การเลือกหมวกกันน็อคที่ต้องรู้
การสวมหมวกนิรภัย หรือ หมวกกันน็อค อุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ลดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ อวัยวะทีเป็นศูนย์รวมของสอมและเส้นประสาท เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นในการใช้รถจักรยานยนต์บนท้องถนน เรามาดูกันหน่อยว่าการเลือกหมวกกันน็อคที่ถูกวิธีมีอะไรบ้าง
ก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกใช้หมวกกันน็อค เรามาทำความรู้จักกับประเภทของหมวกกันน็อคกันสักหน่อยดีกว่า จะได้เลือกซื้อไม่ผิดประเภท
หมวกชนิดครึ่งศีรษะ (Standard Helmet) เป็นชนิดแรกที่ได้มีการเริ่มนำมาใช้ ซึ่งมีรูปร่างแบบครึ่งวงกลมสวมแล้วจะได้ครึ่งศีรษะพอดีมีสายรัดคางสามารถป้องกันได้เฉพาะแรงที่กระทำต่อส่วนบนศีรษะ
หมวกชนิดเต็มศีรษะ (Jet Helmet) ดัดแปลงมาจากชนิดครึ่งหัวหมวกจะยื่นต่ำลงมาถึงท้ายทอยด้านหลังและมุมกระดูกขากรรไกรด้านข้าง มีสายรัดคางเหมือนหมวกชนิดครึ่งศีรษะ
หมวกชนิดเต็มหน้า (Full Face Helmet) เป็นหมวกเต็มใบ เปิดช่องหน้าตรงตำแหน่งตาเท่านั้น สามารถป้องกันอันตรายบริเวณปากและคางด้านหน้า
การเลือกหมวกกันน็อคควรเลือกหมวกชั้นนอกที่มีวัสดุแข็ง เพื่อป้องกันแรงกระแทก เมื่อเกิดอุบัติเหตุตัวหมวกชั้นใน ควรบุด้วยโพลิสไตรีน ซึ่งเป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นได้ดีก่อนซื้อควรจะทดสอบโดยการ สวมหมวกนิรภัยแล้วคาดสายรัดคางไว้ทดลอง ผลักตัวหมวกมาทางด้านหลังและด้านหน้า ถ้าขอบหมวกเลื่อนไปจนถึงกลางศีรษะควรเปลี่ยนขนาดของหมวกใหม่
สีของหมวกกันน็อคควรเป็นสีสดหรือมีแถบสีสะท้อนแสงคาดติดไว้เพื่อให้เห็นได้ง่าย ควรซื้ออหมวกที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( สมอ.)
ข้อควรระวัง
หมวกกันน็อคถ้าชํารุดจากอุบัติเหตุมาแล้วหรือได้รับการกระแทกอย่างแรงควรเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้หมวกกันน็อคจะมีระยะเวลาในการใช้งาน 3-5 ปี ถ้าเกินกว่านี้แนะนำให้เปลี่ยนเพราะว่าอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพอาจทำให้หมวกกันน็อคลดประสิทธิภาพลง
เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ไม่ควรยืมหมวกของคนอื่นมาใส่ เพราะขนาดของศีรษะแต่ละคนแตกต่างกันและทุกครั้งที่ใส่ควรจะคาดสายรัดคางให้กระชับเพื่อป้องกันการหลุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ในการดูแลรักษาเราควรมีการทำความสะอาดหมวกทั้งด้านในและด้านนอกเป็นประจำ โดยใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้แห่ง เช็ดบริเวณด้านในหมวก จากนั้นให้นําไปผึ่งแดดอยู่สม่ำเสมอ
สำหรับคนที่ไม่ชอบสวมหมวกกันน็อคนอกจากจะมีความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังเสี่ยงโดนตำรวจจับอีกด้วยเพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำหนดอัตราค่าปรับตามความผิดตามพรบ. ถ้าใครขี่จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกคนขับไม่ใส่ ค่าปรับ 400 บาท คนซ้อนไม่ใส่ ค่าปรับ 800 บาท
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th