยะไกลจากแอปพลิเคชั่น MINI Connected ในการตั้งเวลาออกเดินทางเพื่อเปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้าได้ตามต้องการ
แผงหน้าปัดมาในดีไซน์เฉพาะรุ่นเช่นเดียวกัน โดดเด่นด้วยจอแสดงผลสีดิจิทัลขนาด 5.5 นิ้ว ในดีไซน์ Black Panel ด้านหลังพวงมาลัย โดยอัตราความเร็วในการขับขี่จะแสดงผลทั้งในแบบตัวเลขและแถบทรงกลมอยู่บริเวณกลางจอ ส่วนด้านข้างเป็นการแสดงข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลเกี่ยวกับระดับพลังงานของแบตเตอรี่แรงดันสูง โหมดการขับขี่ สถานะของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และสัญญาณแสดงสถานะการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมทั้งเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยจะเปลี่ยนสีไฟตามสถานะการชาร์จ ได้แก่ สีส้มขณะเริ่มชาร์จ สีเหลืองขณะกำลังชาร์จ และสีเขียวเมื่อชาร์จเต็ม โดยหากมีความผิดปกติใด ๆ ในระหว่างการชาร์จ จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยไฟสีแดง สำหรับจอระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้วบริเวณแผงคอนโซล รองรับการแสดงผลจากบริการ MINI Connected ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น จอ eDrive ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานและระยะทางที่วิ่งได้ รวมถึงทางเลือกต่างๆ ในการเพิ่มระยะทางในการขับขี่
ภายในรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอสอี บริเวณคอนโซลประกอบไปด้วยหน้าจอ eDrive ที่ช่วยแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน ระยะทาง รวมถึงตัวเลือกในการเพิ่มระยะทางต่าง ๆ เช่น เมื่อเปลี่ยนไปขับขี่ในโหมด GREEN ระบบผู้ช่วยด้านระยะทาง (Range Assistant) ของระบบนำทาง จะช่วยตรวจสอบว่าปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่มีอยู่เพียงพอต่อการเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายที่เลือกไว้หรือไม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่ ผ่านแอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการอัดประจุไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ทันท่วงที
สัดส่วนต่าง ๆ ของตัวรถยังคงความคล่องตัวในสไตล์มินิ มาในโครงสร้าง 3 ส่วนเช่นมินิรุ่นอื่น ๆ ประกอบไปด้วยโครงสร้างตัวถัง หน้าต่างรอบด้านและหลังคารถ และการออกแบบให้ล้ออยู่ใกล้กับกันชน ซึ่งรวมถึงความกว้างของฐานล้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสื่อถึงดีเอ็นเอความเป็นมินิพันธุ์แท้ที่ทำให้มินิ คูเปอร์ เอสอี แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด เส้นสายการออกแบบที่โดดเด่นและชัดเจนสะท้อนถึงเทคโนโลยีการขับขี่แห่งอนาคตที่ล้ำสมัย ส่วนฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้าอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู บนฝาแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันและการใช้พลังงานไฟฟ้า สัญลักษณ์นี้ยังปรากฎบริเวณกรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง ประตูท้ายรถ และกระจังหน้า ซึ่งสะดุดตาด้วยแถบสีเหลืองรับกับฝาครอบกระจกข้างในสีเดียวกัน สร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวให้แก่มินิ คูเปอร์ เอสอี ซึ่งมาพร้อมไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ดีไซน์กระจังหน้ามาในกรอบทรงหกเหลี่ยมสีดำขนาดที่ใหญ่ ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ มาพร้อมไฟท้ายลายธงยูเนียนแจ็คอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมินิ ใต้ท้องรถที่มีแผ่นปิดเกือบรอบคัน และกระโปรงท้ายรถในรูปลักษณ์สะดุดตา ล้วนมีส่วนช่วยลดแรงต้านของอากาศ ซึ่งเมื่อปราศจากท่อไอเสีย อากาศจึงสามารถไหลผ่านใต้ท้องรถไปยังท้ายรถได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Corona พร้อมยางรันแฟลต ที่มีเป็นพิเศษเฉพาะในรุ่นมินิ คูเปอร์ เอสอีเท่านั้น
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th