ขับรถ EV เที่ยวหัวหิน วัดกันใครแบตหมดก่อน EA พร้อมสร้างแท่นชาร์จรองรับตลอดเส้นทาง
“ยานยนต์ไฟฟ้า” หลายคนคงได้ยินคำนี้บ่อยถึงความเป็นไปในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่วันนี้ประเทศไทยก้าวข้ามจากพลังงานน้ำมันเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้กันในรถยนต์แล้ว ถึงแม้ว่าปีนี้จะยังมีจำนวนไม่มาก แต่เชื่อว่าในปีน่าจะได้เห็นเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นทั้งจากผู้ผลิตและภาครัฐในการสนับสนุนรถยนต์กลุ่มนี้ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะภาคเอกชนเอกต่างผลักดัน พร้อมที่จะนำเข้ามาจำหน่าย แต่ติดที่ว่าราคายังสูงเกินที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อได้ ด้านประเด็นคำถามแล้วไทยพร้อมกับรถพวกนี้หรือไม่ งานนี้เราได้พิสูจน์แล้วกับการเดินทางในทริ๊ปพิเศษ ครั้งแรกกับการรวมตัวยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นเพื่อทำโรดโชว์ว่าไทยพร้อมแล้วสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า กับแบรนด์ผู้จัดจำหน่ายติดตั้งสถานีประจุไฟฟ้า ในชื่อ ‘EA ANYWHERE’ ที่วันนี้ดำเนินงานก่อสร้างและเปิดสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไปแล้วกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ และตั้งเป้าสิ้นปี 61 ลงทุนสูงถึง 800 ล้านบาท เพื่อเร่งเปิดครบ 1,000 แห่งทั่วไทย
โดยไฮไลท์ที่เก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันคือขบวนยานยนต์ไฟฟ้า EV ทั้ง Tesla Modle S ,BYD e6 ,KIA SOUL นอกจากนี้ยังมีรถปลั๊กอิน BMW VOLVO MERCEDES-BENZ เข้าร่วม การเดินทางจากกรุงเทพฯ–หัวหิน บนเส้นทาง 200 กว่ากิโลเมตร กับรถกว่าสิบคันเริ่มต้นขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าต่อไปการเดินทางของยานยนต์ไฟฟ้าจะไม่เพียงแต่ใช้ในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังสะดวกสบายในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางแรกของปีนี้อย่างหัวหินเมืองยอดฮิตของคนกรุงฯ ในวันหยุด จากปั้มน้ำมันซัสโก้ ถนนราษฎบูรณะ มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรก ร้าน Cafe Amezon OPG บางขุนเทืยน เพื่อเยี่ยมชมพาร์ทเนอร์ของ EA ANYWHERE หัวเรือหลักของการเดินทางในทริ๊ปนี้ EA คือบริษัทที่กำลังรุกธุรกิจสถานนีประจุไฟฟ้า ดำเนินงานโดย บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เชื้อเชิญให้กรังด์ปรีซ์มาร่วมพิสูจน์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าใช้ไม่ยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ และมันมาแน่ในเร็ววันนี้ ซึ่ง EA ไม่เพียงแต่ติดตั้งสถานีประจุไฟฟ้าตามปั้มน้ำมันเท่านั้น ถ้าจำกันได้ในห้างอย่างสยามพารากอนก็เป็นของ EA เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพาร์ทเนอร์อีกมากมายที่ให้ความสนใจ และได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ดังเห็นได้จากจุดหมายที่สองปั้มน้ำมันบางจากแพรกหนามแดง หรือจะเป็นร้านอาหารครัวบ้านขวัญ วังมะนาว ที่เป็นจุดชาร์จขนาดใหญ่มีมากถึง 10 ช่องจอด ซึ่ง EA เองได้แบ่งสถานีไว้ 3 ขนาด ตั้งแต่ไซร์ S M L ขึ้นอยู่กับพื้นที่ โดย EA จะเป็นผู้ลงทุนอุปกรณ์ให้ทั้งหมด และแบ่งกำไรกัน จากค่าชาร์จไฟ ซึ่งกำหนดเป็นเวลา เช่น 1 ชั่วโมง 50 บาท โดยเจ้าของพื้นที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเพียงมีพื้นที่จอดเท่านั้น แน่นอนทาง EA ANYWHERE ต้องพิจารณาถึงตำแหน่งที่ตั้ง และปัจจัยโดยรวมรอบด้านอีกด้วยถึงเลือกตำแหน่งที่ตั้งสถานีประจุไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ แถมยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจในอนาคตเพราะเจ้าของกิจการไม่ต้องลงทุนกับทรัพยากรบุคคล เพราะเป็นแบบบริการตัวเอง จ่ายเงินผ่านบัตรหรือเงินในระบบ ที่เหลือก็เอาเวลาไปคิดทำธุรกิจว่าจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างรอชาร์จไฟอย่างไรดี อย่างเช่นจุดชาร์จไฟศูนย์บริการ A.C.T. ประจวบฯ เป็นต้น
จุดชาร์จไฟ ตลอดเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-หัวหิน กว่า 380 กิโลเมตร วิ่งความเร็วเฉลี่ย 80-100 กิโลเมตร
- ปั้มน้ำมันซัสโก้ ถนนราษฎบูรณะ
- OPG AMAZON บางขุนเที่ยน
- ปั้มน้ำมันบางจาก แพรกหนามแดง จังหวัดสมุทสงคราม
- ครัวบ้านขวัญ วังมะนาว
- ศูนย์บริการ ACT ประจวบ (ตัวเมืองหัวหิน)
- โรงแรม Holiday in Vana Nava
- โครงการแสนสิริ LC CASITA
- FN OUTLET หัวหิน และ เพชรบุรี
อย่างที่ทราบกันดีว่าระบบการชาร์จไฟมี 2 รูปแบบ คือตู้ชาร์จแบบ AC กระสลับ (ชาร์จนาน) และ DC กระแสตรง (ชาร์จเร็ว หรือที่เรียกกันติดปากควิกชาร์จ) ในตัวอย่างที่เรามาดู จะมีให้ทั้งสองแบบ และหัวปลั๊กก็มีให้ครบทั้งแบบ Type I และ Type II ด้านขั้นตอนผู้ใช้บริการของ EA ต้องโหลด App EA ANYWHERE มีให้ใช้ทั้ง iOS & Androild ลงทะเบียนผ่านเมนูแล้วสามารถใช้งานโดยการแสกน QR Code ที่ตู้จ่ายไฟ โดยฟังก์ชั่นหลัก ของ App นอกจากแนะนำสถานีชาร์จไฟฟ้าตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ และจุดที่จะสร้างในเร็วๆ นี้ ยังสามารถจ่ายเงินค่าไฟฟ้า หรือนำทางไปสถานีชาร์จไฟได้ รวมถึงสั่งจองช่องจอด และสั่งยกเลิกการชาร์จขณะใช้บริการได้ด้วย ฯลฯ เรียกว่าสะดวกสบาย พร้อมคำแนะนำ ไม่ต้องพกเงินสดให้วุ่นวาย ส่วนใครที่มาใช้งานครั้งแรกหน้าตู้จะมีคำอธิบายภาษาไทยโดยละเอียดพร้อมทั้งค่าบริการ คำเตือนสำหรับผู้ที่จะมาจอดโดยไม่ใช้บริการปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน !
สำหรับรถที่พ่ายแพ้ก่อนคันแรกคือ KIA SOUL ด้วยความจุแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อยทำให้ต้องจอดชาร์จบ่อย แต่ด้วยเส้นทางนี้ EA ได้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างในวันนี้ ความพร้อมของจุดชาร์จไฟ ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ส่วนรถที่อึดสุดต้องยกให้ TESLA วิ่งถึง โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานานาวา หัวหิน ยังเหลือระยะทางวิ่งได้อีก 100 กว่ากิโลเมตร เสียบชาร์จตอนกลางคืนต้อนเช้าเอาไปวิ่งเล่นต่อแล้วค่อยกลับ แต่ด้วยราคาที่แพงเว่อร์ทำให้มันพ่ายแพ้เรื่องความคุ้มค่ากับ BYD ไป ที่ดูจะจับต้องได้มากกว่า เยอะ ส่วนที่ดูจะใช้ได้จริง และสบายใจมากที่สุดคือรถปลั๊กอินของค่ายเยอรมัน และสวีเดน แบตหมด น้ำมันยังเหลือไม่ต้องกังวลอะไร ถ้าไม่รีบไม่ร้อนอะไรยังแวะพักตามจุดชาร์จ จิบกาแฟ เดินช๊อปปิ้ง อย่าง FN OUTLET ก็มีที่ชาร์จ ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้ แต่ทั้งนี้ ในอนาคตค่าตัวรถจะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตามการคาดการณ์ ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่อยู่ที่แบตเตอรี่ คาดว่าอีก 5 ปีนี้ คงจะเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายอย่างชัดเจน เสียดายมากทริ๊ปนี้ขาด HYUNDAI IONIQ ที่ออกขายล่าสุดในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา
คุณธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ Chief Marketing Office ของ EA ANYWHERE แจ้งว่า “ราคาไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายังไงก็ถูกกว่าแก๊ส NGV แน่นอนตกเฉลี่ย 50 สตางค์ ต่อกิโลเมตร อุปกรณ์ของ EA นำมาจากจีนได้มาตรฐานสากล แผนในอนาคตเตรียมลุยธุรกิจอสังหาฯ บ้าน คอนโด รุ่นใหม่ ต้องเตรียมที่ชาร์จรองรับ ถ้าวันนี้คุณมีพื้นที่ เราพร้อมลงทุนอุปกรณ์พื้นฐานให้ทั้งหมด!”
เรื่อง / ภาพ : ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th