เป็นวงการที่ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ Ferrari ค่ายรถซูเปอร์คาร์ชื่อดังแห่งอิตาลี ตกเป็นกระแสข่าวลือว่าอาจยอมกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการผลิตรถยนต์อเนกประสงค์หรือเอสยูวีออกขายในอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่อกระตุ้นยอดขายรวมให้ทะลุ 20,000 คันต่อปี

หลังจากพยายามปรับตัวตามเทรนด์ด้วยการออกรถแกรนด์ทัวเรอร์ 4 ที่นั่ง Ferrari FF ในปี 2011 ก่อนจะพัฒนาสู่ GTC4Lusso ที่เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2016 แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ และการที่คู่แข่งสำคัญอย่าง Lamborghini จะแซงหน้าไปก่อนด้วยการเริ่มต้นขายเอสยูวีสมรรถนะสูง Urus ในปลายปีนี้ทำให้พวกเขานิ่งเฉยไม่ได้

กระแสข่าวลือนี้เริ่มต้นจาก Bloomberg สื่อวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจระดับโลก รายงานว่าพวกเขาได้รับการคอนเฟิร์มข้อมูลจากหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์พัฒนารถยนต์ขนาดใหญ่อเนกประสงค์แบบ 4 ที่นั่ง ซึ่งตอนนี้ถูกเรียกในชื่อว่า “Ferrari Utility Vehicle” ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นทั้งรถแบบ 2-4 ประตู มีเป้าหมายเป็นลูกค้าชาวเอเชีย โดยเฉพาะจีนประเทศเดียวคาดว่าจะทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 2,000 คันต่อปี

GTC4Lusso รถสไตล์แกรนด์ทัวริ่งที่ Ferrari พยายามรักษาเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามโฆษกประจำค่าย “ม้าลำพอง” ปฏิเสธจะแสดงความเห็นกับข่าวลือที่ออกมา แต่ Bloomberg เชื่อว่าโมเดลเอสยูวีจะเป็นส่วนหนึ่งในแผนงาน 5 ปีที่จะแถลงอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2018 และจะเป็นผลงานสุดท้ายภายใต้การนำของ Sergio Marchionne ประธานบริหารที่มีกำหนดจะวางมือในปี 2021 ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะทำยอดขายสูงขึ้น 2 เท่าจากเดิมที่จำกัดอยู่เพียง 10,000 คันต่อปี รวมถึงการให้ความสำคัญกับโมเดลไฮบริดเพื่อให้อยู่ในเกณฑ์กำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป, สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก

Marchionne ซีอีโอ Ferrari ยอมเสียคำพูด ด้วยการตัดสินใจพัฒนาโมเดลเอสยูวี ก่อนที่เขาจะวางมือในปี 2021

นอกจากนี้ข่าวลือที่ออกมาตรงข้ามกับคำสัมภาษณ์ของ Marchionne ที่เคยตอบคำถามผู้สื่อข่าว Bloomberg เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ถึงความเป็นไปได้ที่จะเห็นรถเอสยูวีติดโลโก้ “ม้าลำพอง” ด้วยการยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “คุณคงต้องยิงผมให้ตายก่อน”

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Bloomberg/Ferrari Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th