หนึ่งในรถสปอร์ตรุ่นดังของ Toyota ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและยังคงเป็นที่จดจำของบรรดาขาซิ่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศคือ Celica ซึ่งยุติการผลิตไปตั้งแต่ปี 2006

อย่างไรก็ตาม และแม้ปัจจุบันรถสปอร์ตที่โด่งดังของ Toyota ในอดีตอย่าง Supra จะกลับมาแล้ว แต่บรรดาแฟนๆ ของ Celica อาจต้องทำใจ เพราะยังคงไม่มีข่าวเกี่ยวกับการกลับมาของรถสปอร์ตรุ่นนี้ และในโอกาสที่ Toyota Celica มีอายุครบ 50 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวออกมาขายครั้งแรกในปี 1970 ลองมาย้อนดูถึงเจนเนอเรชั่นต่างๆ ของรถสปอร์ตรุ่นนี้ก่อนที่จะถูกถอดออกจากสายการผลิตไปเมื่อปี 2006

            Toyota Celica TA22 : 1970-1977

            เจนเนอเรชั่นแรกของรถสปอร์ตที่ได้ชื่อมาจากคำภาษาสเปนที่มีความหมายเดียวกับ Celestial ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าท้องฟ้าหรือสวรรค์ ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกับรถซีดานของ Toyota รุ่น Carina โดยใช้เครื่องยนต์ที่มีหลากหลายความจุทั้ง 1.4, 1.6, 1.9, 2.0 และ 2.2 ลิตร มีการใช้ทั้งเกียร์แมนนวล 4 สปีด หรือ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดส่งกำลังสู่ล้อหลัง พร้อมกับใช้ช่วงล่างอิสระทั้งด้านหน้าและหลัง หลังเปิดตัวหนึ่งปี Celica ก็ถูกส่งไปขายที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกา

รุ่นท็อปสุดของ Celica เจนเนอเรชันแรกคือเกรด GT ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 โอเวอร์เฮดแคมชาฟต์ และ 2 คาร์บูเรเตอร์คู่ เมื่อถึงปี 1973 ทาง Toyota ก็เพิ่มตัวถังลิฟต์แบ็กให้กับ Celica ก่อนที่ปี 1976 จะมีการปรับโฉมให้กับทั้งตัวถังคูเป้และลิฟต์แบ็ก

Toyota Celica TA40 : 1977-1981

เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ Celica เริ่มการผลิตตั้งแต่ช่วงปลายปี 1977 โดยที่ยังคงมาพร้อมกับตัวถังคูเป้และลิฟต์แบ็กเหมือนเจนเนอเรชั่นแรก รวมไปถึงยังคงลักษณะของรถเครื่องยนต์วางหน้าขับเคลื่อนล้อหลังอยู่ โดยที่เจนเนอเรชั่นนี้ยังคงมีหลากหลายเครื่องยนต์ที่ใช้ใต้ฝากระโปรงตั้งแต่ 1.6 ลิตร ไปจนถึง 2.3 ลิตร แตกต่างกันตามตลาดในแต่ละภูมิภาค ในขณะที่การส่งกำลังมีทั้งเกียร์แมนนวล 5 สปีดและอัตโนมัติ 3 สปีด จนถึงปี 1981 จึงมีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดออกมา

Toyota Celica เจนเนอเรชั่นที่ 2 ถูกออกแบบในสหรัฐอเมริกาที่สตูดิโอ Calty Research Design ของ Toyota ในแคลิฟอร์เนีย

Toyota Celica TA60 : 1981-1985

เป็นรถที่มาพร้อมกับการได้ชื่อว่าเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ 16 วาล์ว ซึ่งมีการผลิตจำนวนมากรุ่นแรกของญี่ปุ่น โดยคราวนี้ Celica มีให้เลือก 3 รูปแบบตัวถึงคือ 2 ประตูคูเป้และเปิดประทุน รวมทั้งลิฟต์แบ็ก 3 ประตู ในขณะที่เครื่องยนต์ยังคงมีให้เลือกหลากหลายเหมือนเดิม ส่วนระบบส่งกำลังของรถมีทั้งอัตโนมัติ 4 สปีดหรือแมนนวล 5 สปีดขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ ในสหรัฐอเมริกาปี 1982 Toyota มี Celica GT-S ซึ่งเป็นการเอาหลายส่วนจาก Supra มาใส่ไว้ใน Celica เป็นทางเลือก จนเหมือนเป็น Supra ที่ใช้พื้นฐาน Celica

Toyota Celica TA160 : 1985-1989

กับเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของ Celica แม้จะยังคงมี 3 ตัวถังให้เลือก แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าแทนล้อหลังซึ่งเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้มาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรก แต่ก็มีการเพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาเป็นทางเลือกด้วยรุ่น Celica GT-Four นอกจากนี้ทาง Toyota ยังมีการนำ Celica เจนเนอเรชั่นนี้ไปลงสนามแรลลี WRC และประสบความสำเร็จจนส่งให้ชื่อ Celica โด่งดังยิ่งขึ้นด้วย

Toyota Celica TA180 : 1989-1993

กับ Celica เจนเนอเรชั่นที่ 5 Toyota ยังคงประสบความสำเร็จในวงการแรลลีโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการชนะการแข่งขัน WRC ประเภทนักขับ 3 ครั้ง และทีมผู้ผลิต 2 ครั้งระหว่างปี 1992 ถึง 1994 ในส่วนรถที่ทำตลาดเจนเนอเรชั่นนี้ก็ยังคงมีทางเลือกในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาให้เลือกกับรุ่น GT-Four โดยเป็นการขับเคลื่อน 4 ล้อที่เน้นการขับขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ในขณะที่เกรดอื่นขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า

Toyota Celica TA2000 : 1993-1999

Toyota Celica เจนเนอเรชั่นที่ 6 ซึ่งมาพร้อมกับ 2 รูปแบบการขับเคลื่อนให้เลือกคือล้อหน้า และ 4 ล้อในรุ่น GT-Four ถูกพิจารณาว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Celica โดยยังคงมาพร้อมกับ 3 รูปแบบตัวถังคือคูเป้ ลิฟต์แบ็ก และเปิดประทุน สำหรับระบบส่งกำลังของรถมีทั้งอัตโนมัติ 4 สปีด และแมนนวล 5 สปีด ในส่วนของเครื่องยนต์มีหลากหลายหลายความจุทั้ง 1.8, 2.0 และ 2.2 ลิตร รวมทั้งเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ

Toyota Celica TA230 : 1999-2006

กับ Celica เจนเนอเรชั่นนี้มีเฉพาะตัวถังในแบบ 3 ประตูลิฟต์แบ็กเท่านั้น โดยใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์ม MC ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ร่วมกับรถรุ่นอื่นๆ ของ Toyota อย่าง Corolla, Prius และ RAV4 โดย Celica  เจนเนอรเชั่นที่  7 ซึ่งมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีแค่ 2 เครื่องยนต์ให้เลือก แต่มี 3 ระบบส่งกำลังคือเกียร์แมนนวล 5 หรือ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th