เมอร์เซเดสฯ เปิดตัว 2 สปอร์ตสายพันธุ์แรง AMG-พร้อม C 200 Coupe ประกอบในประเทศ เคาะราคา 3.45 ล้านบาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำภาพการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตสายพันธุ์แรงระดับแถวหน้าของโลกเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ และ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมจัดกิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ขนทัพรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีครบทั้ง 9 รุ่น เรียนรู้เทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะกับทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหารบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัวแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เราได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมทำการตลาดที่หลากหลายเพื่อตอกย้ำภาพ การเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลกให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากความมุ่งมั่นดังกล่าว ส่งผลให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่สนใจรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง ด้วยยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีทั่วโลกสูงถึงกว่า 130,000 คัน เมื่อปีพ.ศ. 2560”
“การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ–Driving Performance’ ถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ โดยผลิตภัณฑ์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ต้องมีทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมเพื่อมอบความโฉบเฉี่ยว และเร้าอารมณ์ให้แก่ผู้ขับขี่ ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีแล้ว การขับขี่อย่างปลอดภัย และเต็มสมรรถนะของรถยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้จัดกิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการสานต่อปรัชญาในการมอบ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการขับขี่รถยนต์แบบสปอร์ตสมรรถนะสูงให้แก่ทุกท่าน ด้วยการเชิญสื่อมวลชนกว่า 100 ชีวิต รวมถึงลูกค้าของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกกว่า 600 คนมาร่วมก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองไปพร้อมกับผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ดีกรีแชมป์การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ในระหว่างวันที่ 13-21 ตุลาคมนี้อีกด้วย”
ทางด้านฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ช่วยให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา เรามียอดขายที่เติบโตสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงประมาณ 350 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืนของแบรนด์ ทางบริษัทจึงได้มีการดำเนินกลยุทธ์ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมแผนรองรับกลุ่มลูกค้าเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจรถยนต์กลุ่มนี้ ด้วยเหตุนี้ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จึงได้เปิดตัวคอมมูนิตี้แ Mercedes-AMG Driving Experience 2018 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แกร่งในตระกูลเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เพื่อให้ทุกคนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกลุ่มรถยนต์ที่แรงที่สุดในโลก (World’s Fastest Family) ไปด้วยกัน”
“อีกหนึ่งความพิเศษที่เราเตรียมมาให้กับสื่อมวลชนทุกท่านในครั้งนี้ คือการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นยอดนิยมภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ของตระกูลซี-คลาส และการยกระดับสมรรถนะ ด้วยการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ รวมถึงเพิ่มเติมความหรูหรา และความสปอร์ตภายในห้องโดยสารให้โดดเด่นกว่าที่เคย Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ รถยนต์ตัวแรงที่สุดที่เคยมีมาในรถยนต์ตระกูล E-Class ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร 612 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และสุดท้ายกับ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้เจนเนอเรชั่นล่าสุดในกลุ่ม Dream Car ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมรถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้อย่างใกล้ชิด ณ ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” รองประธานเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวปิดท้าย
• เจาะรายละเอียด Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศไทย (ราคา 4,220,000 บาท)
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 โฉมใหม่ที่ได้รับการยกระดับทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ อัตราการใช้พลังงาน และความสปอร์ตให้เป็นไปตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี โดยดีไซน์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าเอเอ็มจีก้านคู่ตกแต่งด้วยสีเงินแบบด้าน ฝากระโปรงหน้าที่ปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม
โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาจากเอเอ็มจี โดยช่องลมและองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดในอุโมงค์ลมเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาล้ออัลลอยนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักรถและความร้อนที่ระบบเบรก ที่ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงาน ฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ พร้อมท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ Two Round Twin Tailpipe Look
นอกจากนี้รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัว จากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง ตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ Multibeam LED ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม) เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Sport Seat ด้วยวัสดุหุ้มหนังแท้กับคุณสมบัติ การอุ่นเบาะและระบบทำความเย็นที่ปรับได้ 3 ระดับ เสริมทั้งพนักพิงหลังและปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกป้องด้านข้างของผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น พนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปลุกเร้าความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่มีโหมดการแสดงผล 3 แบบในสไตล์เอเอ็มจี คือ Classic, Sport และ Progressive พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วและสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
รวมถึงผู้ขับขี่ยังจะได้พบกับความสปอร์ต เร้าใจมากกว่าที่เคยด้วยพวงมาลัยรุ่นใหม่แบบ AMG Performance Steering Wheel หุ้มด้วยหนังชนิด Nappa Leather ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดที่ออกแบบเป็นวงโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น คันเกียร์ที่คอพวงมาลัยชุบวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดา และ Touchpad 2 ข้างที่คอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่นนี้ โดยด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัด และ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งการด้วยเสียง เป็นต้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester ตกแต่งภายในด้วย AMG matt Silver Glass-fibre
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé มาพร้อมกับชุดคำสั่งเอเอ็มจี เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การขับขี่มีความสปอร์ตจนถึงขีดสุด ได้แก่:
- หน้าจออุณหภูมิของเหลว (Warm-up) ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost
- หน้าจอการตั้งค่า (Setup) แสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบกันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ ESP และเกียร์ที่ใช้อยู่
- หน้าจอแรงจี (G-Force) แสดงแรงจีปัจจุบันที่กดลงมาที่ตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใดๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม
- หน้าจอจับเวลา (Race Timer) สำหรับการจับเวลาโดยตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อยและมากที่สุดได้พร้อมกัน รวมถึงระยะที่ขับขี่และความเร็วเฉลี่ย
- หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ (Engine data) แสดงแรงบิดและกำลังเครื่องยนต์แบบกราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมด Boost
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังติดตั้งหน้าจอดิจิทัลสำหรับแสดงความเร็วและเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดการใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา โดยสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG Dynamic Select ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport Plus, Individual และโหมดการขับขี่ใหม่คือ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนหรือหิมะ
รุ่น | เครื่องยนต์ | ปริมาตร
กระบอกสูบ (ซีซี) |
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. |
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.) |
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé | เบนซิน แบบ V6 | 2,996 | 390 / 6,100 | 520 /2,500-5,000 | 4.7 | 250 |
• เจาะรายละเอียด Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ (ราคา 12,790,000 บาท)
Mercedes-AMG ได้สร้างนิยามใหม่ของคำว่าซีดานสมรรถนะสูง ด้วยการนำสุดยอดซีดานอัจฉริยะมาปรับโฉมพร้อมเพิ่มเติมความแรง เพื่อให้เป็นที่สุดของรถยนต์สมรรถนะสูงในตระกูล E-Class โดยใช้ชื่อว่า Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+
เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์ขึ้นไปอีกขั้น พร้อมการมอบความเร็วที่เหนือกว่า ด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 เทอร์โบคู่ แรงม้าสูงสุด 612 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 3.4 วินาที ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งไว้ใน E-Class ในขณะเดียวกัน ทางแบรนด์ยังได้มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีช่วยลดการทำงานที่สูญเปล่าของเครื่องยนต์และเพิ่มอายุการทำงานของลูกสูบหรือ CDS (Cylinder Deactivation System) ให้เป็นมาตรฐาน รวมถึงเพิ่ม AMG Speedshift MCT (มัลติคลัทช์เทคโนโลยี) และระบบเกียร์ความเร็ว 9 สปีดพร้อมกับคลัทช์เปียก (Wet Start-off Clutch) เป็นครั้งแรกเพื่อช่วยให้สามารถตอบสนองได้อย่างคล่องตัวขึ้น
ดีไซน์ภายในตกแต่งด้วยเบาะแบบ AMG Performance Seat ที่ให้ความสปอร์ตเร้าใจตลอดการขับขี่ มาพร้อมกับชุดหน้าจอความละเอียดสูง Comand ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเลือกหน้าจอได้ 3 แบบตามชอบคือ Classic, Sport และ Progressive นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester High-end 3D Surround Sound System
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี ที่มีมาอย่างมากมายเพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ AMG Dynamic Select, ระบบ Pre-Safe, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า (Distance Pilot Distronic), ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display) และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth
รุ่น | เครื่องยนต์ | ปริมาตร
กระบอกสูบ (ซีซี) |
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. |
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.) |
Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ | เบนซิน แบบ V8
เทอร์โบคู่ |
3,982 | 612 /5,750-6,500 | 850/2,500-4,500 | 3.4 | 250 |
• เจาะรายละเอียด Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ (ราคา 3,450,000 บาท)
รถยนต์รุ่นนี้ได้ถูกพัฒนาให้สาวกดาวสามแฉกทุกท่านได้พบกับความสปอร์ตและการขับขี่ที่เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ด้วยการดีไซน์แผงหน้าปัดแบบดิจิทัล และระบบกันสะเทือน Dynamic Body Control เครื่องยนต์ 4 สูบ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหน้า และท้ายรถใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ Multibeam LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ Ultra Range Highbeam และระบบกันสะเทือนแบบ AMG Sports Suspension Based on Air Body Control
ดีไซน์ภายใน เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ต แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่ โทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ที่เลือกได้ถึง 64 สี ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Burmester Surround Sound System และหลังคาแก้วแบบ Panoramic Sliding Sunroof พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัย มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบ Attention Assist พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง
รุ่น | เครื่องยนต์ | ปริมาตร
กระบอกสูบ (ซีซี) |
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. |
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.) |
C 200 Coupé AMG Dynamic | เบนซิน 4 สูบ พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ | 1,497 | 184/5,800 – 6,100 | 280/3,000–4,000 | 7.9 | 239 |
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th