หลังจากที่ Toyota Yaris Hatchback ได้มีการออกรถรุ่นใหม่เมื่อปี 2019 ซึ่งจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยโตโยต้า ยา ริ ส เป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับการผลิตจากบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย เพื่อออกมาทำการตลาดกลุ่มรถยนต์ประหยัดพลังจาก ซึ่งรถรุ่นนี้จะมาพร้อมกับน้ำหนักของตัวรถ 1,087 กิโลกรัม จุดเด่นจะเป็นเรื่องของการประหยัดน้ำมันในระดับ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับรถรุ่นนี้จะมีการปรับรุ่นย่อยลงมาจากเดิม ซึ่งแต่เดิมจะมีรุ่นย่อยถึง 5 รุ่นด้วยกัน แต่ในปัจจุบันถูกปรับลดลงเหลือเพียง 3 รุ่นเท่านั้น และยังมีการขยับราคาให้สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ได้รับการอัปเกรดให้ดีกว่าเดิม ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ที่จะมีพละกำลังมากยิ่งขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะเพิ่มมากขึ้น

การออกแบบภายนอก โตโยต้า ยา ริ ส

สำหรับภายนอกตัวรถจะยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อเป็นการเพิ่มความทันสมัย และความสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว เอาใจผู้ใช้งานยุคใหม่มากกว่าเดิม ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมด้วยไฟ LED Light Guiding และระบบ Follow-me-home ในส่วนของกระจังหน้าจะออกแบบมาให้เป็นสีดำเงา ตกแต่งเพิ่มด้วยโครเมียม เสาอากาศครีบฉลาม ไฟท้ายระบบ LED Light Guiding กระจกมองข้างเป็นสีดำเงามาพร้อมกับไฟเลี้ยวในตัว สามารถปรับ และพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทนขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R15

โดยรวมแล้วรูปลักษณ์ภายนอกของ โตโยต้า ยา ริ ส จะยังคงเอาใจผู้ใช้งานที่ต้องการแฮทช์แบ็กสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป แม้จะไม่มีความโดดเด่นบนท้องถนนเท่าไหร่นัก แต่ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของงานดีไซน์จะถูกพัฒนาออกมาด้วยความพิถีพิถันเป็นอย่างดี ตามมาตรฐานของรถซับคอมแพ็กต์ โดยสีตัวถังภายนอกจะมีให้เลือกทั้งหมด 7 สีด้วยกัน เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการให้แก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุด

การออกแบบภายใน โตโยต้า ยา ริ ส

ในส่วนของการออกแบบภายในจะมีการตกแต่งด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งคอนโซลด้านหน้า และแฝงควบคุมด้วยสีเงินเมทัลลิก และสีดำ Piano Black ผสมผสานเข้ากันทั่วห้องโดยสาร อีกทั้งยังมีการออกแบบภายในให้มีความทันสมัยผสมเข้ากับความเรียบง่ายตามสไตล์ของโตโยต้า คอนโซลกลางจะมีหน้าจอ เพื่อเป็นการเพิ่มความบันเทิงได้ในทุกการเดินทาง ช่องแอร์ และแฝงควบคุมที่จะมีการเรียงกันตามลำดับ พวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชันที่มาพร้อมกับดีไซน์ค่อนข้างใหญ่ คันเกียร์ และขั้นบันได จะเพิ่มความหรูหราขึ้นได้ในอีกระดับ

ภายในห้องโดยสารของ โตโยต้า ยา ริ ส จะมีการตกแต่งด้วยสีดำ วัสดุหุ้มเบาะจะเป็นแบบหนัง และหนังสังเคราะห์ เบาะสามารถแยกพับได้แบบ 60:40 เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มความกว้างขวาง สามารถตอบโจทย์ได้ในทุกการใช้งาน ในส่วนของห้องสัมภาระด้านหลัง เมื่อมีการพับเบาะแล้ว ห้องสัมภาระจะมีพื้นที่ในการเก็บของใหญ่มากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เครื่องยนต์ โตโยต้า ยา ริ ส

สำหรับรถยนต์ โตโยต้า ยา ริ ส จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินรหัส 3NR-FKE บล็อก 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว Dual VVT-iE ให้ความจุที่ 1.2 ลิตร พละกำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 92 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์กระปุก ที่จะมีการส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-I และฟังก์ชัน S Mode ที่จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ให้ดีมากยิ่งขึ้น ขุมพลังบล็อกนี้จะสามารถรองรับน้ำมันได้สูงสุด E20 แถมยังมาพร้อมกับระบบการจ่ายน้ำมันหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ที่จะมาพร้อมกับระบบการตัดการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างอัตโนมัติ

อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของ โตโยต้า ยา ริ ส จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดยอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานจะอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยไอเสีย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้เป็นอย่างดี และยังผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ EURO 5 อีกด้วย เรียกได้ว่าในรถยนต์รุ่นนี้นอกจากจะสามารถประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

โตโยต้า ยา ริ ส นับว่ายังเป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน โดยเฉพาะระบบในด้านของการรักษาความปลอดภัย ที่จะให้ถุงลมนิรภัยมาถึง 7 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ในด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในทุกรุ่น จึงทำให้รถยนต์รุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในตัวเมือง และต่างจังหวัดนั่นเอง อีกทั้งรถคันนี้ยังมาพร้อมกับขุมพลังอันโดดเด่น ที่สามารถตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม และยังช่วยประหยัดน้ำมัน และลดโลกร้อนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญรถยนต์ในรุ่นล่าสุดนี้ยังมาพร้อมกับความแข็งแกร่งทั้งตัวรถ และช่วงล่าง ที่จะให้ความแข็งแกร่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ช่วยให้ลดการสั่นสะเทือนได้ดี และยังมาพร้อมกับความนุ่มนวลในการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th