8 รถยนต์น่าขับจากปารีส มอเตอร์โชว์ 2016
เปิดฉากอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปารีส มอเตอร์โชว์ 2016 และเป็นเหมือนทุกครั้งที่บรรดาค่ายรถใช้เป็นเวทีเวิลด์พรีเมียร์คอนเซ็ปต์คาร์ รวมทั้งรถยนต์ที่พร้อมผลิตขายจริงในอีกไม่นานนี้ Fortune แมกกาซีนดังระดับโลก ลิสต์รายชื่อรถที่มีครบทั้งสมรรถนะ, เทคโนโลยี และดีไซน์ 8 คันที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาจนเชื่อว่าหากใครได้ไปอยู่ในงานคงอดใจเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยไม่ได้
Audi Q5
เป็นหนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ Audi โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่นิยมรถเอสยูวี และครอสส์โอเวอร์ มากกว่ารถซีดาน เจนเนอเรชั่นต่อไปของ Q5 เรียกว่าปล่อยของเต็มที่ทั้งขนาดห้องโดยสารที่ใหญ่ และเครื่องยนต์ที่มีกำลังแรงกว่าเดิม แต่น้ำหนักรวมขอรถน้อยลง และประหยัดน้ำมันดีขึ้น
พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับมากกว่า 30 แบบ เพื่อเตรียมพร้อมสู่ยุครถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยหากสภาพการจราจรเคลื่อนตัวช้าระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) สามารถควบคุมพวงมาลัยในระดับหนึ่ง รวมทั้งระบบ Personal Route Assist เหมือนใน Q7 และ A4 ที่จะจดจำจุดหมายประจำ เพื่อคำนวณเส้นทาง และหาที่จอดรถล่วงหน้า
https://youtu.be/5iujZ0sPs1U
Land Rover Discovery
สื่อต่างประเทศยกย่องให้เป็นการกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งภายใต้ชื่อ Land Rover หลังจากรถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ของพวกเขากลับมามีชีวิตชีวา และเพียบพร้อมในทุกสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ ตัวถังผลิตจากอลูมิเนียมทำให้ 2017 Discovery มีน้ำหนักลดลง 480 กิโลกรัม โดยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0-litre ที่พวกเขาคาดหวังว่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม มีกำลัง 240 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.3 วินาที และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 171 กรัม/กม.
ในเรื่องของเทคโนโลยีที่ตอบสนองการใช้งานมากที่สุดน่าจะเป็นการสั่งให้พับเบาะแถวที่ 2 และ 3 ผ่านแอพลิเคชั่น โดยเพิ่มพื้นที่ความจุสูงสุด 2,500 ลิตร รวมทั้งระบบ Advanced Tow Assist ที่จะช่วยให้การลากจูงรถพ่วงเพื่อขนอุปกรณ์ต่างๆ สะดวกขึ้น โดยคนขับไม่ต้องสัมผัสพวงมาลัย และสามารถลากจูงน้ำหนักรวมสูงสุด 3,500 กิโลกรัม
https://youtu.be/8BmEdWVOGwQ
Honda Civic Type R Prototype
Gen-10 เพิ่งออกมาทำยอดขายถล่มทลายในบ้านเราไม่นาน เวอร์ชั่นตัวแรง Type R ออกมายั่วน้ำลายสาวก Honda อย่างรวดเร็ว โดยเป็นการพัฒนาจากตัวถัง Civic Hatchback เพิ่มความดุดันด้วยกันชนหน้าใหม่พร้อมช่องดักลมรูปตาข่าย และปรับระบบแอโรไดนามิกส์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ชุดสเกิร์ตข้างรอบคันทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกับสปิลเตอร์ทรงปีกนก ด้านท้ายติดสปอยเลอร์ที่รับกับดีไซน์ไฟท้าย พร้อมท่อไอเสีย 3 ท่อตรงกลางตัวรถ รวมทั้งล้ออัลลอยด์สีเปียโนแบล็กขนาด 20 นิ้ว
Civic เวอร์ชั่นนี้ยังเป็น Type R รุ่นแรกของ Honda ที่จะขายในประเทศสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะใส่เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.0L ที่มีความแรง 340 แรงม้า แต่ต้องรอติดตามดูในการเปิดตัวเวอร์ชั่นที่ผลิตเพื่อขายจริง ในงานชุมนุมรถซิ่ง SEMA Show ที่ลาส เวกัส ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
Hyundai RN30 Concept
มีหลายเหตุผลที่ทำให้ทุกคนหลงรักรถแข่งต้นแบบคันนี้ เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้เห็น การปรากฏตัวของ RN30 แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ N ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงของ Hyundai มีทิศทางอย่างไร หลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
ด้วยการใช้ Hyundai i30 เป็นฐานในการพัฒนาร่วมระหว่างแผนกมอเตอร์สปอร์ต, ศูนย์เทคนิคภาคพื้นยุโรป และแผนพัฒนาเครื่องยนต์สมรรถนะสูง จนออกมาเป็นต้นแบบที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบชาร์จ 380 แรงม้า และใช้ระบบ Dual-clutch transmission (DCT) เพื่อรองรับแรงบิดสูงสุด 451 นิวตัน-เมตร ตอบสนองการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการขับด้วยระบบขับเคลื่อน All-wheel drive (AWD)
LaFerrari Aperta
เวอร์ชั่น Open-top ของ LaFerrari ขึ้นป้าย Sold Out ตั้งแต่ไม่ทันเปิดผ้าคลุมในงานปารีส มอเตอร์โชว์ ถึงจะถูกตั้งราคาไว้ที่ 1.86 ล้านยูโร (ราว 73 ล้านบาท) แต่การผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 คัน ทำให้ลูกค้าเก่าของ Ferrari ทั่วโลก ใช้สิทธิ์สั่งซื้อล่วงหน้าไปเรียบร้อย โดยจะมีอีก 9 คันที่ถูกผลิตเพื่อใช้ในงานฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งบริษัทที่จะตระเวนจัดใน 60 ประเทศทั่วโลกช่วงปีหน้า
ในส่วนของสมรรถนะ LaFerrari Aperta เหมือนกับรุ่น Coupé ที่เปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อนทุกอย่าง โดยเป็นเครื่องยนต์ V12 6.2 ลิตร 800 แรงม้า เสริมด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีชื่อเฉพาะว่า HY-KERS System ที่ให้กำลังอีก 120 กิโลวัตต์ ทำให้กำลังรวมจะอยู่ที่ 963 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.
Mercedes EQ Generation Concept
รถยนต์ไฟฟ้าครอสส์โอเวอร์ต้นแบบคันนี้เป็นเหมือนตัวแทนการเข้าสู่ยุคใหม่ของ Mercedes และเป็นหน้าตาของ EQ แบรนด์ใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะที่มีแผนจะเปิดตัวอีก 10 รุ่นภายในช่วง 9 ปีจากนี้
Mercedes แสดงให้เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วยการใช้แบตเตอรี่ขนาด 300 กิโลวัตต์ เพื่อหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่สามารถสร้างแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ให้รถเอสยูวีคูเป้คันนี้ขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive สามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5 วินาที และสามารถขับได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งอีกด้วย
https://youtu.be/ztgh_IqmnaI
Renault Trezor GT Concept
รถสปอร์ตสไตล์ Grand Tourer ที่เป็นการผสมผสานระหว่างความสงบ และเรียบง่ายของ Renault กับเทคโนโลยีล่าสุดที่เป็นหัวใจหลักของรถแข่ง Formula E ที่พวกเขาให้การสนับสนุน ดีไซน์ภายในเป็นโทนสีแดงผสมผสานด้วยลายไม้ และหนังคุณภาพสูง รวมทั้งหน้าจอควบคุมแบบทัชสกรีน HD
โหมดการขับมีแบบ Neutral, Sport และ Autonomous มีการแย่งตำแหน่งแบตเตอรี่ไว้บริเวณด้านหน้า และด้านหลังของรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยให้กำลัง 350 แรงม้า และแรงบิด 380 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ชม. ภายในเวลา 4 วินาที
https://youtu.be/l8L38t3Ch44
Volkswagen I.D.
การเปิดตัวรถยนต์พลังงานสะอาดคงทำให้สาธารณชนพูดถึงคดีโกงค่าไอเสียของพวกเขาน้อยลง I.D. เป็นเหมือนการเริ่มต้นยุคใหม่ของ Volkswagen ด้วยการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่สามารถขับได้ไกลถึง 400-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง เตรียมผลิตขายจริงในอีก 4 ปีข้างหน้า
I.D. จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 125 กิโลวัตต์ แต่มากพอจะวิ่งได้ไกล 400-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามแผนของ Volkswagen จะต้องพัฒนาระบบขับอัตโนมัติให้ใช้งานจริงภายในปี 2025
https://youtu.be/P4xd2bnbgr0
https://youtu.be/RgtNg5dkSyk
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล : Fortune, Automotive Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th