กัญชากับอุบัติเหตุจากการศึกษาของ IIHS
จากการที่ประเทศแคนาดาออกกฏหมายอนุญาติให้ กัญชา ได้ซึ่งจะทำให้เป็นประเทศขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถใช้ยาเสพติดชนิดนี้ได้อย่างถูกกฏหมาย ขณะที่บางประเทศอย่างอุรุกวัยรวมทั้งเก้ารัฐในสหรัฐอเมริกาได้อนุญาติให้ใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการอย่างถูกกฏหมายได้มาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้การศึกษาเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ได้จำกัอยู่เฉพาะแค่ผลจากการดื่มสุราเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงผลจากการใช้กัญชาด้วย ซึ่งล่าสุดทาง IIHS หรือ Insurance Institute for Highway Safety และ Highway Loss Data Institute หรือ HLDI ซึ่งเป็นสองหน่วยงานที่ศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยบนถนนในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแถลงถึงการศึกษาที่แสดงว่าอุบัติเหตุการชนในรัฐที่ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้อย่างถูกกฏหมายว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับรัฐที่ควบคุมการใช้กัญชา
ข้อมูลที่สองหน่วยงานใช้มาจากสองการศึกษาที่แยกจากกัน โดยการศึกษาแรกจะดูไปที่ความถี่ในการชนต่อรถทั้งหมดซึ่งเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ในสี่รัฐคือโคโลราโด เนวาด้า โอเรกอน และวอชิงตันที่สามารถใช้กัญชาได้อย่างถูกกฏหมายเมื่อเทียบกับสี่รัฐใกล้กันคือไอดาโฮ มอนทาน่า ยูทาธ์ และไวโอมิงที่ควบคุมการใช้กัญชา ซึ่งข้อมูลทั้งหมดมาจากระยะเวลาระหว่างปี 2012 ถึง 2017 ส่วนการศึกษาที่สองนักวิจัยจะวิเคราะห์รายงานการชนของตำรวจในบางรัฐที่ใช้กัญชาได้ถูกกฏหมายคือโคโลราโด โอเรกอน และวอชิงตัน ซึ่งพบว่ามีอัตราการชนเพิ่มขึ้น 5.2 เปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนรถที่จดทะเบียนหนึ่งล้านคันเมื่อเทียบกับรัฐที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาที่มีการควบคุมความแตกต่างของจำนวนประชากร การว่างงาน และสภาพอากาศในแต่ละรัฐด้วย
“การศึกษาใหม่ของ IIHS-HLDI เกี่ยวกับกัญชาและการชนแสดงว่าการใช้กัญชาอย่างถูกกฏหมายทุกรูปแบบมีผลกระทบด้านลบต่อความปลอดภัยบนถนน รัฐที่นำร่องในการใช้กัญชาอย่างถูกกฏหมายควรพิจารณาถึงผลกระทบนี้ต่อความปลอดภัยบนถนน” David Harkey ประธานของ IIHS และ HLDI พูดถึงผลการศึกษา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th