นับว่าเปิดปี 2017 มาตลาดรถยนต์ในบ้านเราดูจะคึกคักเป็นพิเศษ มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ กันตั้งแต่ต้นปี วันนี้เราจะนำรถยนต์ในกลุ่ม C เซ็กเม้นท์ ที่เพิ่งออกมาสู่ตลาดไม่นานนี้ มาเทียบสเป็คกันให้เห็นกันไปเลยว่าคันไหนจะเจ๋งกว่ากัน ราคาเป็นอย่างไร คันไหนคุ้มค่าคุ้มราคา

โดยเราจะเลือกเอา โตโยต้า อัลติส 2017 กับ มาสด้า 3 ใหม่ มาเทียบกับแบบหมัดต่อหมัดกันไปเลย โดยเราจะนำ โตโยต้า อัลติส รุ่น 1.8 V มาเทียบกับ มาสด้า 3 รุ่น 2.0SP ตัวซีดาน

ภายนอก

เรามาเริ่มที่รูปทรงรูปลักษณ์ภายนอก  โตโยต้า อัลติส 1.8 V ปรับดีไซน์ภายนอกใหม่ โดยเฉพาะด้านหน้าให้ดูทันสมัย โฉบเฉี่ยวขึ้น ไฟหน้า Bi-Beam LED Projector ปรับระดับและเปิด–ปิด อัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกหน้าใหม่ ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding โดดเด่น และชัดเจนขึ้น มิติตัวรถขนาด (กว้าง x ยาว x สูง)  4,620 x 1,775 x 1,460 /มม.

ส่วนทางด้านมาสด้า 3 ใหม่ ปรับให้มีความเป็นสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟตัดหมอก ที่ถูกดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่ รวมไปถึงไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ มิติตัวรถขนาด (กว้าง x ยาว x สูง)  4580 x 1795 x 1450 มม.

สรุปแล้วคือทั้ง 2 ยี่ห้อ ปรับเปลี่ยนภายนอกแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าใครไม่ใช้แฟนพันธุ์แท้ของทั้ง 2 รุ่นนี้ บอกเลยดูเกือบไม่ออกว่าเปลี่ยนใหม่ตรงไหน ถ้าพูดถึงเรื่องการดีไซน์ ด้านโตโยต้า อัลติส อาจจะดูเชยไม่หวือหวา โดดใจวัยรุ่นเท่าไหร่นัก แถมยังออกมาก่อนอีก แต่ โตโยต้า อัลติส มันก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้าได้ดี เอาเป็นว่าการดีไซน์ออกมากลางๆแบบนี้ดูไปนานๆไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่เจ้า อัลติส ก็จะยังดู ไม่ตกรุ่น ยังคงมองแล้วดูดีตลอดเวลา ส่วนมาสด้า 3 ใหม่ ต้องพูดเลยว่าการดีไซน์ มันช่าง เท่ห์ สปอร์ต สวยงาม น่าขับ จริง โฉบเฉียวโดดใจวัยรุ่นอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปซัก 4-6 ปีมันจะดูแล้วเบื่อหรือเปล่ากับการที่มีดีไซน์ที่หวือหวาแบบนี้ เหมือนกับผู้หญิงละครับที่เค้าว่า ผู้หญิงน่ารักดูได้นานไม่น่าเบื่อ แต่ผู้หญิงสวยดูดี ดูนานๆมันจะเบื่อ อันนี้ต้องอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคลแล้วครับว่าชอบแบบไหนต่างคนต่างความคิดครับ

ภายใน

มาดูกันที่ภายใน ห้องโดยสารของโตโยต้า อัลติส 2017ภายในออกแบบแผงคอนโซลหน้าใหม่ เดินด้ายตะเข็บสีขาวพร้อมวัสดุแบบ Soft touch ติดตั้งช่องแอร์ทรงกลมดีไซน์สปอร์ต มาตรวัดเรืองแสง Optitron ดีไซน์ใหม่ พร้อม Meter WOW หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบสี Color MID เบาะนั่งด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มดันหลังไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control  ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth สามารถโทรออกด้วยเสียง แถมยังติดตั้งเครื่องเสียงรองรับ DVD/ CD/ MP3/ WMA หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และลำโพง 6 จุด มีช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 3 จุด (ด้านหน้า 1 จุด ด้านหลัง 2 จุด) ระบบนำทาง Navigator รองรับ T-CONNECT ระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)  แต่ในของรุ่น ESport Option ที่ผมขับมีการเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันมากยิ่งขึ้น สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้นกว่าเดิม  ติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์รถแข่ง (Bucket Seat) ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มดันหลังไฟฟ้าฝั่งคนขับ มีสวิตช์การขับขี่แบบสปอร์ต และกล้องมองหลัง

ส่วนมาสด้า 3 ห้องโดยสารภายในโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยม เบาะหนังทูโทน ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า น้ำตาล-ดำ หรูหรายิ่งขึ้นกับแผงประตูที่เพิ่มวัสดุสีเงิน สีดำวาว Piano Black และคอนโซล พวงมาลัย มาตรวัดความเร็ว ในดีไซน์รูปแบบใหม่ อีกทั้งจอ Active Driving Display เปลี่ยนเป็นแบบสีเพื่อการแสดงข้อมูลที่ชัดเจน ติดตั้งจอ Center Display ดีไซน์ใหม่แบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ MZD CONNECT เวอร์ชั่นใหม่ และเปลี่ยนจากเบรคมือธรรมดา เป็นระบบเบรคมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) มีปุ่มปรับให้เป็นโหมด Sport เพื่อเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่

สรุปว่า การดีไซน์ภายในสวยเท่ห์พอๆกันมาสด้าอาจจะดูหรูหรามากว่าหน่อยเพราะเพิ่งปรับโฉมไป ระบบอำนวยความสะดวกที่ให้มาพอๆกัน เบาะนั่งสบายทั้งคู่ กินกันไม่ลงเลยครับสำหรับภายในห้องโดยสาร

เครื่องยนต์

มาถึงเครื่องยนต์ โตโยต้า อัลติส ใช้เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/ นาที และแรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/ นาที ในขณะที่ มาสด้าใช้เครื่องยนต์ เบนซิน SKYACTIV-G ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จากสเป็คเครื่องจะเห็นได้ว่ามาสด้า3 มีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าวิ่งทางยาวๆไกลๆมาสด้าได้เปรียบแน่นอน แต่ถ้าวิ่งไม่ไกลมาก หรือวิ่งในเมือง เน้นการออกตัวและอัตราความประหยัดน้ำมัน โตโยต้า อัลติส กินแน่นอน ทั้ง 2 รุ่นขับสนุกพอๆกันเลยครับแม้ว่าเครื่องของมาสด้า3จะแรงกว่า แต่น้ำหนักของมาสด้า3 ก็มากกว่าพอสมควร มาสด้าหนัก1,358 กิโลกรัม ส่วนโตโยต้าหนัก 1,290 กิโลกรัม

ระบบความปลอดภัย/ช่วงล่าง

ส่วนเรื่องระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆและระบบช่วงล่างนั้น ทางโตโยต้า อัลติส มีการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ให้หนึบแน่น กว่าเดิม   ในส่วนของระบบความปลอดภัย โตโยต้า อัลติส ใหม่ จะติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยมามากขึ้น เช่น ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ครบทุกรุ่น ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า,  ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง, หัวเข่าด้านคนขับ และด้านข้างเบาะหลัง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-star Assist Control) ป้องกันรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชันกระจกมองข้างพร้อมระบบ Auto Reverse Link  สามารถปรับตั้งค่าองศาได้ โดยจะปรับระดับอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

แต่มาสด้า 3 ใหม่ เค้าจัดหนักมากจริงๆ ติดตั้งเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ประกอบด้วย ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา , MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า, SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ,DAA (Driver Attention Alert) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่, LAS (Lane-Keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน , LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ,SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ,SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ,ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน , RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง นอกจากนี้ยังมี ABS ทั้ง 4 ล้อ พร้อม EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรก, ถุงลงนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ, HLA (Hill Launch Assist) ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS (Traction Control System) และ ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM) สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันในภาวะฉุกเฉิน แถมยังมีระบบ G-VECTORING CONTROL ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ GVC ที่จะช่วยให้การทรงตัวของรถเป็นไปอย่างนิ่มนวล ส่งผลให้เกิดการยึดเกาะถนนดียิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและความสบายในทุกสภาวะการขับขี่ …เออ !! ถ้าพี่จะใส่มาเยอะขนาดนี้ผมยอมก็ได้ค้าบ แหมม จัดหนักจัดเต็มจริงๆครับ มาสด้า

ราคา/การบริการ

เรื่องราคา โตโยต้า อัลติส 2017 รุ่น1.8 V Navi  เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i  ราคา 1,079,000 บาท ส่วนมาสด้า3 Sedan 2017 รุ่น 2.0SP ราคา 1,119,000 บาท มาสด้า3 แพงกว่านิดหน่อย เรื่องบริการหลังการขายและเรื่องอะไหล่ทางโตโยต้า กินครับเรื่องนี้ จำนวนศูนย์บริการเยอะกว่า อะไหล่ถูกกว่า ซ่อมง่ายกว่า ราคาขายต่อก็ดีกว่า ครับผมอันนี้บอกตรงๆเลย สรุปแล้วจะเลือกซื้อรถยนต์ทั้งที ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน และตัวเอง ครับอย่าเชื่อคนอื่นเด็ดขาด ก่อนตัดสินใจซื้อหาข้อมูลอ่านให้ดีๆ แล้วไปทดลองขับ ก่อนที่จะเลือก จำให้ขึ้นใจนะครับ

เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th