ไฟหน้ารถมีกี่แบบ? อะไรบ้าง?
หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์ก็คือไฟหน้า เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ความสว่างสำหรับการเดินทางในสภาพแสงที่น้อยอย่างช่วงเย็น หัวค่ำ ตอนฝนตกหนัก มีหมอก หรือตอนกลางคืน รวมไปถึงยังเป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์สำหรับใช้งานบนถนนสาธารณะที่ถูกกำหนดไว้ในกฏหมายของประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ในอดีตที่เริ่มต้นจากการใช้เพียงอุปกรณ์สำหรับให้แสงสว่างง่ายๆ ในปัจจุบันลักษณะของไฟหน้ารถยนต์ได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก อย่างไรก็ตามหากอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับไฟหน้าของรถยนต์ในปัจจุบันว่ามีลักษณะอย่างไร มีแบบใดบ้าง ควรทำรู้จักเกี่ยวกับ 2 ส่วนของไฟหน้ารถคือ ชุดโคมไฟ และหลอดไฟ เพราะเป็นสิ่งที่มาพร้อมกันแต่ทำหน้าที่แตกต่างกัน
ชนิดของหลอดไฟ
– หลอดฮาโลเจน เป็นหลอดที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากหลอดไฟแบบ Incandescent และเป็นชนิดของหลอดไฟที่ใช้กันในรถยนต์ส่วนใหญ่ รวมทั้งใช้กันมาค่อนข้างยาวนานโดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 60 เนื่องจากเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังหลอดไฟนี้มีราคาถูก โดยภายในหลอดไฟฮาโลเจนจะลวดทังสเตนเหมือนกับหลอดไฟตามบ้าน แต่จะมีแก๊สฮาโลเจนซึ่งเป็นแก๊สที่ประกอบด้วยไนโตรเจนและอาร์กอนอยู่ด้วยเพื่อช่วยให้ลวดภายในหลอดสว่างขึ้นและสว่างนานขึ้น สำหรับหลักการทำงานง่ายๆ คือเมื่อหลอดไฟได้รับกระแสไฟฟ้า ลวดทังสเตนจะร้อนและเกิดแสงสว่าง
– หลอดซีนอน (Xenon) หรือ HID ในบ้านเราจะคุ้นกับชื่อหลอดซีนอนแต่หลอดไฟหน้ารถชนิดนี้ยังถูกเรียกว่า HID ซึ่งมาจาก High Intensity Discharge ด้วย ในอดีตหลอดไฟชนิดนี้มักได้รับความนิยมสำหรับใช้กับรถรุ่นที่มีราคาแพง รวมถึงยังเคยถูกใช้เป็นสิ่งโปรโมตรถยนต์ด้วย โดยถูกใช้ครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 90 แล้วจากนั้นผู้ผลิตรถยนต์หรูรายต่างๆ ก็เริ่มใช้กัน จนแพร่หลายมาสู่รถยนต์รุ่นทั่วไปที่ไม่มีราคาแพง หลักการทำงานของหลอดไฟซีนอนจะต่างกับหลอดฮาโลเจนคือไม่มีลวดทังสเตนอยู่ภายใน แต่จะมีแก๊สซีนอนและ 2 ขั้ว Electrode ไฟฟ้าที่แต่ละด้านของหลอด สำหรับการทำให้เกิดแสงสว่างคือหลังเปิดไฟกระแสไฟฟ้าผ่านระหว่าง 2 ขั้ว Electrode ไฟฟ้าเพื่อทำให้แก๊สซีนอนสว่างขึ้นมา โดยแสงที่ได้จะมีลักษณะสีขาวที่ใกล้เคียงกับแสงจากดวงอาทิตย์ รวมทั้งยังมีความสว่างกว่าแสงจากหลอดฮาโลเจน จากค่าความสว่างประมาณ 3,000 Lumen เมื่อเทียบกับหลอดฮาโลเจนที่มีค่าความสว่างประมาณ 1,400 Lumen
– หลอดไฟแอลอีดี (LED – Light Emit Diode) เป็นเทคโนโลยีด้านแสงที่มาแทนที่หลอดไฟซีนอน จึงทำให้มักพบกับรถยนต์ราคาแพงหรือเกรดการแต่งที่สูงในแต่ละรุ่นของรถในปัจจุบัน การทำงานของหลอดไฟแอลอีดีคือกระแสไฟฟ้าจะผ่านไดโอดที่ให้แสงสว่างแทนลวดแบบหลอดฮาโลเจนหรือขั้ว Electrode แบบในหลอดซีนอน ในขณะเดียวก็ให้ความสว่างกว่า ไม่เกิดความร้อน และใช้พลังงานน้อยกว่า จึงมีใช้กับรถยนต์รุ่นต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
– หลอดเลเซอร์ นี่คือเทคโนโลยีไฟที่ล้ำหน้าที่สุดของรถยนต์ในปัจจุบันซึ่งมีจำนวนรถที่ใช้อยู่ไม่มากนัก โดยหลักการทำงานคือหลอดเลเซอร์จะยิงแสงไปยังชุดกระจกซึ่งโฟกัสพลังงานไปที่เลนส์ซึ่งมีฟอสฟอรัสสีเหลืองภายในแล้วเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวที่มีความสว่างสูง ซึ่งจะให้ความสว่างได้ไกลเป็น 2 เท่าของไฟ LED
ลักษณะของโคมไฟ
– มัลติรีเฟล็กเตอร์ โคมไฟลักษณะนี้มีหน้าที่ตามชื่อคือเพื่อสะท้อนแสงที่มาจากหลอดไฟซึ่งอยู่ตรงกลางของโคมไฟเพื่อให้ออกไปสู่ด้านนอก โดยตัวโคมไฟมัลติรีเฟล็กเตอร์จะมีลักษณะเป็นจานฉายที่สะท้อนแสงไปมาเพื่อช่วยให้แสงที่ออกมาจากหลอดไฟขนาดเล็กกระจายและมีความสว่างสูงสุดบนพื้นถนนด้านหน้ารถ อย่างไรก็ตามอาจมีแสงบางส่วนจากโคมไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ฟุ้งกระจายออกไปแยงตาผู้ใช้ถนนคนอื่นได้ ตามปกติแล้วโคมไฟมัลติรีเฟล็กเตอร์มักจะถูกใช้ร่วมกับรถรุ่นทั่วๆ ไปและมักใช้ร่วมไปหลอดไฟฮาโลเจน
– โปรเจ็กเตอร์ ลักษณะการทำงานหรือหน้าที่ของโคมไฟแบบนี้เป็นไปตามชื่อเช่นเดียวกันคือ เพื่อฉายหรือส่งแสงออกไป โดยมีเลนส์ที่อยู่หน้าหลอดไฟเพื่อรวมแสงไปในทิศทางที่กำหนดแทนการสะท้อนแสงจากโคมไฟโดยตรงแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ทำให้โคมไฟแบบโปรเจ็กเตอร์สามารถควบคุมแสงที่ออกไปได้ดีกว่าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ มีความสม่ำเสมอกว่า แน่นอนว่าโคมไฟแบบโปรเจ็กเตอร์มักอยู่ในรถรุ่นที่มีราคาแพงกว่ารถที่ใช้โคมไฟแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ โดยมักใช้กับหลอดไฟทั้งแบบฮาโลเจน, ซีนอน และแอลอีดี
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th