หน้าฝนนี้ สิ่งที่เราจะได้เจออยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ “แอ่งน้ำ” ที่ขังอยู่ตามริมทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า พอฝนตกหนักๆ น้ำก็เลยไปขังกองตรงนั้นเป็นแอ่งขึ้นมา จะ “แมวนอน” หรือ “ควายนอน” ก็แล้วแต่ความลึก พอรถวิ่งผ่านมา ลงแอ่งทีก็ “น้ำกระจาย” ถ้าคนรุ่นใหญ่เขาก็ว่าเหมือนโดดลงอ่างรัชดา (ไปตีความหมายเอาเองเด้อ) แต่สิ่งที่ตามมา ก็คือ “รถมีอาการเสียหลัก” จากการ “เหิรน้ำ” หรือ Hydroplaning (ไฮโดรเพลนนิ่ง) อาจจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ แล้วเราจะแก้ปัญหาอย่างไรดี…

ใช้ความเร็วแบบมีสติ

ฝนตกก็ต้องลดความเร็วลงกว่าถนนแห้ง เป็นเรื่อง “สามัญสำนึก” ที่คุณต้องทำก่อน เพราะพื้นผิวถนนลื่น และที่น่ากลัวกว่านั้น คือ อาการเหิรน้ำ ซึ่งหน้ายางจะสัมผัสกับพื้นถนนน้อยลงไปทุกที ยิ่งน้ำมาก ยิ่งมาเร็ว ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น ที่สำคัญ ถ้าคุณลดความเร็ว ก็มีโอกาสที่จะ “เบรก” หรือ “หลบเลี่ยง” เหตุการณ์ฉุกเฉินได้มากกว่าขับเร็วแบบบ้าบอ เผลอๆ จะไปเหยียบน้ำสาดคนเดินถนนให้เป็นเรื่องเป็นราวอีก และให้สำนึกไว้ตลอดว่า “ต้องมีสติ” มองถนนอยู่ตลอด อย่าได้วอกแวก “หลุดโฟกัส” เด็ดขาด เพราะถ้าคุณพลาดคือพลาดเลย ไม่มีโอกาสแก้ตัว ตามนั้นนะ…

เบรกก่อน !!! ค่อยลงน้ำ

เมื่อคุณขับรถเจอแอ่งน้ำข้างทาง สิ่งที่คุณต้องทำ คือ “ชะลอความเร็ว” แบบนุ่มนวล ห้ามกระทืบเบรกแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้รถเสียอาการ พอถึงแอ่งน้ำ ก็ค่อยๆ ลง ปล่อยเบรก และจุดสำคัญ คือ “ประคองคันเร่งและพวงมาลัยให้คงที่” ทำไมต้องประคองคันเร่ง เนื่องจากจะทำให้รถมี “แรงส่ง” ไปในทิศทางด้านหน้าอย่างมั่นคง แตะเลี้ยงคันเร่งนะครับ อย่าเร่งส่ง และอย่าตกใจกับ “เสียงน้ำ” อัดกับซุ้มล้อ ประคองไปให้พ้น แค่นี้ก็ได้แล้ว ไม่ยากครับ…

แล้วถ้า “ลงน้ำก่อนแล้วค่อยเบรก” ละ ???

อันนี้จะทางตรงกันข้าม ประเภทนี้คือมาแบบ “วัดดวง” ก่อน โดดลงน้ำโครมมมม ตกใจแล้วค่อยไปเบรกกลางแอ่งน้ำเลย แบบนี้จะยิ่งทำให้รถเสียอาการมาก เพราะเวลาเบรก น้ำหนักรถจะเทไปด้านหน้า ด้านท้ายจะเบา แถมเจอแอ่งน้ำอุ้มให้เหิรน้ำอีก โอกาสที่รถจะ “ไถล” เสียการทรงตัว ก็มีมาก…

พ้นจากแอ่งน้ำ แตะเบรกไล่น้ำเสียหน่อย

ก็ดีนะครับ พอพ้นแอ่งน้ำแล้ว ก็อย่าเพิ่งเร่งส่งทันใด ค่อยๆ เพิ่มความเร็ว เพราะการเร่งส่งทันใดแบบใจร้อน จะทำให้ “ล้อฟรี” เกิดการลื่นไถลได้อีก พอขึ้นมาสักหน่อย ก็ “แตะเบรก” ย้ำๆ สัก 2 – 3 ครั้ง เพื่อ “ไล่น้ำออกจากระบบเบรก” อย่างน้อยก็ช่วยได้ อย่าลืมว่า เวลาเบรก เราวัดกันเป็น “เสี้ยววินาที” นิดหน่อยก็มีผลมหาศาล จะเป็นจะตายก็ตรงนี้แหละ…

เป็น Trick ง่ายๆ สำหรับแฟนๆ GPI Online ทุกท่าน ที่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่าคิดประมาทว่า มือแจ๋ว รถเจ๋ง ยางเทพ ฯลฯ มันก็มีโอกาส “แพร่ด” เหมือนกัน ยิ่งเร็วยิ่งเกิดเหตุร้ายแรงแบบแก้ไม่ทัน เพียงแต่ขอให้ “มีสติขณะขับรถ” และจำทักษะเหล่านี้ไว้ ถ้าเมื่อเจอเหตุการณ์จริง ก็จะสามารถประคองให้รถรอดพ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยดีครับ…

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th