รีวิว mg hs ออปชั่นครบเครื่อง ในราคาประหยัด
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของรถสปอร์ต และรถยนต์ประเภท SUV จนได้ mg hs ที่การันตีด้านงานออกแบบที่สามารถถ่ายทอดความหรูหรา และดูดีออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่มีความโดดเด่นเหนือรถยนต์ค่ายอื่นที่เส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถที่ทำให้ทุกครั้งที่คุณขับขี่รถยนต์รุ่นนี้ลงถนน จะต้องตกเป็นสายตาของผู้คนที่พากันหลงใหลความสง่างามของรถยนต์รุ่น mg hs จากค่าย MG อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ตลาดของรถยนต์ประเภท SUV มีตัวเลือกให้เหล่าผู้บริโภคได้เลือกสรรกันอยู่อย่างมาก อีกทั้งแต่ละค่ายก็พยายามที่จะแสดงศักยภาพของตัวเองผ่านเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับค่ายน้องใหม่อย่าง MG ส่งรถรุ่นใหม่ลงสนาม แต่ mg hs จะมีอะไรที่น่าสนใจ และกลายเป็นจุดขายไปติดตามรายละเอียดการรีวิวกันได้เลย
งานออกแบบภายนอก และออปชั่นเสริม
- ด้านหน้า
ความเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่น mg hs คือ กระจังหน้าที่ดีไซน์ ตามแนวคิดของ Stella Magnetic Field ที่ได้รับแรงบันดาลใจหลักมาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่มีการมารวมตัวกัน ทำให้กระจังหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งในค่ายอื่น ๆ เทียบไม่ติดกับรูปแบบงานออกแบบที่ทำให้กระจังหน้าของ mg hs ดูเหมือนเป็นงานศิลปะที่แสดงผลงานอยู่บนรถยนต์เสียมากกว่า อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันที่ใช้งานร่วมกับเรดาห์ และกล้องที่อยู่บริเวณด้านบนของกระจกหน้า พร้อมกับระบบอื่น ๆ ที่จะช่วยทำให้การขับขี่ขอคุณง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเบรกอัตโนมัติ และระบบเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
- ด้านข้าง
บริเวณด้านข้างขอรถยนต์ของ mg hs เน้นเก็บรายละเอียดเพื่อเพิ่มความหรูหราด้วยการตัดด้วยคิ้วซุ้มล้อ และชายล่างสีดำด้าน รวมไปถึงการเล่นลวดลายของคิ้วโครเมี่ยมที่ชายล่างของประตู และอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว และมีกล้องทำให้คุณสามารถที่จะมองกล้องแบบมุม 360 องศา ในเวลาที่คุณเจอมุมอับสายตาด้านข้าง
- ด้านหลัง
ในช่วงท้ายของรถยนต์มีไฟท้ายแบบ Space Light Field และไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่ลำแสงจะวิ่งจากด้านในออกด้านนอก ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมกล้องมองหลังที่ทำให้คุณสามารถที่จะใช้กล้องมองเพื่อถอยหลัง หรือในการเข้าซองได้อย่างปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยที่จะส่งเสียงเตือนทันที หากช่วงท้ายจะเจอกับวัตถุ
งานออกแบบภายใน และออปชั่นเสริม
โดดเด่นเน้นความหรูหราด้วยการใช้สีโทนแดง และดำตัดกันได้อย่างลงตัว เบาะออกแบบให้มีความโค้งมนเพื่อให้รับกับสรีระของแต่ละบุคคล ตกแต่งวัสดุภายใน และหุ้มเบาะด้วยวัสดุที่นุ่มนวลเพื่อให้คุณสบายตัวที่สุดด้วย Soft Touch ครอบคลุมไปในทุกส่วนตั้งแต่คอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้าที่รวมไปถึงด้านหลังด้วย
ทั้งเบาะหน้า และหลังเน้นความสะดวกสบาย โดยที่เบาะนั่งหน้าของ mg hs มีลักษณะเป็น Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดงเช่นเดิม และยังมีส่วนที่หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara ในส่วนของเบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิง ปรับองศาการเอนได้ โดยความน่าสนใจที่ใส่เข้ามาเพื่อให้คุณได้สนุกไปกับการนั่งคือ ระบบไฟเส้นขอบ หรือ Interactive Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 64 เฉดสี โดยไฟนี้จะติดทันทีที่เปิดประตู
เครื่องยนต์ New mg hs 2020
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร
- ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที
- พร้อมรองรับน้ำมัน E85
ระบบเสริมในการขับขี่
ในรถยนต์รุ่น mg hs ที่เราได้นำเสนอมาจะสังเกตได้เลยว่าค่อนข้างมีออปชั่นเสริมที่เยอะมากพอตัว ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการช่วยให้คุณสามารถขับขี่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีระบบเสริมที่ช่วยในการขับขี่โดยเฉพาะจากทางค่ายอย่าง ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่มีในรถยนต์รุ่นนี้ก็น่าสนใจมากทีเดียว โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ใน mg hs 2020 มากถึง 7 ระบบประกอบด้วย
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียด และข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์รุ่น mg hs จากค่าย MG ทั้ง ๆ ที่เริ่มต้นราคารถยนต์ด้วยราคาหลักล้านต้น ๆ แต่ความสามารถของรถยนต์รุ่นนี้กลับมีออปชั่นเสริมที่เรียกได้ว่ามากเกินราคาคุยเสียด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับการใช้งานจริง สามารถทดลองใช้บริการลองขับเพื่อให้ได้สัมผัสกับทุกออปชั่นได้โดยตรงทุกวันนี้ที่สาขาใกล้บ้านคุณ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th