ไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป คาราวานอีสาน ประตูสู่อินโดจีน วันที่ 5 อุดรธานี-หนองคาย-เลย
เช้าวันที่5 ของการเดินทางเก็บของใส่กระเป๋าเรียบร้อยเตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง ไปยังไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี เราจะไปทะเลกัน.. เราเคลื่อนขบวนออกมาจากตัวเมืองประมาณ 40 กว่ากิโลเมตร
ก็เดินทางมาถึงทะเลบัวแดงแห่งนี้งง งงอะดิ อุดรมีทะเลได้ไง มันชื่อเฉยๆครับจริงๆแล้วทะเลบัวแดง อยู่ในบึงน้ำจืด บึงหนองหาน นับว่าเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย พันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำจืด จำนวนมาก โดยดอกบัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ช่วงที่คาราวานของเรามาพอดีเลย นั่งเรือออกไปชมดอกบัวสีแดงบานเต็มท้องน้ำหนองหานสุดลูกหูลูกตาช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆครับ ไม่น่าละเค้าถึงเรียกทะเลบัวแดง หลังจากพวกเราถ่ายรูปกันแบบไม่กลัวความร้อนกันจนหน่ำใจ คณะคาราวานของเราทั้งหมดก็พร้อมออกเดินทางกันต่อ ตอนแรกวางแผนเอาไว้ว่าจะเดินทางไปร้าน VT แหนมเนืองที่หนองคาย…ดันมีคนจองเหมาร้าน แต่มาถึงถิ่นแล้วยังไงก็ต้องกินให้ได้ของอร่อยเด็ดขนาดนี้ คาราวานของเราจึงวนกลับมายังอุดรธานีอีกครั้งเพื่อกินแหนมเนือง
เมื่อได้กินสมใจอยากก็พร้อมออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปที่ วัดผาตากเสื้อ ที่ตั้งอยู่บนเขาในเขตอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เดิมชื่อวัดถ้ำพระ หลวงปู่เพชร ปะทีโป ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติธรรม บริเวณถ้ำพระและได้ก่อตั้งวัดผาตากเสื้อขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2477 มีเนื้อที่ 29 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา วัดผาตากเสื้อเป็นวัดปฏิบัติธรรม ต่อมาได้อัญเชิญพระสารีริกธาตุมาประดิษฐานเมื่อ 2 เมษายน 2550 เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มาก สูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร ภายในวัดมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ในช่วงที่น้ำลดหากไปยืน อยู่บนวัดผาตากเสื้อแล้วมองลงมายังแม่น้ำโขง จะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาคอย่างชัดเจน โดยได้รับการตั้งให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเส้นทางในฝัน Dream Destination 2 จาก ท ท ท นั่นก็คือ “เกล็ดพญานาคริมโขง” ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ได้อย่างน่าพิศวง จากจุดชมวิววัดผาตากเสื้อหากมองไปทางซ้ายมือจะมองเห็นวิวแม่น้ำโขงวาดยาว โค้งเป็นคุ้งน้ำ กลางแม่น้ำมีเกาะ ขนาดใหญ่ ทำให้แม่น้ำโขงช่วงนี้มีลักษณะคล้ายแยกเป็นรูป Y ที่มองเห็นประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน นอกจากจุดชมวิวตรงวัดแล้ว ปัจจุบันก่อนถึงวัดผาตากเสื้อได้มีการทำจุดชมวิวซึ่งทำให้มองเห็นริ้วราย เกล็ดพญานาคได้ชัดเจนแบบไม่มีอะไรมาบังสายตา
หลังจากไหว้พระ และชมวิวทิวทัศน์กันจนหนำใจกระโดดขึ้นรถออกเดินทางต่อกันเลย จุดหมายต่อไปเชียงคาน จังหวัดเลย โดยคณะคาราวานของเราทั้งหมดจะใช้เส้นทางเรียบแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นทางที่งดงามและขับสนุกมาก เพราะมีทั้งขึ้น –ลงเขา โค้งซ้าย-ขวา โค้งลึก โค้งต่อเนื่อง ทางเรียบทางขรุขระ เรียกได้ว่าครบทุกรสเลยครับ แต่เจ้าไฮลักซ์ รีโว่ของเราก็ขับผ่านไปได้แบบสบายๆ เพราะช่วงล่าง DCS – Dynamic Control Suspension ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนใหม่ ที่ให้สมรรถนะสูงสุดเช่นเดียวกับรถ SUV หรูๆเลยทีเดียว และมี Firm Platform โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ใหญ่ขึ้น 20 มม.ทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีวิ่งผ่านหลุมบ่อ หรือทางขรุขระได้อย่างนุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง บางช่วงต้องขับผ่านการก่อสร้างถนน ก็รูดตามขบวนไปได้ด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ในช่วงทางเรียบและโค้งกว้างๆ ใช้ความเร็ว 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างมั่นใจ ส่วนในโค้งแคบๆ ถ้าใช้ความเร็วสูง ตัวรถจะเริ่มเอียงบ้าง แต่ยังไม่ออกอาการว่าจะเสียการทรงตัว และต้องออกแรงควบคุมพวงมาลัยมากขึ้น และยังเพิ่มความมั่นใจเพราะแชสซีส์ใหม่สามารถช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชน เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน แถมยังบรรทุกของเยอะขนาดไหนก็ไม่หวั่น เจ้ารีโว่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพ
รถคันนี้เจ๋งจริงขับสนุกจนลืมง่วงไปเลย แปปเดียวก็เข้าสู่อำเภอเชียงคานจังหวัดเลย ซึ่งเราจะหยุดพักผ่อน สัมผัสอากาศหนาว ชมวิวน้ำโขง พร้อมดื่มด่ำกับแสงสุดท้ายของวัน ก่อนที่จะออกไปเดินเล่นชิลล์กันที่ถนนคนเดิน กลับมานอนเอาแรง เตรียมพร้อมลุยกันต่อในวันที่ 6 ของการเดินทางเราจะไปเที่ยวกันที่ไหนนั้นคอยติดตามกันครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ภาพ : พิสิษฐ์ ธนะสารเจริญ
ถ่ายภาพ/ตัดต่อ : จิตรกร หลวงยศ
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th