ร่วมเชียร์ 7 ทีมแข่งฮอนด้า ในศึกช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ในรุ่น จีที 500 และรุ่นจีที 300 แบบติดขอบสนาม พร้อมชมการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ “ฮอนด้า เรซซิ่ง 2018” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน–1 กรกฎาคมนี้

คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการบริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง ซูเปอร์ จีที เรซ ได้จัดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ทางฮอนด้า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนี้ ถือเป็นการตอบรับกระแสกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของวงการมอเตอร์สปอร์ตที่เติบโตขึ้น อีกทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และการเติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการกีฬา ให้แก่จังหวัดบุรีรัมย์”

“ในปีนี้ทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้าเข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 7 ทีม โดยรถยนต์ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ในรุ่นจีที 500 และรถยนต์เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที 3 ในรุ่นจีที 300 ซึ่งหนึ่งทีมที่น่าจับตามองที่สุดคือ ทีมคูนิมิตซึ หมายเลข 100 ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 3 สนามที่ผ่านมา ขึ้นแท่นทีม และนักขับอันดับ 1 ในตารางขณะนี้ ด้วยความพร้อมของรถยนต์ และนักแข่งทุกๆ ทีม ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าการแข่งขันที่สนามช้าง ในปีนี้ จะสนุกและเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา อย่างแน่นอน”

สำหรับการแข่งขัน “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสนามที่ 4 ของฤดูกาลแข่งขันปี 2018 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อเนื่องจาก 3 สนามก่อนหน้านี้ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่ผ่านมา

Jenson Button (ซ้าย) และ Naoki Yamamoto 2 นักแข่งของทีม Team Kunimitsu

ในปีนี้ ทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้าเข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 7 ทีม แบ่งเป็น 5 ทีมในรุ่นจีที 500 ได้แก่ ออโต้แบคส์ เรซซิ่ง ทีม อากูริ หมายเลข 8 (Autobacs Racing Team Aguri – No. 8), ทีมมูเก็น หมายเลข 16 (Team Mugen – No. 16), ทีมเคฮิน เรียล เรซซิ่ง หมายเลข 17 (Team Keihin Real Racing – No. 17), ทีมเอปสัน นากาจิม่า เรซซิ่ง หมายเลข 64 (Team Epson Nakajima Racing – No. 64) และทีมคูนิมิตซึ หมายเลข 100 (Team Kunimitsu – No. 100) โดยใช้รถฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที

สำหรับ 2 ทีมในรุ่นจีที 300 ได้แก่ ทีมโมดูโล ดราโก คอร์ส หมายเลข 34 (Team Modulo Drago CORSE – No. 34) และทีมคาร์กาย เรซซิ่ง หมายเลข 777 (Team CARGUY Racing) โดยใช้รถยนต์เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที 3 การแข่งขันรอบคัดเลือกจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 และรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2560 โดยจะทำการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 66 รอบ ในสนามที่มีระยะทาง 4.554 กิโลเมตร รวมระยะทางการแข่งขันกว่า 300 กิโลเมตร

อีกหนึ่งสีสันที่แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยไม่ควรพลาด การแข่งขันซัพพอร์ตเรซ “ฮอนด้า เรซซิ่ง 2018” โดยปีนี้มี 47 ทีมเข้าร่วมแข่งขันใน 3 รุ่นการแข่งขัน ได้แก่ ฮอนด้า โปร คาร์ (Honda Pro Car), ฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย (Honda Pro Car Modify) และฮอนด้า บริโอ้ คัพ (Honda Brio Cup) เพื่อชิงถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมกว่า 750,000 บาท โดยทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะทำการแข่งขันทั้งหมด 2 เรซ ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 9.00-9.40 น. จะมีการแข่งขันเรซที่ 1 สำหรับรุ่นฮอนด้า โปร คาร์ และฮอนด้า บริโอ้ คัพ เวลา 16.30-17.10 น. จะมีการแข่งขันเรซที่ 1 สำหรับรุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย และเรซที่ 2 สำหรับรุ่น ฮอนด้า บริโอ้ คัพ ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม เวลา 8.55-9.35 น. จะมีการแข่งขันเรซที่ 2 สำหรับ ฮอนด้า โปร คาร์ และฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย

นอกจากนี้ฮอนด้า ได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ Honda Track Experience เพื่อให้ลูกค้าฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ (Jazz GK) รวม 50 คัน ได้สัมผัสประสบการณ์บนสนามการแข่งขันระดับโลกผ่านการขับขี่จริงในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งจะทำการวิ่งในสนามเป็นขบวนพร้อมๆ กัน ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม โดยลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการขับขี่ในสนามแข่งขั้นพื้นฐานจากกิจกรรม Honda Driving Clinic โดยทีมครูฝึกที่เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศ

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่มาชมการแข่งขัน ยังสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย และเลือกซื้อของที่ระลึกจาก ฮอนด้า คอลเลคชั่นได้ที่บูธฮอนด้า บริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตลอด 2 วันของการแข่งขัน

ผู้ที่สนใจเข้าชมการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สามารถซื้อบัตรได้ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา และทางเว็บไซต์ www.allticket.com หรือติดตามชมผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง 24 (True4U) โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก (Knock Out Qualifying) จะถ่ายทอดสดในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 15.00–16.30 น. และรอบชิงชนะเลิศ ถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม เวลา 14.30–17.30 น.

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th