กู๊ดเยียร์ฉลอง 120 ปี แห่งนวัตกรรม
กู๊ดเยียร์เฉลิมฉลองเส้นทางแห่งความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นถึงมรดกทางนวัตกรรมที่กู๊ดเยียร์ได้สร้างสรรค์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนยุคถัดไปอย่างไม่หยุดยั้ง
บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ผู้นำในวงการที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ก้าวไกลมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในพ.ศ. 2441 ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมยาง กู๊ดเยียร์มีความภาคภูมิใจที่ได้ฉลองความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์เนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปีของการก่อตั้งบริษัทและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้สร้างสรรค์มา พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวไกลกว่าเรื่องยาง เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อน
“มีเพียงไม่กี่องค์กรที่สามารถสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ในจังหวะที่สอดคล้องกับวาระสำคัญของมนุษยชาติ ดังเช่นบริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด โดยหลังจากที่ก่อตั้งบริษัทในช่วงต้นของยุคยานยนต์ กู๊ดเยียร์ได้ประสบความสำเร็จถึงขีดสุด ทะยานสู่ฟากฟ้าและเดินทางไปสำรวจดวงจันทร์ได้สำเร็จ ซึ่งบริษัทก็ได้ยืนระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมในด้านนวัตกรรมเสมอมา พร้อมกับมุ่งมั่นนำเสนอ “Freedom To Move” มาสู่ผู้บริโภคและลูกค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ ที่เหนือชั้น” มร. ไรอัน แพทเตอร์สัน ประธานบริษัท
กู๊ดเยียร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าว
“จากความสำเร็จตลอด 120 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้สืบสานเจตนารมณ์จากรุ่นสู่รุ่น ในการขับเคลื่อนให้เราพัฒนาไปข้างหน้าสู่การคิดค้นริเริ่มสิ่งใหม่เพื่ออีกหลายทศวรรษข้างหน้า” มร. แพทเตอร์สัน กล่าวต่อ “เราเฉลิมฉลองให้กับมรดกแห่งนวัตกรรมให้ห้วงเวลาที่อุตสาหกรรมนี้เติบโตก้าวหน้าเร็วกว่าในอดีต นับตั้งแต่มีการประดิษฐ์ยานยนต์ขึ้นมา”
จากสนามแข่ง จนมาถึงหุ่นสำรวจ Modular Equipment Transporter (MET) ของยานอะพอลโล กับภารกิจสำรวจดวงจันทร์อันโด่งดัง ผลิตภัณฑ์ของกู๊ดเยียร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ตื่นตาตื่นใจของมนุษยชาติมาแล้วหลายเหตุการณ์ และนี่คือตัวอย่างนวัตกรรมสำคัญของกู๊ดเยียร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
อดีต – มรดกทางนวัตกรรมของกู๊ดเยียร์
เจ้าแรกในหลายด้าน
ในพ.ศ. 2382 มร. ชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาพลิกโฉมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนไปตลอดกาล นั่นก็คือกระบวนการคงรูปของยาง (Vulcanization of rubber) บริษัทที่ก่อตั้งตามชื่อของเขาจึงนับว่าเป็นแห่งแรกที่คิดค้นสิ่งใหม่หลายอย่าง ทั้งยางสำหรับรถยนต์เพื่อผู้ขับขี่ทั่วไปของฟอร์ด โมเดล ที (Ford Model T พ.ศ. 2451) ยางอัดลมรุ่นแรกสำหรับอากาศยาน (พ.ศ. 2452) และยางรุ่นแรกเพื่อการสำรวจดวงจันทร์โดยนักบินอวกาศนาซ่า (พ.ศ. 2514)
ไม่ได้รองรับแค่รถยนต์เท่านั้น
หลังจากที่ได้เปิดตัวยางสำหรับอากาศยานรุ่นแรก กู๊ดเยียร์ก็ได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีนวัตกรรมและประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นยาเครื่องบินที่หล่อดอกยางใหม่ได้ในพ.ศ. 2470 และภายในช่วงทศวรรษที่ 1980 กู๊ดเยียร์ก็สามารถเปิดตัวยางเรเดียลที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA-approved radial tire) ให้ใช้กับเครื่องบินพาณิชย์ได้
ความสำเร็จบนสนามแข่ง
บนเส้นทางแห่งความสำเร็จนั้น กู๊ดเยียร์ถือเป็นเจ้าสนามการแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตมาโดยตลอด ในพ.ศ. 2541 ยางของกู๊ดเยียร์ชนะการแข่งขันรถฟอร์มูลา วัน กรังด์ปรีซ์ถึง 368 ครั้ง ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตยาง เป็นเวลากว่า 60 ปีที่ยางของกู๊ดเยียร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักของสนามแข่งรถแนสคาร์ (NASCAR) และล่าสุดยังเป็นยางที่มีเอกสิทธิ์ให้ใช้ในรายการแข่งรถสามซีรีส์หลัก
ปัจจุบัน – ปรากฏการณ์ของกู๊ดเยียร์ในยุคปัจจุบัน
ยางคอมปาวด์จากน้ำมันถั่วเหลือง
เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการรักษาคำมั่นด้านความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และความยั่งยืน กู๊ดเยียร์ได้พัฒนาคอมปาวด์ยางจากน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อการพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรก โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของกู๊ดเยียร์ได้ร่วมกันคิดค้นคอมปาวด์ยางที่ผลิตจากน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ ช่วยประหยัดต้นทุน ไม่สร้างมลพิษก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งการนำน้ำมันถั่วเหลืองมาใช้ในการผลิตยาง ทำให้กู๊ดเยียร์ค้นพบวิธีใหม่ในการรักษาสภาพคอมปาวด์ยางให้ยืดหยุ่นรองรับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ นับเป็นความสำเร็จที่สำคัญด้านสมรรถนะ ในการรักษาและเสริมสร้างประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของยานยนต์ นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้เห็นความสำคัญของการขับขี่ที่ปลอดภัย เนื่องจากยางที่มีนวัตกรรมล้ำหน้า สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าอากาศแห้ง เปียกเฉอะแฉะ หรือท่ามกลางอากาศหนาว
ซิลิกาจากขี้เถ้าแกลบ
กู๊ดเยียร์ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อชุมชน ตลาด และสิ่งแวดล้อม จึงได้เริ่มใช้ซิลิกาที่ได้จากขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาแกลบ เพื่อเพิ่มความทนทานและลดแรงต้านทานการหมุนของล้อในยางรถยนต์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปบางรุ่น ซึ่งขี้เถ้าแกลบถือเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นวัสดุทางเลือกที่ประหยัดต้นทุนเมื่อเทียบกับคอมปาวด์จากสารเคมี
ตัวเซนเซอร์ในยาง
เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กู๊ดเยียร์จึงได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมปัจจุบัน โดยผลงานการสร้างสรรค์ล่าสุดของกู๊ดเยียร์คือ ยางอัจฉริยะที่มีเซนเซอร์ฝังเอาไว้ ช่วยให้ผู้ขับขี่วัดและบันทึกข้อมูลสำคัญ และบริหารเรื่องการดูแลยางได้ เนื่องจากข้อมูลเรียลไทม์จะเข้าไปประมวลในอัลกอริทึมเอกสิทธิ์ของกู๊ดเยียร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่ติดตามสภาพยาง อุณหภูมิ และแรงดันได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งกู๊ดเยียร์ได้เปิดตัวยางต้นแบบนี้ในมหกรรมงานแสดงรถนานาชาติเจนีวา มอเตอร์โชว์ พ.ศ. 2561
อนาคต – บทบาทของกู๊ดเยียร์กับโลกใหม่แห่งการขับเคลื่อน
สิ่งที่กู๊ดเยียร์มุ่งมั่นพัฒนา
ยางอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบันมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ยานยนต์กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีพลวัตเติบโตเร็วสุดอันดับสาม รองจากโทรศัพท์และแท็บเล็ต กู๊ดเยียร์จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนายางให้ฉลาดเท่าทันยานยนต์ โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบ 360 องศา พร้อมอิสระการขับขี่ที่มากขึ้น ทั้งนี้ กู๊ดเยียร์ได้เปิดตัวยางต้นแบบไปแล้วที่มหกรรมยานยนต์ เจนีวา มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2561
การใช้เส้นทางหรือรถโดยสารร่วมกันพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และวางใจได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กู๊ดเยียร์จึงมุ่งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อการขับขี่หรือใช้เส้นทางร่วมกัน โดยกู๊ดเยียร์ได้ร่วมมือกับสตาร์ตอัพ เช่น Stratim และ Tesloop ในการพัฒนาด้านนี้
แนวคิดเพื่ออนาคตแห่งการขับเคลื่อนกู๊ดเยียร์ได้วางแผนที่นำความเจริญก้าวหน้ามาให้ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมให้รองรับสภาวะแวดล้อมสังคมเมืองที่ยั่งยืน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แนวคิดปฏิวัติอุตสาหกรรมด้านผลิตภัณฑ์ เช่น ยางรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน (Eagle 360 Urban) และออกซิจีน (Oxegene) ซึ่งนำเสนอมาจากแนวคิดของกู๊ดเยียร์ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับการดำเนินชีวิตของผู้คนในอนาคต
ยางรุ่นอีเกิ้ล 360 (Eagle–360) รุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน (Eagle–360 Urban) และรุ่นอินเทลลิกริป
เออร์เบิน (IntelliGrip Urban)
เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ พัฒนาขึ้นมากตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยางต้นแบบหรือยางคอนเซ็ปต์รุ่นอีเกิ้ล-360 ของกู๊ดเยียร์ จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สนองต่อการขับเคลื่อนในอนาคต และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในงานมหกรรมยานยนต์ เจนีวา มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2016 โดยยางคอนเซ็ปต์รุ่นอีเกิ้ล-360 ทรงกลมนี้ ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติสำคัญ ๆ ได้แก่ ความคล่องตัว การเชื่อมต่อ ไบโอมิมิครีหรือเทคโนโลยีที่สามารถเลียนแบบธรรมชาติได้ ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ยานพาหนะสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร พร้อมรับมือกับพื้นที่จำกัด เช่น ที่จอดรถที่แคบ ๆ หรือถนนหนทางในเมือง เป็นต้น
ยางคอนเซ็ปต์ใหม่ของกู๊ดเยียร์ ยางรุ่นอีเกิ้ล 360 เออร์เบิน รูปทรงใหญ่โค้งมน และยางอัจฉริยะรุ่นอินเทลลิกริป เออร์เบินได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทั้งหลายมาใช้ประโยชน์ อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบสื่อสารระหว่างยานพาหนะกับทุกสิ่ง (vehicle-to-everything “V2X”) ช่วยพัฒนาให้เกิดยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งอนาคต ที่สามารถนำทางผู้คนนับล้านไปได้ในทุกสภาวะการขับขี่ ที่ซึ่งอาจมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไปหลายรูปแบบยากแก่การคาดเดาในแต่ละวัน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th