อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเปลี่ยนยางต้อง ถ่วงล้อ ทุกครั้ง เพื่อป้องกันอาการสั่นที่พวงมาลัยและปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ในเมื่อต้องถ่วงล้ออยู่แล้วยังต้องมีเรื่องให้คิดอีกว่าจะถ่วงแบบไหนดี เพราะบางที่ถ่วงแบบถอดล้อบางที่ถ่วงแบบไม่ถอดล้อ เลยเป็นข้อสงสัยว่าแบบไหนดีกว่ากัน ในเมื่อมีเรื่องให้เลือกเราก็มาดูกันดีกว่าว่าการถ่วงล้อทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

โดยทั่วไปแล้วเครื่องถ่วงล้อจะมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้

1.เครื่องถ่วงล้อแบบถอดล้อยางออกจากรถ (Off the car balance) เป็นเครื่องถ่วงที่พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านยางที่มีมาตรฐาน โดยหลัการณ์คือนำล้อและยางรถยนต์ขึ้นมาถ่วง โดยตัวเครื่องจะมีเกจ์บอกตำแหน่งและน้ำหนักที่จะต้องติดตะกั่วถ่วงเพิ่มเติมดังภาพซ้าย

2.เครื่องถ่วงล้อแบบถ่วงขณะยางติดกับรถ (On the car balance) เครื่องถ่วงล้อรูปนี้ข้อดูมันสามารถถ่วงล้อได้แบบเต็มระบบไม่ว่าจะเป็นชุดเบรกหรือดุมล้อ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาการสั่นที่เกิดจากชิ้นส่วนอื่นนอกจากล้อ-ยาง วิธีการถ่วงลักษณะนี้ จะมีตัวหมุนล้อ ไปจี้กับแก้มยาง เพื่อให้ตัวล้อหมุนและช่างจะสังเกตอาการสั่นและทำการถ่วงเพื่อแก้ไข ซึ่งการถ่วงในลักษณะนี้คนไทยมักใช้คำว่า “ถ่วงจี้” นั่นเอง ข้อเสียคือราคาการให้บริการสูงกว่าแบบแรก และ มีร้านที่ให้บริการน้อยกว่า

ลำดับต่อไปหลังจากถ่วงล้อก็คือการตั้งศูนย์ โดยการตั้งศูนย์ล้อไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะเมื่อเปลี่ยนยางชุดใหม่เท่านั้นแต่ควรทำทุกครั้งเมื่อเข้าเช็คระยะ 10,000 กิโลเมตร เนื่องจากค่าของมุมล้ออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ซึ่งเกิดมาจาก การขับขี่บนถนนขรุขระ , ล้อเบียดฟุตบาทเป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในถนนเมืองไทยอยู่แล้ว เราจึงอยากแนะนำให้ทำทุกครั้งเมื่อเข้าเช็คระยะ 10,000 กิโลเมตร

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th