ลองขับ SUBARU WRX STI ควักเงิน 3.35 ล้าน ซื้อตำนาน คุ้มหรือไม่ !
หลายท่านคงรู้จักชื่อเสียงของรถยนต์แบรนด์ดังอย่าง Subaru มานานแล้วโดยเฉพาะตัวแรงอย่าง SUBARU WRX STI ที่เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เป็นตำนาน และเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคน
ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายก่อนว่า Subaru Impreza กับ Subaru WRX มันคนละรุ่นกันนะครับ เชื่อว่าหลายท่านคงรู้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายท่านเข้าใจว่ามันคือรุ่นเดียวกัน ผมอธิบายแบบนี้ครับ Subaru เล็งเห็นว่ายังมีตลาดหลายแห่งในโลกสำหรับรถเก๋ง C-Segment ขับเคลื่อน 4 ล้อ และไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์แรงๆ หรือช่วงล่างแบบสปอร์ต ด้วยเหตุนั้น ในปี 2011 พวกเขาก็ตัดสินใจแยกชื่อรุ่นและลักษณะการออกแบบ ของ Impreza กับ WRX ออกจากกัน…โดย Subaru Impreza จับตลาดลูกค้าที่ต้องการรถนุ่มๆ ขับง่ายๆ แต่มีความปลอดภัยสูงด้วย All-Wheel-Drive ส่วน Subaru Impreza จับตลาดสายซิ่ง แข็ง หนึบ ไว มันส์ แรง และ All-Wheel-Drive เหมือนกัน
เมื่อเรารู้แล้วว่ามันคือคนละรุ่นกันเพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาทดสอบรถยนต์ระดับตำนานอย่าง SUBARU WRX STI ที่ให้ความเร้าใจอย่างสุดขั้ว WRX STI คือตำนานรถแข่งระดับโลกอันเลื่องชื่อที่คว้าชัยชนะมาแล้วจากหลายหลายสนามแข่ง ด้วยระบบกันสั่นสะเทือนที่ได้รับการปรับตั้งมาให้เหมาะกับรถแข่ง ให้การควบคุมในระดับสุดยอด มีอัตราการเร่งความเร็วสุดเร้าใจ มาพร้อมสันนูนบนกระโปรงหน้าที่โดดเด่น นี่แหละคือตัวตนของ STI ที่สะท้อนถึงความเป็นรถแข่งระดับแชมป์เปี้ยน
ภายนอกอาจดูไม่ค่อยโหด ไม่ค่อยดิบ ไม่ค่อยดุดันเท่าไหร่ เหมือนรุ่นก่อนๆ เพราะรุ่นนี้เติมความหรูหราเข้าไปนิดหน่อย ไฟหน้า LED แบบปรับระดับอัตโนมัติ และปรับตามทิศทางการเลี้ยว มาพร้อมกับไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้า กระจังหน้าแบบสปอร์ต รับกับกันชนหน้าได้อย่างลงตัว แปลกไม่เห็นมีไฟตัดหมอกมาให้ เจ้า WRX STI คันนี้ยังมาพร้อมสเกิร์ตรอบคันขนาดพอเหมาะเรียบๆเท่ห์ๆ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวแบบ LED ฝากระโปรงแฝงความดุดันด้วยสกู๊ปดักลมที่ออกแบบดูเรียบง่ายไม่โป่งนูนขึ้นมาบนฝากระโปรงให้เกะกะสายตา เสาอากาศแบบครีบฉลาม มาที่ด้านท้ายไฟหลังแบบ LED เช่นกันพร้อมเพิ่มความดุดันด้วยสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ ดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนหลังพร้อมไฟตัดหมอกหลัง ท่อไอเสียแบบ 4 ท่อ
มิติตัวถัง (ความยาว x ความกว้าง x ความสูง) มม. 4,595 x 1,795 x 1,475 ความยาวช่วงล้อ 2650 น้ำหนักของตัวรถรวมอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ของตัวรถ 1540 กก. ความจุถังเชื้อเพลิง 60 ลิตร จะเห็นได้ว่ามิติตัวถังของ WRX STi ตัวนี้ มีมิติที่ต่างจากเดิมอยู่บ้าง คือยาวขึ้น 15 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวขึ้น 25 มิลลิเมตร ส่วนความกว้าง และความสูง เท่าเดิม
ส่วนห้องโดยสารนั้นดูเรียบง่ายขนาดของห้องโดยสารกว้างขวางโล่งสบายดีเทียบง่ายๆมันใหญ่กว่า Toyota Corolla Altis นิดหน่อย วัสดุในห้องโดยสารความหรูหราได้รับการพัฒนาขึ้นมากแล้ว เบาะหุ้มหนังเดินด้ายเย็บแบบทูโทน เบาะคนขับแบบปรับด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟรังชั่นจับกระฉับมือพร้อมระบบครูสคอนโทรลปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ที่ปัดน้ำฝนแบบมีเซ็นเซอร์ตรวจจับหยดน้ำฝนอัตโนมัติ แป้นเหยียบอะลูมิเนียม ระบบเครื่องเสียงแบบมีหน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว ระบบแฮนด์ฟรีรองรับ Bluetooth apple car play และ android auto มีหน้าจออเนกประสงค์พร้อมมาตรวัดบูสท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone เบาะหลังแบบพับได้ในอัตราส่วน 60/40 พร้อมที่พักแขน กล้องมองหลังขณะถอยจอด เซ็นเซอร์ถอยหลัง แต่ก็ยังมีลักษณะโดยรวมมันก็แอบรู้สึกว่ามันยังธรรมดาเกินไป (ยังไม่อาจเทียบชั้นรถเทอร์โบ 4 สูบจากฝั่งเยอรมันและสวีเดนได้)
เอาละได้เวลามาลองขับเจ้าตัวแรงคันนี้กันดีกว่า Subaru WRX STI ยังใช้เครื่องยนต์ EJ25T เบนซิน 4 สูบนอน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 407 นิวตันเมตร (41.5 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังลงพื้นทั้ง 4 ล้อ ผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเครื่อง คอแดง ที่เรารู้จักกัน (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า WRX STI ไม่มีเกียร์ออโตให้นะครับ) ซึ่งถ้าอยากได้เกียร์ออโตต้องลงไปเล่น WRX ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แทน
เอาละเริ่มออกตัวบอกเลยว่าผมไม่ได้ขับเกียร์ธรรมดามานานมากแล้ว เลยต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักครู่ เข้าเกียร์พร้อมออกไมมันส์กันได้บอกเลยว่าออกตัวดีกระโจนออกไปอย่างไม่มีอิดออด เกียร์สั้นเข้าง่าย คลัทช์หนักและแข็งกว่ารถเกียร์ธรรมดารุ่นใหม่ๆที่ขายกันอยู่เล็กน้อย ถ้าถามผมมันก็ไม่ได้แข็งแบบคลัทซ์ทองแดงผมว่าน้ำหนักกำลังดี สำหรับท่านที่เคยขับเกียร์ธรรมดามาขับง่ายครับคอนเฟริ์ม ความเร็วช่วงกลางบูสมา ดึงหลังติดเบาะยาวๆเรียกได้ว่าดึงกันยาวจนถึงรอบปลายเลยทีเดียว มันส์มากไม่ได้ขับรถแรงๆเกียร์ธรรมดาได้อารมณ์ยุค 90 มานานแล้ว ติดใจเลยครับพูดเลย คันนี้บูสมาจากโรงงานประมาณ 1.2 บาร์ นอกจากนี้ถ้าเพื่อนๆยังไม่ซะใจเจ้า WRX STI คันนี้ยังมีระบบ SI-DRIVE ตรงสวิชต์ควบคุมวงกลมบริเวณคอนโซลกลางถัดจากคันเกียร์นั้นละครับ สามารถเลือกใช้โหมดการขับได้ 3 รูปแบบ ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง หากกดลงไปตรงๆ จะเข้าสู่โปรแกรม Intelligent เน้นการขับแบบประหยัดน้ำมัน แต่เมื่อบิดไปทางซ้าย จะเข้าสู่โปรแกรม Sport เน้นการรีดกำลังของเครื่องยนต์ และเมื่อบิดไปทางขวาจะเข้าสู่ โปรแกรม Sport Sharp หรือ Sport# ระบบนี้จะทำงานโดยใช้ข้อมูลจากกล่องคอมพิวเตอร์ควบคุมเรื่องยนต์ ECU ร่วมกับสมองกลของเกียร์ และลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องยนต์ และเกียร์ทำงานไปตามโปรแกรมการขับที่ปรับตั้งไว้บอกเลยว่าโหมด Sport# ขับโครตสนุกเข้าโค้งนิ่งกริปดึงหลังติดเบาะทุกเกียร์ อีกระบบที่ช่วยได้เยอะคือ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ไม่ต้องกลัวเวลาจอดติดคาสะพานแล้วรถไหลไปชนคันหลังอีกต้องไป
นอกจากนี้ยังมีระบบ Driver’s Control Centre Differential (DCCD) แบบ Multi-Mode เป็นระบบกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า – หลัง ซึ่งโดยปกติแล้วการเฉลี่ยแรงบิดลงสู่ล้อจะอยู่ที่ หน้า 35% – หลัง 65% ซึ่งในระบบ Manual จะสามารถปรับการกระจายแรงได้ถึง 6 ระดับ จาก 35/60 จนถึง 50/50 ระบบนี้เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากสนามแข่งแรลลี่โลกเลยนะ และผู้ขับสามารถเลือกปรับได้เองตามความชอบโดยปุ่มควบคุมบริเวณเดียวกับ SI-DRIVE ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสความมันส์ขณะเข้าโค้ง ใครที่ชอบแก้อาการ Over หรือ UnderSteer ก็สามารถทำได้ตามสั่ง แต่หลักๆเค้ามีจุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยนะครับ อิอิ หรือท่านไหนปรับไม่เป็น หรือคิดว่ายุ่งยาก ก็สามารถปรับให้อยู่ในโหมด Auto ได้เช่นกัน ซึ่งระบบจะคำนวนทุกเหตุการณ์ให้แบบอัตโนมัติ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ได้รับการปรับปรุงใหม่ทำหน้าที่ได้ดีให้การตอบสนองดีขึ้น เฉียบคม แม่นยำ ควบคุมได้ดังใจ ระบบเบรกก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกันด้วยการเปลี่ยนไปใช้จานเบรก และลูกสูบเบรกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นของ Brembo คาลิปเปอร์เบรกขนาด 6 พอตในด้านหน้า และ 2 พอตในด้านหลัง พร้อมทำสีเขียวสะท้อนแสงโครตซิ่ง หยุด 300 ม้า ได้นิ่งสนิทแน่นนอน เอาอยู่ชัวร์ๆ
ระบบช่วงล่างด้านหน้า Inverted MacPherson Strut และระบบช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone บอกเลยว่าแน่น หนึบ เป็นตุ๊กแกเลยครับ เค้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างง่ายดายไม่มีปัดไม่มีโคลง แต่ถ้าท่านที่ชอบช่วงล่างนุ่มนวลบอกเลยว่าหาไม่ได้จาก WRX STI ครับ อย่างว่าก็ต้องแลกกันนะครับจะเอาช่วงล่างแน่นๆเทพๆมันก็ต้องแลกมาด้วยความกระด้างมันเป็นธรรมดาครับ
ระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆ
- เบรก ABS แบบมีเซ็นเซอร์ 4 จุดควบคุมแรงดันน้ำมันเบรก 4 ล้อพร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์
- จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISO-FIX
- ระบบควบคุมแรงบิดอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
- แป้นเหยียบนิรภัย
- ระบบเสริมแรงเบรก
- คานนิรภัยเสริมความแข็งแรงบริเวณประตูข้าง
- ระบบป้องกันคันเร่งค้าง
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม SRS
- ระบบยับยั้งการทำงานของเครื่องยนต์
- ถุงลมนิรภัย SRS ป้องกันเข่า
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้งแบบ Multi-Mode (VDC)
สรุป : SUBARU WRX STI คันนี้ ถ้าถามว่าขับสนุกมั้ย แรงหรือไม่ บอกได้เลยว่าที่สุดขับสนุกและแรงทีดียว ภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในเรียบง่ายไปนิด กับราคา 3,350,000 บาท ถามว่าคุ้มหรือไม่ ถ้าคุณรู้จักประวัติของมัน และโตมากับรถซิ่งยุค90 SUBARU WRX STI มันคือที่สุดมันคือตำนาน และคุณลองคิดดูว่าคุณได้รถยนต์ที่เป็นที่สุดระดับตำนานไว้ในครอบครองมันคุ้มค่ามากแค่ไหน รถวิ่งบนถนนน้อยไปซ้ำใคร ออกไปซัดรถเล่นชิลล์วันหยุด ถ้าคุณคิดแบบนี้บอกเลยว่ามันคุ้มค่ามากครับ หรือแอบบอกถ้าคุณคิดว่าราคามันโหดไปหน่อยลองขยับลงมาเล่นตัว WRX 2.0 Turbo AWD 6MT ราคา 2,640,000 บาท แล้วไปจัดเครื่องคอแดงมาวางใหม่ มันก็เป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าคุณเป็นประเภทที่เอาราคาเป็นตัวตั้ง มองที่ความหรูหรา สวยงาม ออฟชั่นและเทคโนโลยีใหม่เยอะๆ นั่งสบาย สะดวกสบายในการขับขี่ บอกเลยว่า SUBARU WRX STI ไม่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอนเพราะราคา 3 ล้านกว่าบาท คุณยังมีตัวเลือกอีกเยอะเชื่อผม
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th