“ชนม์สวัสดิ์” นำทัพ “วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต” ลุยศึก “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย”-“ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์”
“วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต” ยอดทีมแข่งไทยระดับชั้นนำของเอเชีย ประกาศนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำฤดูกาล 2020 เดินหน้าอย่างเต็มสูบทุกเกมความเร็วทั้งระดับอินเตอร์เนชั่นแนลและระดับประเทศ นำโดย “เสี่ยเอ๋” ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหมนักขับหลักและผู้ก่อตั้งทีม จับคู่กับ “เก่ง” พิษณุ ศิริมงคลเกษม นักขับชั้นนำของไทยไล่ล่าความสำเร็จในศึก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2020 และล่าแชมป์ในคลาส ไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ จีที3 ของรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2020 พร้อมเสริมทัพด้วยนักขับดาวรุ่งอย่าง สมประสงค์ อัศวเหม และ เศรณี ชาญวีรกูล สร้างความแข็งแกร่งในคลาส จีทีซี และวงอนาคตของทีมในระยะยาว
เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ยอดทีมแข่งสัญชาติไทยได้แถลงข่าวนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำฤดูกาล 2020 และเปิดตัวทีมแข่งประจำฤดูกาล 2020 โดยมี นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ผู้ก่อตั้ง วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต พร้อมด้วยนักขับของทีมในทุกคลาสร่วมในงานแถลงข่าว
ในปีนี้ วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต จะส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ และในประเทศไทย โดยในรายการ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2020 (GT World Challenge Asia) ซึ่งถือเป็นรายการซูเปอร์คาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีตั๋วสำหรับแชมป์ประจำปีไปลุยศึก จีที เวิลด์ คัพ ด้วย โดยทีมแข่งไทยจะส่ง ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม จับคู่กับ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ร่วมทีมในคลาส จีที3 แอม (GT3 AM) หลังจากในปีที่ผ่านมาสร้างผลงานอย่างโดดเด่น ด้วยการคว้ารองแชมป์เอเชียอย่างยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ ชนม์สวัสดิ์ และ พิษณุ ก็จะประสานงานกันในการแข่งขันอันดับหนึ่งของไทยอย่าง ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2020 รุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ จีที3 โดยมีเป้าหมายเพื่อคว้าแชมป์ประเทศไทยมาครองให้สำเร็จ
นอกจากนี้ วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ยังคงเดินหน้าสร้างอนาคตของทีม โดยเสริมนักขับดาวรุ่งเข้าสู่ทีมเพื่อลุยศึก ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2020 ในคลาส ซูเปอร์คาร์ จีทีซี โดยการจับคู่ของนักขับเลือดใหม่อย่าง สมประสงค์ อัศวเหม และ เศรณี ชาญวีระกูล ซึ่งเป้าหมายของทีมในปีนี้คือการสร้างประสบการณ์ในปีแรก และวางเป้าหมายในการสร้างโอกาสต่อสู้เพื่อคว้าโพเดี้ยมให้ได้
นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ผู้ก่อตั้ง วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต กล่าวว่า “ในปีนี้เราเน้นการแข่งขันทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ หลังจากที่คว้ารองแชมป์ในรายการ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ในคลาส จีที3 ปีที่ผ่านมา เราก็ได้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จกันต่อในปีนี้ โดย ผมจะจับคู่กับ “เก่ง” พิษณุ เพื่อเดินทางแข่งขันทั่วเอเชีย”
“น่าเสียดายที่เราไม่ได้ลงแข่งขันในช่วง 2 สนามแรกทำให้พลาดการเก็บคะแนนสะสมไป แต่ก็ยังทำงานกันอย่างหนักจนสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์จากปีที่ผ่านมาได้ ผมเชื่อว่าประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาของทั้งตัวนักขับเองและทีมงาน จะช่วยให้เราสามารถต่อสู้เพื่อลุ้นแชมป์เอเชียได้ ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกฝ่ายที่เดินเคียงข้างเรา เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย” นายชนม์สวัสดิ์ เผย
นอกจากนี้ วัฒนา มอเตอร์สปอร์ตยังให้ความสำคัญกับกีฬา “อี-สปอร์ต” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยได้ตัวนักขับดาวรุ่งวัย 15 ปี อย่าง “แบงค์” ธนาธิป ธนลาภานันนท์ เพื่อไล่ล่าความสำเร็จให้กับทีมในรายการ เอฟวัน อีสปอร์ต เรซซิ่ง แชมเปี้ยน ลีก ไทยแลนด์ 2020 และ จีพี อีเรซซิ่ง ซีรีส์ 2020 หลังจากที่คว้าแชมป์จากทั้ง 2 รายการได้ในปีที่ผ่านมา
“เรามองเห็นโอกาสในการประยุกต์ใช้ อีสปอร์ต มาพัฒนานักขับในการแข่งขันรถยนต์ในสนามแข่งขันจริง และ อีสปอร์ต จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของทีมในอนาคตที่จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับนักขับของเรา ซึ่งเรามีโปรเจ็กต์ที่จะส่ง “แบงค์” ธนาธิป ลงขับในรถแข่งจริงๆ ด้วย เชื่อว่าจะทำให้เขาสามารถปรับตัวและเรียนรู้กับการแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว”
สำหรับ การแข่งขันรายการ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2020 จะดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 6 สนาม เปิดฉากสนามแรกที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย วันที่ 28-29 มีนาคมนี้, สนาม 2 ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ วันที่ 25-26 เมษายนนี้, สนาม 3 ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 23-24 พฤษภาคมนี้, สนาม 4 ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 20-21 มิถุนายนนี้, สนาม 5 เซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศจีน วันที่ 12-13 กันยายนนี้ ก่อนจะปิดฉากสนามสุดท้ายที่สนาม เซี่ยงไฮ้ 888 ในวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้
ส่วนการแข่งขัน ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2020 จะออกสตาร์ทเป็นซัพพอร์ทเรซของศึก ฟอร์มูล่าวัน 2020 รายการ เวียดนาม กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 3-5 เมษายนนี้ ในสนาม 1-2 ก่อนจะกลับมาแข่งขันในประเทศไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในสนาม 3-4 ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายนนี้, สนาม 5-6 บางแสน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 14-19 กรกฎาคมนี้, สนาม 7-8 พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) วันที่ 11-13 กันยายนนี้ และปิดฉากสนามสุดท้ายของปีที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 30 ตุลาคม-1 พฤศจิกายนนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th