วิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์ จาก ยาง BRIDGESTONE
เมื่อคนเรายังอยากใส่รองเท้าคู่ที่ใส่สบาย แล้วทำไมรถยนต์จะไม่ต้องการยางรถยนต์ที่ถูกจริต เหมาะสมกับสมรรถนะ แต่การเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์ของคุณนั้น ควรต้องรู้อะไรบ้าง? มาดูวิธีในการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์ของคุณ จาก ยาง BRIDGESTONE
แน่นอนว่า “ยางรถยนต์” เปรียบเสมือนรองเท้า และเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของรถ ที่จะพาคุณขับเคลื่อนไปอย่างปลอดภัย จึงจำเป็นอย่างมากที่ควรจะต้องรู้วิธีการเลือกยางรถยนต์ที่ดี มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร อีกทั้งยังจะต้องได้มาตรฐาน มีความทนทาน ไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการเลือกยางรถยนต์แต่ละครั้ง จึงไม่ควรมองแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยจึงจะดีที่สุด
ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกยางรถยนต์แต่ละประเภท คือการเลือกยางให้เหมาะสมกับประเภทของรถที่ขับ ซึ่งปกติแล้ว รถใหม่ที่ออกจากโรงงานจะถูกเลือกแบรนด์ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพที่เหมาะสมกับรถประเภทนั้น ๆ มาไว้ให้อยู่แล้ว โดยเฉพาะยางรถยนต์ BRIDGESTONE ที่ถูกเลือกให้เป็นยางติดรถยนต์จากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำมากมาย เพราะเขามั่นใจว่ายางรถยนต์นั้นได้ผ่านการทดสอบจริงในทุกสภาวะการใช้งาน และทุกสภาพพื้นผิวถนนจากสนามทดสอบ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า ความปลอดภัยและคุณภาพเหนือระดับทุกการใช้งานอย่างแน่นอน ซึ่งต่อให้จะเปลี่ยนยางไปเป็นแบบไหน ยางรถยนต์เดิมที่ออกจากโรงงานคือเหมาะสมที่สุด
วิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถคุณ
การเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถนั้น จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งในแง่การใช้งาน ดูว่าสมบุกสมบันมากน้อยแค่ไหน อายุการใช้งานของยางรถยนต์ หรือแม้แต่การสึกหรอก่อนกำหนดด้วยสภาพแวดล้อมต่าง ๆ และที่สำคัญควรที่จะต้องรู้จักประเภทของยางรถยนต์ด้วย ว่ารถประเภทไหนเหมาะสมกับยางรถยนต์แบบใด
1. ยางรถยนต์ BRIDGESTONE TURANZA T005A
เป็นยางรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่ม สบาย เงียบยิ่งขึ้น ในทุกเส้นทาง ยาง BRIDGESTONE TURANZA T005A มาพร้อมประสิทธิภาพในการทรงตัวดีเยี่ยม ยึดเกาะถนนได้ดี ลดเสียงรบกวน และแรงกระแทก ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบพัฒนาบล็อกดอกยางแบบ Variable Pitch ซึ่งเป็นดอกยางที่มีลักษณะและขนาดที่แตกต่างกัน รวมไปถึงร่องดอกยาง High-Angle Sipes ที่ถูกปรับให้อยู่ในองศาที่เหมาะสม เพื่อลดแรงกระแทก ทำให้ไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนขณะขับขี่ ไม่ว่าจะขับอยู่บนพื้นถนนแบบเปียก หรือแห้ง หรือแม้กระทั่งรอยต่อของถนน ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารจะสัมผัสได้ว่า นี่คือที่สุดแห่งสุนทรียภาพ และความปลอดภัยที่พร้อมโลดแล่นไปบนทุกท้องถนน ซึ่งยางรถยนต์ BRIDGESTONE TURANZA T005A เหมาะสำหรับรถยนต์นั่งหรูหราตั้งแต่ขนาดกลาง ไปจนขนาดใหญ่ เช่น Jaguar XJ, Lexus ES, Mercedes Benz E-Class, BMW 5-Series, BMW 3-Series, Audi A4 หรือ Toyota Camry และ Honda Accord เป็นต้น
2.ยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA ADRENALIN RE004
สายสปอร์ต ที่หลงใหลในความเร็ว ต้องเลือกใช้ยางประเภทที่มีหน้ากว้าง จะช่วยให้เกาะถนน และตอบสนองพวงมาลัยได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญต้องเข้าทุกโค้งได้ด้วยความแม่นยำ ให้สมรรถนะการ ควบคุมอย่างเหนือชั้น ที่พร้อมเติมเต็มความเร้าใจให้คุณ กับยาง BRIDGESTONE POTENZA ADRENALIN RE004 ด้วยร่องดอกยางแบบพิเศษ Triple & Half Grooves ที่ถูกพัฒนามาให้ช่วยกระจายแรงกดบริเวณหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เข้าโค้ง และเบรกหยุดรถได้อย่างมั่นใจ ทั้งในสภาพถนนแห้ง และเปียก นอกจากนี้ยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA ADRENALIN RE004 ยังมี Wide Inside Rib บล็อกดอกยางด้านในขนาดใหญ่ ช่วยให้ยึดเกาะกับถนนได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และที่ขาดไม่ได้คือมีร่องดอกยางรูปตัว A “A” Shape & Aggressive Groove ให้ความสปอร์ตเต็มพิกัด เพิ่มความแข็งแรงของบล็อกดอกยาง ลดการบิดตัวของยางขณะขับขี่ ช่วยให้ตอบสนองพวงมาลัยได้อย่างฉับไวและสามารถเร่งเต็มสปีดได้ทุกทางตรง ยึดเกาะแน่น แม่นยำทุกการเข้าโค้ง พร้อมการเบรกที่เหนือชั้น หยุดรถได้อย่างปลอดภัย รถที่เหมาะกับยางรถยนต์ประเภทนี้ คือรถยนต์นั่งตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนขนาดใหญ่ เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Nissan Teana, Mercedes Benz C เป็นต้น
3. ยางรถยนต์ BRIDGESTONE ECOPIA EP300
แน่นอนว่า ช่วงเวลานี้ที่ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูด หลายคนหาวิธีประหยัดน้ำมัน ซึ่งบอกเลยว่ายางรถยนต์มีผลต่ออัตราการประหยัดน้ำมันอย่างมาก หากเลือกยางได้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันจึงเหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ และยาง BRIDGESTONE ECOPIA EP300 ก็คือคำตอบ เพราะเป็นยางที่พัฒนามาจากนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Nano Pro-Tech ที่มีโมเลกุลซิลิกาในเนื้อยางมีการจัดเรียงตัวได้ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในความต้านทานการหมุน จึงช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม มีดอกยางที่สามารถกระจายแรงกดได้อย่างสม่ำเสมอ จุดนี้เองที่ทำหน้าที่ช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น แม้บนพื้นถนนที่เปียกลื่นก็ตาม พร้อมกับการออกแบบปลายดอกยางแบบ Rib Pattern ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยลดการบิดตัวของดอกยาง และช่วยให้การขับขี่ดีขึ้นแม้ในช่วงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนทิศทาง ที่สำคัญยังคงไว้ซึ่งความนุ่มสบาย และคุณสมบัติยืดอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิม ยางรถยนต์ประเภทนี้ เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนขนาดใหญ่ เช่น Nissan March, Toyota Yaris, Honda City, Honda Civic, Toyota Altis หรือแม้กระทั่ง Toyota Camry, Honda Accord
4. ยางรถยนต์ BRIDGESTONE ALENZA 001
สำหรับรถ SUV หรือรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ประเภทรถที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และต้องการรถที่รองรับได้ทุกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบนี้แน่นอนว่าจำเป็นอย่างมาก ยาง BRIDGESTONE ALENZA 001 พร้อมที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในรถของคุณ ช่วยให้คุณออกสำรวจทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะถูกออกแบบเพื่อเพิ่มพลังการขับเคลื่อน และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ Multi-Round Block (MRB) Structure ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการเพิ่มสมรรถนะในการควบคุม การเบรกบนพื้นถนนเปียก การตอบสนองพวงมาลัยที่ฉับไว ช่วยให้ควบคุมรถยนต์ได้นิ่งยิ่งขึ้น เพราะมีสันปลายร่องดอกยางที่ถูกปรับความโค้งมน ส่งผลให้แรงกดที่บริเวณร่องดอกยางเพิ่มขึ้น ทำให้การยึดเกาะบนพื้นถนนทำได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี 3D M-Shaped Sipe ที่เข้ามาช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเอกสิทธิ์แห่งการออกแบบเพื่อรถ SUV โดยเฉพาะ พร้อมพาคุณออกไปสำรวจทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย หรูหราอย่างครบครันพร้อมความสะดวกสบายที่เหนือชั้น โดยรถยนต์ที่เหมาะสมกับยางประเภทนี้คือกลุ่มรถอเนกประสงค์ SUV และรถครอสโอเวอร์ CUV ทั้งหมด
5. ยางรถยนต์ BRIDGESTONE DUELER A/T 001
สายแกร่ง ที่รักในการผจญภัย พร้อมบุกตะลุยทุกเส้นทางไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหน จำเป็นที่จะต้องเลือกยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ แข็งแกร่ง ทนทาน เพื่อช่วยให้คุณได้ออกสำรวจไปในทุกเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะและรถ SUV ยาง BRIDGESTONE DUELER A/T 001 คือ ยาง All Terrain ระดับพรีเมียมสายพันธุ์อึด ซึ่งเป็นการผสานเอา DNA แห่งความแกร่ง และความดุดันเข้าด้วยกัน จากวิศวกรรมการออกแบบพิเศษเฉพาะ เพื่อสมรรถนะที่พร้อมลุยได้ทั้งเส้นทางออนโรด และออฟโรด มาพร้อมแรงกรุยที่เหนือกว่า โครงสร้างยางที่แข็งแกร่งแบบเหนือระดับ ประสิทธิภาพการเกาะถนนดีเยี่ยม แม้ขนาดของดอกยางจะใหญ่กว่ายางรถยนต์รุ่นอื่น ๆ แต่ถูกออกแบบมาให้ช่วยลดเสียงรบกวนจากถนนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้การขับขี่ในทุกเส้นทางเป็นไปอย่างนุ่มนวล เปิดประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ของสายลุย ซึ่งรถยนต์ที่เหมาะกับยางประเภทนี้ คือกลุ่มรถ SUV และรถกระบะยกสูง เช่น Isuzu D-Max, Isuzu Mu-X, Toyota Revo, Toyota Fortuner, Mitsubishi Triton, Mitsubishi Pajero Sport, Ford Ranger, Ford Raptor, Ford Everest, Mazda BT50, Nissan Navara, Nissan Terra เป็นต้น
การเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ ทำได้หรือไม่ มีผลอย่างไร ?
สำหรับสายโมดิฟาย อยากเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ ไม่ว่าจะด้วยใจรัก หรือชอบความ Unique หรืออาจจะหาซื้อยางขนาดเดิมที่ติดกับรถมาไม่ได้ อยากให้คำนึงถึงคุณภาพ และความเหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก เพราะขนาดยางที่ติดมากับรถเดิม ตามที่ออกจากโรงงานนั้น เขาได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดแล้ว แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยนจริง ๆ นั้น ก็สามารถเปลี่ยนได้ แต่อย่าลืมว่าการเลือกยางรถยนต์ควรจะเลือกยางที่มีขนาดใกล้เคียงจากยางเดิม และเป็นประเภทยางที่ไม่ส่งผลเสียต่อการใช้งาน โดยสิ่งที่ควรคำนึงในการเปลี่ยนขนาดยางมีดังนี้
อย่า ! เปลี่ยนขนาดยางให้เยอะเกินไปจากเดิม
– สิ่งที่ควรรู้คือ เมื่อเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ที่มีขนาดแตกต่างไปจากเดิมนั้น จะมีผลตามมา เช่นการใช้ยางรถยนต์ที่มีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักรถได้ลดลง เปลืองน้ำมัน เกจ์วัดความเร็วคาดเคลื่อน ส่วนการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ยางเสียดสีกับบางส่วนของรถ พวงมาลัยหนัก บังคับยาก ขณะใช้ความเร็วต่ำ และเกจ์วัดความเร็วคาดเคลื่อนอีกเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อต้องการเปลี่ยนยางข้ามรุ่น จึงควรเช็กจากค่าเฉลี่ยความสูงของแก้มยางว่าใกล้เคียงเส้นเดิมหรือไม่ เช่น ยางเดิมมีขนาด 185/65R15
- 185 คือ หน้ากว้าง (หน่วย มม.)
- 65 คือ ส่วนสูงแก้มยาง (คิดเป็น % จากขนาดหน้ายาง 65% จาก 185 = 64.75)
- R15 คือ ขนาดรอบวงล้อ
ซึ่งขนาดดังกล่าวสามารถเปลี่ยนได้ โดยเลือกขนาดที่ส่งผลต่อการขับขี่น้อยที่สุด เช่น 195/55R15 นี่คือขนาดหน้ากว้าง และความสูงของยางที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเกินไป
หากปรับเปลี่ยนยางผิดขนาด ผิดกฎหมายไหม ?
– หากใครที่อยากจะเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ที่ผิดจากขนาดเดิมมากเกินไป หรือ ผิดประเภทของการใช้งาน เช่น เอายางรถออฟโรดมาใส่รถสปอร์ต หรือเอายางรถกระบะ มาใส่รถเก๋ง แบบนี้ไม่แนะนำ เพราะนอกจากจะเป็นการเลือกยางรถยนต์ที่ทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่แล้ว ยังจะผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งข้อกำหนดกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก กำหนดไว้ว่า
- ล้อรถด้านท้ายจะยื่นออกมาจากตัวถังรถได้ไม่เกิน 15 เซนติเมตร ส่วนขอบยางด้านนอกสุดห้ามยื่นออกมาเกินตัวถังรถ
- บังโคลนที่ล้อทุกล้อจะต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่าขนาดของยางรถยนต์ ดังนั้นหากล้อยื่นออกมานอกบังโคลนจึงเป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
- การเปลี่ยนขนาดของยางให้เพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ ต้องไม่ทำให้ขีดความสามารถในการรับน้ำหนักของยางน้อยไปกว่าเดิม และต้องไม่เกิดการเสียดสี หรือติดขัดกับตัวถังหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญต้องไม่ทำให้ระดับความสูงของโคมไฟหน้า โคมไฟท้าย และโคมไฟอื่น ๆ ต่ำ หรือสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด
- หากฝ่าฝืนจะมีความผิด มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
หากใช้ยางผิดประเภท จะไม่ได้รับประกันยางจากบริษัท
– แน่นอนว่าการรับประกันยางรถยนต์ หรือส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์นั้น จะอยู่ในข้อกำหนดของทางบริษัทนั้น ๆ ในกรณีที่คุณใช้ยางผิดประเภท ซึ่งมีผลก่อให้เกิดความเสียหายได้ตามข้อควรคำนึงข้างต้น ทางบริษัทถือว่าไม่ได้อยู่ในการรับประกัน เพราะการรับประกันนั้นจะเกิดขึ้นได้เฉพาะกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นเนื่องจากข้อบกพร่องในการออกแบบ กรรมวิธีการผลิต หรือวัสดุที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพบว่ายางรถยนต์ที่คุณใช้ ถูกปรับเปลี่ยนมาไม่ตรงรุ่น หรือผิดประเภท เท่ากับว่าจะไม่ได้รับประกันยางจากบริษัทแน่นอน
ปีที่ผลิตยาง สำคัญแค่ไหน เลือกอย่างไรก่อนตัดสินใจเปลี่ยน
ต้องบอกว่ายางที่ผลิตมานานแล้ว ไม่เสมอไปนะที่จะแปลว่ายางนั้นเก่า เสื่อมประสิทธิภาพ เพราะแม้ว่าอายุยางจะเพิ่มไปตามกาลเวลา แต่ยางรถก็ยังคงมีประสิทธิภาพการใช้งานได้เช่นเดิม ตราบใดที่ถูกจัดเก็บไว้อย่างเหมาะสมอายุการเก็บรักษายาง ก็คล้ายกับการเก็บเครื่องสำอางของคุณผู้หญิง หากเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ตากแดดตากฝนจนเกินไป ยางเหล่านั้นก็มีอายุการเก็บรักษาเพื่อไว้ใช้ได้นานถึง 5 ปี ฉะนั้น ยางทุกเส้นมีอายุการใช้งานเท่ากัน ไม่เกี่ยวกับการเก็บรักษา และไม่ว่าคุณจะซื้อยางใกล้ หรือไกลจากวันที่ผลิตยางรถยนต์ คุณก็ยังได้รับการรับประกันตามระยะเวลาเช่นเดิม ส่วนความสึกหรอของยางนั้น จะเป็นไปตามการใช้งานของคุณมากกว่า ดังนั้นคุณสามารถซื้อยางใหม่ที่ผลิตในปีก่อน ๆ ได้ แต่เพื่อความสบายใจ ดูสถานที่ในการเก็บรักษายางไว้หน่อยก็ดี
วิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบว่ายางรถยนต์ของคุณถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยัง
1. ความสึกหรอของดอกยาง
ไม่ควรเกิน 1.6 มิลลิเมตร ซึ่งเทคนิคง่าย ๆ สามารถสังเกตได้จาก จุดสามเหลี่ยมเล็กๆ 6 จุดบนไหล่ยางแต่ละด้านเมื่อเจอสัญลักษณ์นี้แล้ว ให้มองตรงขึ้นไป ที่หน้ายาง และมองลึกลงไปที่ร่องดอกยาง ก็จะพบสันนูนที่ร่องยางซึ่งเรียกว่า สะพานยาง และเมื่อไหร่ที่ดอกยางสึก ไปถึงสะพานยาง นั่นแสดงว่ายางหมดอายุการใช้งาน ก็ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที เพราะหากยังใช้ต่อไป ยางอาจแตกระเบิดได้
2. ยางบวม
ยางรถยนต์ที่ใช้มานาน มักมีอาการบวมที่แก้มยาง หรือหน้ายาง ให้ลองสังเกต หากพบว่ายางบวมควรเปลี่ยนทันที เพราะจะทำให้ยางระเบิดได้
3. ยางฉีกขาด
ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ ถ้าพบเห็นรายฉีกขาดของยางแม้แต่นิดเดียว ควรเปลี่ยนทันทีเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างขับรถได้
4. ยางแตกลายงา
แม้ว่าคุณอาจจะไม่พบความสึกหรอของดอกยาง ไม่เจออาการยางบวม แต่สังเกตดี ๆ ใกล้ ๆ แล้วพบเห็นลอยแตกลายงา นั่นเท่ากับว่า ได้เวลาเปลี่ยนยางแล้วล่ะ
5. ระยะเวลาการใช้ยาง
ไม่ควรเกิน 3 – 4 ปี ซึ่งสังเกตปีที่ผลิตยางได้ง่าย ๆ เช่น 0822 หมายถึงผลิตสัปดาห์ที่ 8 ปี 2022 หรือดูระยะการใช้งานที่ถึงเวลาเปลี่ยน จะอยู่ที่ประมาณทุก ๆ 50,000 กิโลเมตร
แน่นอนว่า “ยางที่เหมาะสม คือยางรุ่นที่ติดรถมา” เพราะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ และส่งเสริมสมรรถนะของรถเดิมมาให้เต็มประสิทธิภาพอยู่แล้ว ที่สำคัญอยากให้คำนึงไว้เลยว่ายางคุณภาพเท่านั้นที่แบรนด์รถยนต์ชั้นนำเลือกใช้ “BRIDGESTONE, OUR QUALITY IS THE ONLY ANSWER.” เพราะเขามั่นใจว่ายางรถยนต์นั้นได้ผ่านการทดสอบจริงในทุกสภาวะการใช้งาน และทุกสภาพพื้นผิวถนนจากสนามทดสอบ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า ความปลอดภัยและคุณภาพเหนือระดับทุกการใช้งานอย่างแน่นอน
ดังนั้น หากต้องการเลือกยางรถยนต์คุณภาพระดับโลก ในครั้งต่อ ๆ ไป ให้มั่นใจ ยางรถยนต์ BRIDGESTONE ซึ่งมียางให้เลือกเหมาะสมกับทุกประเภทรถ และสามารถหาซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายยางชั้นนำทั่วประเทศ www.BRIDGESTONE.co.th/th
เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ขอบคุณข้อมูลจาก
- www.BRIDGESTONE.co.th/th
- www.grandprix.co.th/
- กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th/
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th