คงไม่มีใครอยากเจอกับเหตุการณ์วิกฤติอย่างเช่นการลากรถบนท้องถนน แต่ถ้าถึงคราวจำเป็นเราก็ต้องลากเพื่อให้รถไปถึงอู่หรือที่หมาย แต่ถ้าคิดว่าแค่ลากส่งๆ ไปให้ถึงอู่โดยไม่เข้าใจถึงรูปแบบของรถ รับรองเลยว่ารถ “พัง” เพิ่มขึ้นแน่นอน ถ้าอยากถนอมรถมาดูวิธีการลากรถที่ถูกต้องกัน…

ชนิดของรถเรื่องจำเป็นที่ต้องรู้ในการลาก

การยกรถและการลากจูงรถอย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อลากจูงรถขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (AWD) ซึ่งล้อทั้งหมดเชื่อมต่อกับระบบส่งกำลัง ดังนั้นการเคลื่อนย้ายรถอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ระบบส่งกำลังเสียหาย ดังนั้นการลากจูงรถขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (AWD) ต้องยกล้อทั้งหมดให้ลอยขึ้นจากพื้น

เมื่อลากจูงรถขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ให้ยกล้อที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน (ล้อหน้า) ลอยขึ้นจากพื้น เพราะถ้าเราลากโดยไม่ยกล้อหน้าอาจทำให้ระบบขับเคลื่อนเสียหายได้ ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้เนื่องจากเกิดความเสียหายมากเกินไปหรือสภาวะอื่นๆ ให้ใช้ล้อเลื่อนรองรับ เมื่อลากจูงรถขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) โดยที่ล้อหลังอยู่บนพื้น ให้ปลดเบรกมือ เช่นเดียวกันถ้าจำเป็นต้องลากจูงรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้ยกล้อที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนลอยขึ้นจากพื้นเพราะถ้าเราลากโดยไม่ยกล้อหน้าอาจทำให้ระบบขับเคลื่อนเสียหายได้เช่นกัน ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้เนื่องจากเกิดความเสียหายหรือสภาวะอื่นๆ ให้ใช้ล้อเลื่อนรองรับ เมื่อลากจูงรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) โดยที่ล้อหน้าอยู่บนพื้น

แต่ถ้าไม่มีรถยกต้องลากแบบช้าๆ อย่าให้เกิน 30 กม./ชม. และระยะทางไม่ควรเกิน 10 กม. ถ้าจะลากไกลกว่านั้น ต้องหยุดพักซัก 15-30 นาทีก่อน แล้วค่อยลากกต่อเพื่อเข้าศูนย์บริการทำการซ่อมแก้ไข ในกรณีรถเกียร์ออโต้และเกียร์ CVT ควรใส่เกียร์ว่าง เมื่อต้องทำการลากจูง

คำเตือนถ้าต้อการลากจูงรถขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (AWD) ต้องให้ล้อทั้งหมดลอยขึ้นจากพื้นเสมอ การลากจูงรถขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (AWD) โดยที่ล้อหน้าหรือล้อหลังยังอยู่บนพื้นจะก่อให้เกิด อันตราย เนื่องจากระบบส่งกำลังจะเสียหายหรือรถอาจออกห่างจากรถที่ลากจูงและทำให้เกิด อุบัติเหตุได้ หากระบบส่งกำลังเสียหาย ให้เคลื่อนย้ายรถโดยใช้รถบรรทุกแบบสะพานที่รองรับรถได้ ทั้งคัน

สำหรับข้อแนะนำ คือให้ใช้บริการลากรถจากช่างผู้ชำนาญ (จากผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจากตัวแทนจำหน่าย) หรือ จากผู้ดำเนินธุรกิจบริการลากรถเท่านั้น

“การลากรถในกรณีฉุกเฉิน”

• ห้ามลากจูงโดยที่รถหันไปทางด้านหลังขณะที่ล้อขับเคลื่อนอยู่บนพื้น เนื่องจากอาจทำให้เกียร์เกิด ความเสียหายภายในได้
• ห้ามลากจูงด้วยอุปกรณ์ยกรถแบบสลิง เนื่องจากอาจทำให้รถของท่านเกิดความเสียหายได้ ให้ใช้อุปกรณ์ยกรถแบบที่ยกล้อขึ้นหรือแบบสะพานที่รองรับรถได้ทั้งคัน
• หากปลดเบรกมือไม่ได้ในขณะที่ลากรถ ให้เคลื่อนย้ายรถโดยที่ยกล้อหน้าและล้อหลังทั้งหมดขึ้นจากพื้น หากลากรถโดยที่ไม่ได้ยกล้อขึ้นจากพื้นระบบเบรกอาจเสียหายได้
  ถ้าไม่สามารถหาศูนย์บริการลากจูงได้ในยามฉุกเฉิน อาจทำการลากจูงรถโดยที่ล้อทั้งสี่อยู่บนพื้นโดยใช้ ตะขอลากจูงที่ด้านหน้าของรถได้ โดยทำการลากจูงบนถนนลาดยางเป็นระยะทางสั้นๆ ที่ความเร็วต่ำเท่านั้น

ข้อควรระวังและปฏิบัติตาม

1. เปลี่ยนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง N (รถเกียร์อัตโนมัติ)
2. กดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตำแหน่ง ON
3. ปลดเบรกมือลง พึงระลึกไว้เสมอว่า เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงานจะไม่มีระบบเสริมแรงสำหรับเบรกและพวงมาลัย

เรื่อง  : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th