ลองของดุ! THE ALL-NEW BMW X3 ใหม่ รถบ้านสายโหด
ต้องยอมรับว่ารถในกลุ่มเอสยูวียังคงเป็นกลุ่มที่มีกระแสตอบรับที่ดีเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นรถจากค่ายญี่ปุ่นหรือยุโรป ซึ่งแต่ละค่ายนั้นชูจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่มีพื้นฐานเดียวกันคือ สมรรถนะ ระบบส่งกำลัง ช่วงล่างที่ตอบสนองได้ทันท่วงที รวมทั้งมีพื้นที่ห้องโดยสารที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ แต่สำหรับ BMW X3 ใหม่ คันนี้ มีความแตกต่างและเหนือชั้นอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
สำหรับ BMW X3 ใหม่ หรือชื่อเต็มๆ คือ X3 xDrive 20d xLine เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ด้วยรูปโฉมที่เปลี่ยนไป แต่ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของตระกูล X เอาไว้อย่างเหนียวแน่น สะดุดตาด้วยกระจังหน้าไตคู่ที่ออกแบบใหม่ที่ดูหนาขึ้น มีตัวถังที่ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งแบบออฟโรด แต่มีความสปอร์ตปราดเปรียวที่สัมผัสได้ ทั้งยังมีการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ช่วยให้การขับนั้นสนุกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
โดยหลังจากที่เปิดตัวไปไม่นานผู้เขียนลองสุ่มสำรวจความชื่นชอบในรูปโฉมของ X3 ใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ชอบ X3 จะเป็นคุณสุภาพสตรีช่วงวัยทำงานที่ทั้งโสดและมีครอบครัวแล้ว จะพูดว่าโดดเด่นโดนใจกลุ่มแม่บ้านก็ไม่ผิด แถมอำนาจการตัดสินใจยังอยู่ในมือพวกเธออีกซะด้วยสิ แต่คุณผู้ชายไม่ต้องเสียใจไป เพราะว่าเจ้า X3 คันนี้ ถึงจะเป็นรถที่ถูกใจแม่บ้าน แต่ให้ความสนุกในการขับแบบที่จะทำให้ติดใจไม่ใช่น้อยๆ
สำหรับการทดลองขับในครั้งนี้ ทางทีมงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดให้ด้วยการให้ขับแบบ Free Run จากถนนวิทยุ ขึ้นทางด่วนไปอยุธยา แล้วลัดเลาะเข้าไปลุยทางฝุ่นที่จังหวะสระบุรี ด้วย Code Name ที่น่าสนใจว่า Mission to Mars งานนี้จัดให้ขับกันบนดาวอังคารกันเลยทีเดียว
มาดูกันที่สเปคเครื่องยนต์กันสักหน่อย X3 xDrive20d xLine ใหม่ สร้างพละกำลังด้วย BMW TwinPower Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ที่ให้แรงม้าสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที และการที่มีการออกแบบที่เน้นให้ตัวรถมีน้ำหนักเบานำอลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้นทำให้มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 8 วินาที ซึ่งทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร เสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย Y-spoke
ทั้งยังมาพร้อมกับปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัสและจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) ช่วยควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชั่นสาระบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมกับติดตั้งระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น และยังโดดเด่นเสริมราศีให้ผู้เป็นเจ้าของด้วย BMW Display Key ที่ไม่เพียงล็อคและปลดล็อคด้วยสัญญาณวิทยุทางไกล แต่ยังแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถได้อีกด้วย
BMW Display Key
จากการทดลองขับในช่วงแรกเป็นช่วงทางด่วนออกนอกเมืองที่ปริมาณรถไม่ได้หนาแน่นถือว่าได้ลองเรื่องของอัตราเร่งได้อย่างสนุก โดย X3 มีโหมดการขับให้เลือก 3 โหมด คือ ECO PRO, COMFORT และ SPORT รวมทั้งระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ แบบ xDrive ระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน พวงมาลัยไฟฟ้าแบบสปอร์ตลดองศาการเลี้ยว ที่ทำให้การขับบนทางเรียบสนุกและเร้าใจ การเลือกใช้โหมดที่ให้มาจะสร้างสัมผัสที่ต่างกันโดยเฉพาะในเรื่องของอัตราเร่ง แต่ด้วยตัวถังที่มีขนาดเกือบเท่ากับ X5 กลับไม่รู้สึกเทอะทะ แถมยังมีความคล่องตัวสูงแม้ขับในเมืองที่มีการจราจรแออัด พวงมาลัยให้น้ำหนักที่คุณผู้หญิงชื่นชอบและยังคมได้ใจอีกต่างหาก
จุดที่ต้องขอชมคือ เมื่อทำความเร็วไปถึงระดับ 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แทบไม่มีเสียงลมผ่านเข้ามาให้ห้องโดยสาร การเก็บเสียงลมและเสียงของเครื่องยนต์ทำได้ดีมาก และเมื่อขับด้วยความเร็วปกติที่ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าไม่ได้เพลงที่จังหวะโดนๆ มีหวังง่วงหลับแน่ เพราะเสียงเงียบมาก ได้ยินเพียงเสียงของยางที่บดไปตามพื้นถนนเบาๆ เท่านั้น รวมทั้งระบบช่วล่างที่นุ่มนวล แต่เกาะถนนแบบหนึบหนับ ทำให้การขับรถคล้ายกับการล่องเรือไปบนผิวน้ำที่ราบเรียบไร้คลื่นลม
แต่ที่ท้าทายสุดๆ นั่นคือการขับแบบออฟโรดบนทางฝุ่นล้วนๆ ที่พื้นมีแต่กรวดหิน รวมทั้งขับไต่ทางชันที่ระบบขับเคลื่อน xDrive ของ X3 ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยทางทีมงานได้แบ่งออกเป็น 2 แบบทดสอบ สถานีแรกเป็นการจำลองพื้นที่ทั้งการขับบนทางที่เป็นหลุมบ่อ ทางขึ้นลงเนินชันและการขับไต่เนินดินแบบตะแคง เพื่อจับอาการของการทำงานแบบ xDrive ส่วนสถานีที่สองเป็นการขับแบบจิมคาน่า ที่จะเปิดหรือปิดระบบควบคุมการทรงตัวก็ได้ ซึ่งการขับแบบนี้ทำให้เห็นถึงความปลอดภัยที่ชัดเจนมากขึ้น คือเมื่อรถเสียอาการ เสียการควบคุม เครื่องยนต์จะชะลอการทำงานทำให้กดคันเร่งเติมลงไป รถก็จะไม่เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นการป้องกันอาการตกใจของผู้ขับที่อาจกดคันเร่งมากขึ้นทำให้รถส่งกำลังมากเกินไปจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ รวมทั้งหากมีการลื่นไถลระบบจะเข้ามาช่วยปรับรอบหมุนของล้อทั้งสี่ให้สัมพันธ์กันจึงช่วยให้ควบคุมให้เข้าสู่เส้นทางได้ง่ายขึ้น น้ำหนักของพวงมาลัยที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับสภาพการขับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ควบคุมทิศทางได้อย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ถึงจะจัดหนักแบบจิมคาน่า การควบคุมยังคงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย และปลอดภัยอีกด้วย
โดยรวมถือว่า X3 xDrive20d xLine ใหม่ มีทั้งความแรง เทคโนโลยีและความปลอดภัยครบถ้วน ด้วยรถคันเดียวสามารถปรับบุคลิกการขับให้เหมาะสมกับผู้ขับได้อย่างง่ายดาย พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบายในทุกตำแหนง เทคโนโลยีความปลอดภัยที่จัดเต็มและเหนือกว่า การตกแต่งภายในที่หรูหรา รูปโฉมที่ดุดันและปราดเปรียว เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบความอเนกประสงค์ในการใช้งานทั้ง ON Road และ OFF Road ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานบนทางฝุ่นบ่อยๆ ก็ยังถือว่าคุ้มค่า เผลอๆ ลองขับแล้วอาจจะลืมรุ่นใหญ่อย่าง X5 ไปเลยก็ได้ แถมขนาดตัวรถยังใกล้เคียงกันอีก แต่ด้วยความสดใหม่และสมรรถนะที่ไม่แพ้รุ่นพี่ X3 ใหม่ คันนี้น่าจะโดนใจกลุ่มเป้าหมายได้ไม่น้อย..ถึงจะเป็นรถบ้าน แต่ก็เป็นสายโหดเชียวนะ อย่างทำเป็นเล่นไป!
สำหรับราคาจำหน่ายรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม มีดังนี้
BMW X3 xDrive20d xLine BSI Standard ราคา 3,699,000 บาท
BMW X3 xDrive20d xLine BSI Ultimate ราคา 3,769,000 บาท
คลิ๊กดูรายละเอียดสเปคแบบละเอียดได้ที่นี่
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th