กวิน ลีนุตพงษ์…ผู้สร้างสีสันใหม่ในแวดวงยานยนต์
“ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง…เราต้องเปลี่ยนแปลงไปให้ทันกับโลก และสถานการณ์ให้ดีที่สุด ใครที่ปรับตัวไม่ทัน ก็คงจะต้องหายไป…”
ในโลกที่เทคโนโลยีเดินหน้าไปแบบก้าวกระโดด สิ่งหนึ่งที่ต้องปรับให้ทัน และไม่เป็นผู้เดินตาม คือตัวเรา หากช้าไปเพียงหนึ่งก้าว อาจะส่งผลเสียต่อธุรกิจในปัจจุบัน ดังนั้นการปรับเปลี่ยน และเปลี่ยนแปลงความคิด เปิดรับทัศนคติจากเพื่อนร่วมงาน และพร้อมที่จะลงมือทำทันทีถือเป็นทัศนคติที่ดีของผู้บริหาร แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบความคิดที่รอบคอบ และเป็นสิ่งที่ทำออกมาแล้วตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด นี่คือสิ่งที่ “กวิน ลีนุตพงษ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทบาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด ยึดมั่นในการบริหารงาน เพื่อให้องค์กรก้าวไปสู่การประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้
Q. ผลตอบรับหลังจากที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นอย่างไร?
A.ผลตอบรับตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารก็ดีครับ จริงๆ ก่อนเข้ามาดูแลตรงนี้ผมทำในส่วนของรถเช่ามาก่อน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบาเซโลนา มอเตอร์ ช่วงที่เพิ่งเริ่มเข้ามาดู BMW ก็มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะมีการดีสเกลลงมา เราปิดสาขาที่ภูเก็ต และหาดใหญ่ และเราตัดสินใจขยายการลงทุนมาที่บางแคแทน ด้วยเหตุผลของโอกาสมากกว่า เพราะโอกาสในกรุงเทพอาจจะมีมากกว่า จึงเลือกมาทำที่กรุงเทพ และถือว่าเราได้รับผลตอบรับที่เป็นไปในทิศทางที่ดีทีเดีย
Q. ความตั้งใจแรกในการเข้ามาบริหารงานที่นี่คือ?
A. ถ้าเรียกว่าความตั้งใจก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะมันเป็นบริษัทของเรา เราก็ตั้งใจอยากพัฒนาให้ดีขึ้น ด้วยยุคสมัยที่เป็นอยู่ เพื่อรองรับรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จากธุรกิจรุ่นคุณปู่ มาจนรุ่นคุณพ่อ และมาเป็นรุ่นผม ก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ
Q. ระหว่างทางเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ มีอุปสรรคอะไร?
A. มีบ้างครับสำหรับอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ จะเป็นในเรื่องของการทำงาน การทำความเข้าใจคนมากกว่า มีการปรับตัวเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะว่าคนยุคเก่าเขามีประสบการณ์ดี แต่ในเรื่องของระบบการบริหาร หรือมุมมอง และความคิดก็จะไม่ค่อยเหมือนกับคนยุคเราเท่าไหร่ บางคนผมอยู่แล้วเขาอาจจะรู้สึกว่าทำงานด้วยลำบาก แต่ก็ไม่ได้ปรับตัวอะไรมากมาย แค่ใช้ความพยายามในการสื่อสารมากขึ้น หลักๆ แล้วเราพบกันครึ่งทางมากกว่า เพราะเราก็ยังต้องการประสบการณ์ดีๆ จากรุ่นเขา ถึงแม้ว่าเราจะใส่หลักการต่างๆ เข้าไป เพราะสิ่งที่เปลี่ยนได้จริงๆ เป็นเรื่องของกระบวนการทำงาน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้เลยก็คือวิถีการทำงานกับทัศนคติในการคิด บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่ามันเหมาะสมสำหรับเขา เขากลับคิดว่ามันไม่ตอบโจทย์ในการทำงานของเขา ซึ่งบางทีเราเองไม่ได้ถูกเสมอไปหรอก ก็ต้องพบกันคนละครึ่งทาง และต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของเขาด้วย
Q. การรับไม้ต่อจากรุ่นพ่อ มีความกดดันหรือไม่?
A. ผมไม่ได้รู้สึกกดดันเลย แค่มอง และรู้สึกว่าเป็นธรรมชาติของการทำงาน คิดว่ามันน่าจะเป็นในเรื่องของความเปลี่ยนแปลงมากกว่า
Q. ใช้หลักการบริหารอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ในยุค 4.0?
A. จริงๆ ผมยังโฟกัสธุรกิจของผมไปที่ตัวบุคลากรเป็นสิ่งแรกก่อน พยายามที่จะอัพเดต System Process ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Back Office หรือ Front Office เรื่องโปรแกรม ซอฟแวร์ใหม่ๆ ที่มาช่วยในเรื่องของระบบการเงิน การเก็บ Data Base การติดต่อลูกค้า หรือแม้แต่เครื่องมือในการขาย นี่คือการปรับการบริหารงานให้เข้ากับยุค 4.0 ที่ว่า
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ ผมว่าก็ยังเป็นเรื่องของตัวบุคลากรอยู่ดี เรียกว่าบุคลากรเป็นหัวใจสำคัญก็ว่าได้ เพราะสุดท้ายไม่ว่าเราจะเอาระบบใหม่ๆ แค่ไหนเข้ามาก็ตาม เราก็ต้องการคนที่ทำตาม แต่ไม่ใช่แค่ทำตามอย่างเดียว เขาต้องรู้ว่าทำตามไปเพื่ออะไรด้วย
Q. ในยุคที่ ผู้บริโภคหันมานิยมใช้รถเอนกประสงค์ หรือ suv กันมากขึ้น ทางบาเซโลน่า เตรียมหรือปรับกลยุทธ์การขายไว้รองรับกลุ่มลูกค้าตรงนี้อย่างไรบ้าง?
A. เรื่อง SUV ทาง BMW ได้ทำมาก่อน BMW เป็นยี่ห้อแรกของรถยุโรป ดีไม่ดีของญี่ปุ่นด้วยซ้ำ ที่ทำ BMW X1 ในราคาที่ถูกกว่า BMW Series3 มาขาย ซึ่งสมัยนั้น BMW X1 เป็น SUV ขนาดเล็กที่ราคาจับต้องได้ เป็นรถยุโรปยี่ห้อแรกที่ขายดี และผมเองไม่ต้องอธิบายเยอะ ลูกค้าเดินเข้าโชว์รูมมาบอกว่าจะเอา X1 แบบที่เขายื่นเงินมา ผมยื่นรถไปแบบนั้นเลย ไม่มีการโน้มน้าว
เราเป็นผู้นำตลาดมาตลอด ถ้ามาดูในเรื่องการตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค SUV ในปัจจุบัน BMW เรามีตั้งแต่ X1 รุ่นเล็กสุด X2 เพิ่งออกมาใหม่ เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และดูดีมีดีไซน์ไปในตัว X3 เป็น SUV ไซส์กลาง ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้รถเป็นประจำทุกวัน หรือ X4 ที่ดูสปอร์ต และใหญ่ขึ้นเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเท่เพิ่มขึ้นมา X5 เป็น Full Size SUV ตามที่เขาเรียกกัน เพราะบรรจุได้เยอะ นั่งสบาย เดินทางไกลสะดวก เครื่องก็ใหญ่ เรียกได้ว่าเรามี SUV ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ซึ่งในปีหน้านี้เอง เราจะมีเปิดตัว BMW X7 ซึ่งเรามีโชว์ในการ BMW EXPO เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นรถที่เรียกว่ามีความพรีเมี่ยม ไฮเอ็นที่สุด เพื่อมาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงในตลาด
Q. ทาง BMW ให้ความสำคัญในเรื่อง EV อย่างไรบ้าง?
A. แน่นอนทุกคนต้องให้ความสำคัญหมด เพราะเราต้องตามตลาด และอยากเป็นผู้นำกันอยู่แล้วสำหรับธุรกิจนี้ ซึ่ง BMW เอง ก็จะมี BMW X3i ที่จะมาในปีหน้า คันนี้เป็น EV 100% ตัวแรก คาดว่าน่าจะปี 2020 คงจะได้เห็นกัน ตอนนี้ถ้าไปเปิดดูตามอินเตอร์เน็ต จะเริ่มเห็นภาพคอนเซ็ปต์กันบ้างแล้ว กลุ่ม BMW Group เขาก็จะมี MINI ด้วย ซึ่งทาง MINI เองก็จะมีตัว COUNTRY MAN ซึ่งเป็น SUV ที่มีระบบไฟฟ้า 100% เหมือนกันครับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นตลาดทั่วโลกที่หันมาสนใจ แต่ลูกค้าของเรามีเปอร์เซ็นต์การขายของรถไฟฟ้านี้อยู่ที่ 18 -20% ได้ ถามว่าเยอะไหม ก็ถือว่าเยอะขึ้นเรื่อยๆ
Q. เคล็ดลับในการบริหารงานจากรุ่นสู่รุ่น จนทำให้บาเซโลน่าประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้คืออะไร?
A. ส่วนตัวผมคิดว่าคือการที่เราตั้งเป้าจะเป็นผู้นำตลาดทางด้านรถยนต์มาตลอดตั้งแต่รุ่นคุณปู่ และเราลงมือปฏิบัติไปในทิศทางนั้น ทั้งการทำตลาด การพัฒนาบุคลากร และการคัดเลือกสินค้าที่ตรง ตอบโจทย์กับตลาด ที่จริงถือว่าตอบยากนิดนึง เพราะความสำเร็จในแต่ละยุคมันแตกต่างกัน สมัยก่อน เป็นรุ่นคุณปู่ และคุณพ่อ ซึ่งสมัยนั้นที่ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะการเป็นผู้นำตลาดอย่างแท้จริง ส่วนความสำเร็จของรุ่นผมทุกวันนี้น่าจะเน้นไปที่เรื่องการบริการ การตอบโจทย์ลูกค้า
ซึ่งการบริการที่ครบวงจรถือเป็นกุญแจสำคัญของเราอยู่แล้ว ลูกค้าที่เข้ามาสามารถได้รับการบริการทุกด้านที่เกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาด้วยสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ ทางเราก็มี Fast Lane Service ไว้คอยบริการ ใช้เวลารอไม่นาน หรือเข้ามาบอกว่ามีปัญหาต่างๆ ผมก็สามารถช่วยแก้ไขได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่ถ้าเป็นในส่วนของเรื่องสี ตัวถัง ประกัน หรือเรื่องต่างๆ ทางเราก็มีทีมงานคอยบริการให้คำปรึกษาอย่างครบวงจรเช่นกัน
Q. ทำไมจึงให้ความสำคัญกับเรื่องศูนย์บริการเป็นหลัก?
A. ผมอยากไปเพิ่มเรื่องศูนย์บริการมากกว่า โชว์รูม ตอนนี้เราต้องวางแผนการเติบโตให้ช้าลงนิดหนึ่ง เพราะธุรกิจ BMW เอง ตอนนี้เริ่มมีการลงทุนในรูปแบบใหม่ เรียกว่า Service Only Outlet ซึ่งตรงนี้ เป็นศูนย์บริการขนาดเล็ก ที่มีไว้คอยให้บริการสำหรับรถที่เข้ามาซ่อมบำรุงเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเพิ่มตามเขตที่อยู่ของลูกค้า BMW ที่อาศัยอยู่จำนวนมาก และเขาจะทำสถิติมาให้ดูว่าบริเวณไหนที่เรามีโอกาสที่จะไปเปิดขยายการบริการ ซึ่งประโยชน์ของการทำ Service Only Outlet หรือ SOO คือถ้าเป็นการลงทุนโชว์รูมใหม่ จะต้องใช้เงินทุนประมาณ 300-500 ล้านบาท ซึ่งทาง BMW เขาบอกว่าถ้าคุณมัวแต่จะลงทุนในเม็ดเงินตรงนี้ ผู้ลงทุนเติบโตไม่ทัน เพราะบุคลากรก็หายาก ไหนจะเงินลงทุนในการก่อนสร้างอีก ดังนั้นเขาจึงคิดวิธีนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนที่ประกอบการอยู่แล้วได้ลงศูนย์บริการที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า แทนที่จะต้องลงทุน 300 ล้าน ก็มาลงทุนในเขตที่ถูกต้องด้วยงบแค่ 15 ล้านดีกว่า เพราะเขาจะดูก่อนว่าผู้ประกอบการลงทุนไปจะคุ้ม และมีโอกาสมากแค่ไหน เขาถึงให้ลงทุน
Q. เรื่องที่ผู้บริหารรุ่นใหม่อย่างคุณกวินอยากปรับ และพัฒนามากที่สุดในบาเซโลน่า มอเตอร์ส คืออะไร?
A. เยอะแยะมากครับ พูดถึงเรื่องการปรับผมเชื่อว่าผู้บริหารอยากปรับหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทันสมัย เรื่องระบบต่างๆ แม้แต่การลงทุนเปลี่ยนแปลงในเรื่องของอาคาร แต่เราก็มีกลยุทธ์ หรือแผนงานที่จะทำกันในระยาวอยู่ ก็ต้องค่อยๆ ปรับไปทีละอย่าง ที่สำคัญสุดเลยก็เรื่องบุคลากรที่เราอยากจะปรับให้เข้าใจในเรื่องระบบใหม่ๆ และแนวทางการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อบรรลุจุดประสงค์เดียวกันครับ
Q. วางเป้าหมายในอนาคตต่อจากนี้ให้กับบาเซโลน่ามอเตอร์สอย่างไร?
A. ณ วันนี้ ผมเพิ่งวางแผนการลงทุนไปหลากหลายธุรกิจ อย่างแรกเลยคือ UESD CAR ต่อมาคืออู่สี และเมื่อปีก่อนเราเปิดสาขาบางแคไป และยังมีไปลงทุนเพิ่มเติมที่สาขาเชียงรายด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องการที่จะทำให้ธุรกิจที่เรามีอยู่ในดีก่อน และในระยะต่อๆ ไปเราก็ค่อยขยายสาขาออกไปยังโลเคชั่นอื่นๆ ต่อครับ
Q. คติในการบริหารงานคืออะไร?
A. ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง เราต้องเปลี่ยนแปลงไปให้ทันกับโลก และสถานการณ์ให้ดีที่สุด ใครที่ปรับตัวไม่ทัน ก็คงจะต้องหายไปครับ
ธุรกิจในเครือบาเซโลนา มอเตอร์ฯ |
1.บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู |
2.บริษัทไทยยานยนตร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ให้บริการศูนย์ ซ่อม สี และตัวถัง |
|
|
|
เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี
ภาพ : พิศวัส พงษ์พุฒิโสภณ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th