เปิดตัวเจนฯ 3 Porsche Cayenne ชูจุดขายสมรรถนะใกล้เคียง 911

รถเอสยูวีหรูที่ครองใจคนทั่วโลก Porsche Cayenne เปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 3 อย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ชูจุดขายถ่ายทอดเทคโนโลยีตรงจากรถสปอร์ต Porsche 911 ใช้โครงสร้างตัวถัง Intelligent Lightweight Construction ทำให้น้ำหนักเบาขึ้น 65 กิโลกรัม พร้อมผ่านบททดสอบในทุกสภาพอากาศมั่นใจสามารถใช้งานได้ทั่วทุกมุมโลก โดยช่วงแรกจะมีความแรงให้เลือก 2 ระดับ: เครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร 340 แรงม้า และเครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร 440 แรงม้า ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2.99 -3.67 ล้านบาท

ผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อดังจากเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี มั่นใจว่า New Cayenne มีความใกล้เคียงกับ Porsche 911 รถสปอร์ตที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของพวกเขา โดยเป็นครั้งแรกที่จะติดตั้งระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle Steering) และการใช้ยางที่มีไซส์แตกต่างกัน รวมทั้งเพิ่มอารมณ์การขับที่เร้าใจมากขึ้นด้วยระบบควบคุมสี่ล้อ All-wheel Drive ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากโมเดลก่อน, Porsche 4D Chassis Control, ระบบช่วงล่างถุงลม Three-chamber Air Suspension และระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC)

ในส่วนของการออกแบบยังคงอยู่ภายใต้แนวทางหลักของ Porsche Design DNA การปรับเปลี่ยนไฟหน้าแนวตั้งใหม่ช่วยทำให้รถดูมีความกว้าง และน่าเกรงถึงจะจอดอยู่ก็ตาม หากเทียบกับรุ่นก่อน New Cayenne จะยาวขึ้น 63 มม. มาอยู่ที่ 4.91 เมตร, ความกว้าง 1.98 เมตร โดยที่ขนาดฐานล้อเท่าเดิม (2,895 มม.) และความสูงลดลง 9 มม. ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังจะมีความจุ 770 ลิตร และเพิ่มได้อีก 100 ลิตรขึ้นอยู่กับการพับเบาะ

สำหรับไฟหน้าจะแบ่งเป็น 3 ระดับ โดย Cayenne ทุกรุ่นจะมาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมออปชั่นให้เลือกติดตั้ง Porsche Dynamic Light System (PDLS) ที่จะเพิ่มความปลอดภัยในการขับทั้งไฟส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย/ระดับไฟระหว่างขับบนมอเตอร์เวย์ และ PDLS Plus ที่พวกเขาบอกว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดด้วยการใช้ LED 84 หลอดให้แสงสว่างแบบแยกอิสระ ทำให้การเปิดไฟสูงไม่สร้างปัญหาให้คนขับรถในเลนตรงข้ามด้วยการปรับลดไฟอัตโนมัติ

มาที่รายละเอียดของเครื่องยนต์ Porsche Cayenne รุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบ 3.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จะอยู่ที่ 6.2 วินาที (5.9 วินาที หากติดตั้งชุด Sport Chrono Package) ทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 9.0-9.2 ลิตร/100 กม.

ขยับมาสู่ Cayenne S จะเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ความแรงจะเพิ่มเป็น 440 แรงม้า (มากกว่าโมเดลก่อน 20 แรงม้า) และแรงบิด 550 นิวตันเมตร โดยเหยียบคันเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.2 วินาที (4.9 วินาที/Sport Chrono Package) ความเร็วสูงสุดที่ 265 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 9.2-9.4 ลิตร/100 กม.

ส่วนสำคัญที่ทำให้ New Cayenne มีการขับที่สปอร์ตมากขึ้นอยู่ที่การใช้ระบบเกียร์ Tiptronic S 8 จังหวะที่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว และอัตราทดที่ดีในเกียร์ต่ำไม่ว่าจะเป็นการขับบนถนนปกติหรือการใช้งานแบบลุยออฟ-โร้ด โดยหากต้องขับลุยถนนนอกเมืองสามารถปรับเปลี่ยนระบบการควบคุมจากปกติที่อยู่ในโหมด Onroad มาสู่การใช้งานบนทางโคลน-ทางลูกรัง-ทะเลทราย-ปีนหน้าผาหิน (Mud, Gravel, Sand, Rocks) รวมทั้งติดตั้ง Porsche Traction Management (PTM) เพื่อให้การขับมีประสิทธิภาพสูงสุด

อีกเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดจาก Porsche 911 จะเป็นระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle Steering) ที่จะช่วยให้การออกจากช่องจอดแบบเทียบข้างที่มีระยะห่างด้านหน้า-หลังไม่มากทำได้ง่ายกว่าเดิม และช่วยเสริมด้านความปลอดภัยยามเมื่อใช้ความเร็วสูงแล้วต้องมีการหักหลบกะทันหัน ล้อหลังจะทำการปรับองศาเพื่อรักษาเสถียรภาพรถให้ไม่เสียการทรงตัว รวมทั้งการใช้ยางที่มีขนาดแตกต่างกันช่วยให้การขับมีความมั่นใจมากขึ้น โดย New Cayenne จะมีให้เลือกตั้งแต่ยางขนาด 19-21 นิ้ว

คลิปวีดิโอยืนยันว่า New Cayenne ผ่านบททดสอบมาแล้วทุกภูมิภาคทั่วโลก

Porsche ยังแสดงความมั่นใจว่าภายในห้องโดยสารของ New Cayenne เป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของการสื่อสารระหว่างคนขับกับรถยนต์ โดย Porsche Advanced Cockpit ถูกยกระดับให้มีความสปอร์ต และอารมณ์ที่หรูหรา หัวใจหลักของการออกแบบเป็นระบบควบคุมหน้าจอทัชสกรีน Full-HD ขนาด 12.3 นิ้ว รุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาภายใต้ Porsche Communication Management (PCM) เหมือนกับที่อยู่ในเจเนอเรชั่นล่าสุดของ Panamera ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน

หลังจากการเปิดตัวที่สตุ๊ตการ์ท-ซูฟเฟ่นเฮาเซ่น ประเทศเยอรมนี เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา จะเริ่มรับจองสำหรับลูกค้าในประเทศก่อน โดยราคารุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 74,828 ยูโร (ราว 2.99 ล้านบาท) และ Cayenne S 91,964 ยูโร (ราว 3.67 ล้านบาท) แต่ยังไม่รวมออปชั่นพิเศษที่สั่งติดตั้งเพิ่มตามความชอบของแต่ละคน

Infographic เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรุ่นธรรมดากับ Cayenne S