ในช่วงนี้หลายคนอาจไม่ค่อยได้สนใจราคาน้ำมันนัก เพราะไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนจากการที่ทำงานจากที่บ้าน แต่หากใครที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาข่าวหนึ่งที่อาจทำให้หลายๆ คนต้องตกใจก็คือวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบสหรัฐหรือที่เรียกว่า West Texas Intermediate ลดลงเหลือ -37.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของการค้าน้ำมันที่ราคาขายน้ำมันติดลบ หรือเรียกได้ว่าผู้ขายให้น้ำมันฟรีพร้อมกับให้เงินแถมไปด้วย 37.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ทำให้หลายคนที่เห็นข่าวนี้แล้วอาจฝันถึงการที่น้ำมันมีราคาขายไม่ถึงลิตรละ 10 เหมือนหลายสิบปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งคิดไปถึงจุดนั้น เพราะการดิ่งลงของราคาน้ำมันครั้งนี้มีที่มาที่ไป ราคาน้ำมันติดลบ

ปรากฏการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ถึง 55.90 ดอลล่าร์หรือลดลง 306 เปอร์เซ็นต์จนปิดที่ราคาลบ 37.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) สำหรับส่งมอบในเดือนพฤษภาคม โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายก่อนที่สัญญาดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งด้วยราคาน้ำมันที่ติดลบทำให้เกิดภาพผู้ถือสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าต้องจ่ายเงินเพิ่มให้กับผู้ซื้อเพื่อให้รับมอบน้ำมันไป

สาเหตุที่ราคาของน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักเป็นผลมาจากความต้องการน้ำมันที่ลดลง จากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลกจนทำให้เกิดการหยุดะงักทั้งทางเศรษฐกิจและมีการเดินทางน้อยลง รวมทั้งยังมีการแข่งขันด้านราคาระหว่างประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ก่อนหน้านี้จนทำให้เกิดภาวะน้ำมันดิบล้นตลาด โดยราคาน้ำมันดิบที่ติดลบเป็นการแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนที่ซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสไม่ได้ตั้งใจจะรับมอบน้ำมันจริงๆ แต่ถือไว้เพื่อเกร็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา และเมื่อถึงวันที่สัญญาหมดอายุก็ไม่อยากจะรับน้ำมันเอาไว้ ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาจากการล็อกดาวน์ซึ่งทำให้การขายต่อน้ำมันยาก ในขณะที่สถานที่กักเก็บน้ำมันก็ใกล้เต็มเพดานความจุ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการเก็บน้ำมันสูงขึ้นและไม่คุ้มค่าที่จะเก็บน้ำมันเอาไว้เอง

เมื่อราคาน้ำมันลดลงอย่างหนักทำให้นักลงทุนที่ถือสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าไว้ต้องตัดสินใจว่าจะหาที่เก็บน้ำมันไว้เองหรือยอมขายขาดทุน โดยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการขายในราคาติดลบหรือแถมเงินให้กับผู้ซื้อด้วย เพราะอาจคุ้มกว่าการแบกรับต้นทุนการกักน้ำมันไว้เองจนกว่าจะขายได้

สำหรับผู้ขับรถในไทยอาจดูข่าวราคาน้ำมันที่ติดลบนี้เป็นได้เพียงปรากฏการณ์ครั้งหนึ่งด้านการซื้อขายน้ำมันเท่านั้น เพราะราคาน้ำมันดิบติดลบที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถสะท้อนดีมานด์และซัพพลายของน้ำมันจริงๆ ได้ทั้งหมด เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องการส่งมอบน้ำมันมากดดันจนทำให้เกิดการแถมเงินให้ผู้ซื้อ รวมทั้งน้ำมันดิบที่ไทยใช้ไม่ได้มาจากเวสต์เท็กซัส และราคาขายน้ำมันในไทยยังเป็นการอ้างอิงจากน้ำมันที่สิงคโปร์เพราะเป็นตลาดซื้อขายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และที่สำคัญคือเป็นราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้วไม่ใช่น้ำมันดิบ

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th