กินข้าวในรถ ทำไงรถจะไม่ “เน่า”
ในช่วงโรคระบาด COVID-19 เราจะเจอช่วง “ล็อกดาวน์” ไม่สามารถนั่งกินอาหารที่ร้านได้ ถ้าคนอยู่บ้าน WFH ก็คงไม่เท่าไร ทำกับข้าวกินเอง หรือ ซื้อ หรือ สั่ง มากินที่บ้าน ก็ย่อมได้ แต่สำหรับคนที่ต้อง “เดินทาง” อันนี้แหละที่จะต้องซื้ออาหารมา “กินบนรถ” ซึ่งบอกตรงๆ เราๆ ท่านๆ ก็คงไม่ค่อยชินกันสักเท่าไรกับสถานการณ์จำยอมแบบนี้ กินแล้วก็กลัวจะคว่ำหกใส่รถเละเทะ แต่บางคนก็อาจจะ “กินประจำ” ก็ไม่ว่ากัน ประเภท “โตในรถ” ก็มนุษย์ออฟฟิศที่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางนั่นแหละ แต่จะใครก็ตามถ้ากินอาหารในรถแล้ว จะต้องทำอย่างไร ที่จะไม่ปล่อยรถให้มัน “เน่า” จนเกิดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์… กินข้าวในรถ
ควรดับเครื่องยนต์ เปิดกระจก ระหว่างกินอาหารในรถ
การกินอาหารในรถ สิ่งที่ตามมาแน่นอน คือ “กลิ่นของอาหาร” ใช่ครับ ตอนที่กำลังกิน มันก็หอมหวลชวนชมอยู่ละ แต่ถ้ากลิ่นมันอบอวลอยู่ในรถเป็นระยะเวลานานเกินไป จะกลายเป็น “กลิ่นไม่พึงประสงค์” โดยเฉพาะอาหารกลิ่นแรงต่างๆ นี่ “บะฮึ่มมมม” มาก ทำให้รถคุณมีกลิ่นเหม็น ยิ่งถ้าเข้าไปอยู่ใน “ระบบแอร์” ของรถ ก็ยิ่ง “หมักหมม” เป็นเชื่อแบคทีเรียเข้าไปกันใหญ่ ทางที่ถูกต้อง และ “ถ้าทำได้” ก็หาที่จอดร่มๆ หน่อย ดับเครื่อง เปิดกระจก เพื่อระบายกลิ่นออกไป ไม่ถูกดูดเข้าระบบแอร์ ยอมร้อนหน่อยถ้าทนไหวนะ…
ถ้าจะกินในรถเปิดแอร์ ควรแง้มกระจกระบายอากาศไว้หน่อย
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกินใน “ห้องแอร์เคลื่อนที่” เข้าใจครับ บางทีเราหาที่จอดร่มๆ ไม่ได้ จะให้ดับเครื่องกินระหว่างรถจอดกลางแดด ก็คง “ลมใส่” แทนที่จะอิ่ม ยังไงก็ “แง้มกระจก” เพื่อระบายกลิ่นออกไปบ้างยังดีกว่าปิดกระจกสนิทจนทำให้กลิ่นวนเวียนอยู่ในรถนานเกินควร… กินข้าวในรถ
กินเสร็จ เก็บให้สะอาด ทิ้งทันที
หลังจากที่กินเสร็จ ให้สำรวจดูก่อนว่า “ทำอาหารหกบนรถหรือเปล่า” แม้จะเล็กน้อยก็ต้องเก็บทำความสะอาดให้หมด พก “ทิชชู่เปียก” เช็ดทำความสะอาด และให้นำขยะลงไปทิ้งทันที เพราะส่วนใหญ่คนที่จอดรถกินก็จะต้องหา “ที่จอดรถ” เช่น ในปั๊ม ก็จะมีถังขยะไว้บริการอยู่แล้ว หรือถ้าหาถังขยะไม่ได้ ณ จุดนั้น ก็ขับไปก่อน “มัดปากถุงให้แน่น” กันกลิ่นและเศษอาหารหกเลอะเทอะ เจอที่ทิ้งแล้วก็จัดการทันที อย่าทำแบบมักง่าย โยนๆ ทิ้งไว้ก่อน ช่างมัน ขี้เกียจ เดี๋ยวค่อยทิ้ง หกช่างมัน เดี๋ยวค่อยเก็บ บางคนลืมทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน เปิดรถมาแทบสลบ เผลอๆ จะมีเพื่อน เช่น “มดแดง” ชวนพวกพาเหรดมาขึ้นรถแถมจะรุมกัดตูดคุณเข้าให้ ก็ดีจะได้จำ…
ขณะขับรถ แง้มกระจก เปิดแอร์แรงสุด ระบายอากาศออก
หลังจากอิ่มหนำสำราญ เคลียร์อะไรเรียบร้อยแล้วจะ “จรลี” ไปต่อ ขณะรถวิ่ง ก็แง้มกระจกไว้ทั้ง 4 บาน เอาลงประมาณ 1 นิ้ว ก็พอ ให้ลมดูดอากาศในรถออกไป (ไม่ต้องเปิดกระจกหมดเพราะจะกลายเป็น “ลมเข้า” แทน) เปิดพัดลมแอร์แรงสุดสักพัก ให้มันพ่นกลิ่นออกไปให้หมด ก็จะช่วยได้มากๆ ถ้ามีโอกาสก็เอา “สเปรย์ดับกลิ่น” เดี๋ยวนี้มีฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยนะ พ่นในรถ ในช่องแอร์ สักหน่อย หน่อยเดียวนะไม่ใช่ฉีดจัดหนัก เดี๋ยวจะ “มึนตึ้บ” ไปเสียก่อน…
จอดตากแดด แง้มกระจก ฆ่าเชื้อโรคบ้างก็ดี
บ้านเราแดดมันนรกครับ เจ้าของรถทุกคนก็ไม่อยากจะจอดรถตากแดด แต่ถ้ามีโอกาส ก็เอารถไปจอดตากแดดบ้างเพื่อ “ฆ่าเชื้อโรค” แง้มกระจกไว้สัก 1 นิ้ว แต่ระวังหน่อยนะ อย่าลืม !!! เดี๋ยวฝนตกจะต้องมานั่งวิดน้ำในรถอีก หรืออย่าจอดแง้มกระจกในที่ลับตา เดี๋ยวจะ “จุ๊น” เสียของเอา เลือกเอาวันที่คุณว่างๆ อยู่บ้านค่อยทำก็ได้ครับ…
อาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เอาจริงๆ ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่จะทำ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจ กินๆ ไป เสร็จแล้วก็ช่างมัน พอกลิ่นหรือแบคทีเรียมันสะสมในรถมากๆ เดี๋ยวก็สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้คุณนั่งดมเล่นจนได้ เพราะกลิ่นแรงๆ บางทีมันติดตามภายใน เบาะ หมักหมมไว้มันจะแก้ยากเอา ที่ผมบอกนี้ก็ใช้ “ของฟรี” ที่มีอยู่รอบตัว นำมาเป็นประโยชน์ แล้วคุณจะรู้ครับ ว่ามัน “ช่วยได้” จริงๆ รถคุณจะน่านั่ง คนนั่งก็ไม่เสียสุขภาพด้วยครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th