เชฟโรเลต แคปติวา SUV ที่พร้อมทั้งสมรรถนะและการเชื่อมต่อ
ยุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป การติดต่อสื่อสารกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แม้แต่การเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการขับรถออกไปท่องเที่ยวเรายังอยากที่จะออนไลน์ไว้ตลอดเวลา และครั้งนี้เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ตอบโจทย์ของผู้ใช้งาน จึงได้ติดตั้งระบบการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นแอปเปิล คาร์เพลย์ (Apple CarPlay) และแอนดรอยด์ ออโต้ (Android Auto) เพื่อการใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี รองรับการสั่งงานด้วยเสียง เพื่อโทรออกและส่งข้อความ แถมยังเป็นรถรุ่นแรกของเชฟโรเลตที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟอันล้ำสมัย ทำให้การขับบนท้องถนนในประเทศไทยมีความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เมื่อสมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์
เชฟโรเลตถือเป็นแบรนด์แรกที่แนะนำฟังก์ชั่น สิริ อายส์ ฟรี (Siri Eyes Free) ของแอปเปิล คาร์เพลย์ ที่ใช้ในรถ และนับเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่นำเสนอแอพฯ ดังกล่าวในรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี และเป็นรายแรกที่นำเสนอความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ ออโต้ทั่วโลก
สำหรับ แอปเปิล คาร์เพลย์ เป็นแอพฯ แสดงผลสมาร์ทโฟนที่พัฒนาโดยแอปเปิลเพื่อให้ไอโฟน 5 หรือรุ่นใหม่กว่าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ อาทิ เชฟโรเลต มายลิงค์ ซึ่งใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายบนหน้าจอทัชกรีนขนาด 7 นิ้วรุ่นใหม่ของแคปติวา หรือผ่านระบบควบคุมบนพวงมาลัยด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง สิริ อายส์ ฟรี (Siri Eyes Free) แอปเปิล คาร์เพลย์รองรับแอพ อย่างโทรศัพท์ (Phone) ข้อความ (Messages) แผนที่ (Maps) และเพลง (Music) ตลอดจนแอพของบริษัทผู้พัฒนาอื่นๆ สำหรับรายชื่อแอพฯ ที่รองรับการใช้งานสามารถเข้าชมได้ที่ Apple.com/ios/carplay
ส่วน แอนดรอยด์ ออโต้ เป็นแอพฯ แสดงผลสมาร์ทโฟนที่พัฒนาโดยกูเกิลเพื่อให้สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (เวอร์ชั่นโลลี่ป๊อป 5.0 หรือ Android Lollipop 5.0 ขึ้นไป) สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในรถ รวมถึงแคปติวาใหม่ที่มาพร้อมระบบเชฟโรเลต มายลิงค์ แอนดรอยด์ ออโต้นำเสนอการใช้งานที่ง่ายดายของระบบนำทาง กูเกิล แม็พส์ (Google Maps) การช่วยเหลือส่วนบุคคล
กูเกิล นาว (Google Now) และการสั่งงานด้วยเสียง โอเค กูเกิล (OK Google) รวมถึงแอพเสียงและเครือข่ายการส่งข้อความที่ครอบคลุมบริษัทผู้พัฒนารายอื่นๆ สำหรับรายชื่อแอพฯ ที่รองรับการใช้งานในตลาดเวลานี้สามารถเข้าชมที่ Android.com/auto
โดยในส่วนของแอพฯ รองรับบน เชฟโรเลต มายลิงค์ ใหม่ เป็นแอพฯ ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าจะไม่รบกวนสมาธิของผู้ขับขี่ และสามารถใช้งานแอพฯได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ หลายฟังก์ชั่นการใช้งานสามารถควบคุมได้ด้วยเสียงผ่านแผงควบคุมบนพวงมาลัย ผ่านสิริ อายส์ ฟรี หรือ โอเค กูเกิล อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนและไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้โทรศัพท์แฮนด์ฟรีและตอบข้อความได้อย่างปลอดภัย ซึ่งลูกค้าแคปติวา รุ่นใหม่ ปี 2016 สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับระบบมายลิงค์ผ่านทางพอร์ทยูเอสบี พร้อมกับการชาร์จโทรศัพท์ ถ้าผู้ใช้มีไอโฟนที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ หรือโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่รองรับแอนดรอยด์ ออโต้ ระบบนี้จะเปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ แสดงหน้าจอที่คุ้นตาโดยดึงเอาไอคอนของแอพฯบนมือถือมาแสดงบนบนหน้าจอทัชสกรีน ทั้งรายชื่อสำหรับการติดต่อ เพลงและแอพฯ ที่รองรับการใช้งาน
การพัฒนาระบบมายลิงค์ใหม่ให้สามารถใช้ระบบปฏิบัติการและแอพฯที่เราคุ้นเคยของแอปเปิลและแอนดรอยด์ ทำให้ลูกค้า เชฟโรเลต แคปติวา สามารถเชื่อมต่อและใช้งานระบบนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องทำความคุ้นเคยกับฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ลูกค้าแคปติวาสามารถใช้ฟังก์ชั่นเดียวกันนี้ในการเล่นเพลงในโทรศัพท์ หรือผ่านระบบคลาวด์ ระบบเชฟโรเลต มายลิงค์ยังสามารถแสดงภาพและวีดีโอจากโทรศัพท์ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนเมื่อตัวรถจอดสนิทหรือเคลื่อนที่ช้าๆ
โดยปัจจุบันมีลูกค้าเชฟโรเลต แคปติวา มากกว่า 38,000 คนในประเทศไทย แคปติวาใหม่จึงเป็นการยกระดับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจะดึงดูดลูกค้าให้สนใจแบรนด์มากขึ้น ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ เชฟโรเลต มายลิงค์ เชฟโรเลตกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อและยกระดับความสะดวกสบายในตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวีในประเทศไทยให้สูงขึ้นอีกขั้น
ป้องกันอุบัติเหตุตลอดเวลา
ในขณะที่การสั่งงานด้วยเสียงของระบบมายลิงค์เน้นย้ำความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่มีต่อความปลอดภัย แคปติวา ใหม่ ยังยกระดับการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้สูงขึ้นอีกขั้น ด้วยการแนะนำระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเหลือการถอยจอด (Rear Park Assist) ระบบเหล่านี้ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งบนกันชนหลังในการตรวจจับมุมอับสายตาด้านข้าง คอยช่วยเหลือผู้ขับขี่เมื่อกำลังถอยหลังหรือเปลี่ยนช่องจราจร จึงหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้
ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา เป็นการช่วยเหลือขณะเปลี่ยนช่องจราจรที่ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการเฉี่ยวชนด้วยการระบุว่ามีรถอยู่ในมุมอับสายตาทั้งขณะเคลื่อนที่หรือจอดนิ่ง เมื่อระบบตรวจจับว่ามีรถอยู่ในมุมอับสายตา สัญลักษณ์สีเหลืองจะปรากฏบนกระจกมองข้างด้านดังกล่าวและไม่กะพริบ ถ้าผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อทำการเปลี่ยนช่องจราจรขณะที่มีรถคันอื่นอยู่ในมุมอับสายตา สัญลักษณ์บนกระจกดังกล่าวจะกะพริบเพื่อยกระดับการเตือนผู้ขับขี่ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับทัศนวิสัยของลูกค้า โดยทำงานร่วมกับระบบกล้องมองหลังเพื่อตรวจจับสภาพการจราจรเมื่อกำลังถอยหลัง ถ้าระบบตรวจจับพบว่าถนนด้านหลังรถมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ อาทิ เด็กที่กำลังปั่นจักรยาน สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอถอยหลังด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่ พร้อมกับเสียงเตือนจากลำโพงด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่
ระบบช่วยเหลือการถอยจอด ทำงานขณะเข้าจอดด้วยความเร็วต่ำ ด้วยการแจ้งข้อมูล “ระยะห่างระหว่างวัตถุที่ใกล้ที่สุด” บนหน้าจอแสดงข้อมูล (Driver Information Center) และมีสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอกล้องมองหลัง ระบบจะส่งเสียงเตือนอย่างต่อเนื่องหากตัวรถเคลื่อนเข้าใกล้วัตถุมากเกินไปและควรหยุดทันที
อีกระดับของประโยชน์ใช้สอย และการออกแบบที่ล้ำสมัย
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบด้านหน้า โดยเฉพาะกรอบไฟหน้า ซึ่งมีขนาดเล็กลงและมาพร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันในตัว การปรับดีไซน์ยังรวมถึงกระจังหน้าซึ่งปรับตำแหน่งโบว์ไทของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นบนกระจังหน้า เอกลักษณ์แบบดูอัลพอร์ทถูกปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน เมื่อมองในภาพรวม แคปติวามีรูปลักษณ์ที่ก้าวล้ำ เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและความรู้สึกร่วมสมัย ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การออกแบบของแคปติวาใหม่ ยังสอดคล้องกับทิศทางการออกแบบของเชฟโรเลตในระดับโลก ทำให้แคปติวาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เชฟโรเลตมากขึ้น
แคปติวายังได้รับการยกระดับภายในห้องโดยสาร นอกจากฟีเจอร์การเชื่อมต่อที่มีความสำคัญแล้ว ห้องโดยสารยังถูกปรับดีไซน์ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้นและเป็นผู้นำเทรนด์การตกแต่งในปัจจุบัน การติดตั้งระบบเชฟโรเลต มายลิงค์ทำให้วิทยุและการควบคุมระบบนำทางเป็นส่วนเดียวกันและสามารถใช้งานผ่านหน้าจอทัชสกรีนสีเต็มรูปแบบบนคอนโซลกลาง ขณะที่การควบคุมระบบปรับอากาศแบบดูอัลโซนของแคปติวาที่แยกส่วนออกมาโดยเฉพาะก็มีการใช้งานที่สะดวกง่ายดายมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้าไอซ์บลูรูปแบบใหม่บริเวณที่วางเท้าด้านหน้าและหลัง พร้อมบันไดข้างขึ้นรูปเรืองแสงทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ช่วยเพิ่มความหรูหราและมอบความสว่างชัดเจนเมื่อเข้าหรือออกจากห้องโดยสารยามค่ำคืน
การยกระดับที่มีความสำคัญยังรวมถึงหน้าจอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่รูปแบบใหม่ มีกราฟฟิกที่อ่านง่ายมากขึ้น รวมถึงสัญลักษณ์ที่แสดงความแตกต่างระหว่างการใช้งานครูสคอนโทรลหรือ Cruise Control Engaged และก่อนการใช้งานครูสคอนโทรลหรือ Cruise Control Ready ข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนได้จากสวิทช์ด้านข้างพวงมาลัย โดยสามารถตรวจสอบระยะทาง ปริมาณเชื้อเพลิง อัตราความประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยและขณะขับขี่จริง รวมถึงความเร็ว ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์และแรงดันลมยางของแต่ละล้อได้ซึ่งถือเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับเดียวกัน สวิทช์บนคอนโซลเรืองแสงสีขาวเพิ่มการมองเห็น และถูกปรับตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายตามหลักการยศาสตร์ของผู้ขับขี่
แคปติวายังติดตั้งระบบเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (Passive Entry Passive Start – PEPS) อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ภายในรัศมีของเซ็นเซอร์โดยไม่ต้องถือกุญแจ โดยมีสวิทช์ที่ติดตั้งด้านขวาของพวงมาลัยที่สามารถเปิดหรือปิดระบบนี้ได้อีกด้วย
พบกับเชฟโรเลตได้ที่บูธ A11 ที่งานมหกรรมยานยนต์หรือไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 33 ประจำปี 2016 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 – 12 ธันวาคม เวลา 12.00 – 22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11.00 – 22.00 น. ในหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ
เรื่อง/ภาพ: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th