ขับอยู่ดีๆ รถไฟไหม้ เกิดจากอะไร แล้วต้องทำอย่างไร
ช่วงนี้เราจะเห็นข่าวคร่าวรถยนต์ไฟไหม้อยู่บ่อยครั้ง แบบไม่รู้สาเหตุขับมาอยู่ดีๆก็มีควันขึ้นมาจากฝากระโปรง ทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุ แถมไอ้รถยนต์ที่ไฟไหม้เป็นข่าวกันก็ใช้มาไม่กี่ปี สภาพยังดีอยู่เลย แล้วมันเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร วันนี้เราจะบอกถึงสาเหตุหลักที่ทำให้รถยนต์เกิดไฟไหม้ว่าเป็นเพราะอะไร เกิดไฟไหม้แล้วต้องทำอย่างไร ประกันภัยจะจ่ายเราแบบไหนมาดูกันครับ
เรามาดูสาเหตุหลักที่ทำให้รถยนต์ไฟไหม้
- ระบบเชื้อเพลิงรั่ว: จากสถิติ สาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดไฟไหม้รถ คือน้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว เนื่องจากมีจุดเผาไหม้ต่ำเพียงแค่อุณหภูมิสูงเกิน 72 องศาก็มีโอกาสติดไฟได้แล้ว
- ระบบไฟฟ้าบกพร่อง: สาเหตุอันดับสองคือระบบไฟฟ้าในรถอันมีต้นเหตุจากแบตเตอรี่ที่ก่อให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนที่ติดไฟได้ อันตรายมากหากสายไฟในห้องเครื่องชำรุด หลุดหลวม
- ของเหลวรั่วซึม: ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำยาหล่อเย็น หากมีการรั่วซึม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดประกายไฟและลุกไหม้ได้
- เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต: เกิดจากหลายสาเหตุทั้งน้ำมันเครื่องรั่วซึม พัดลมห้องเครื่องไม่ทำงาน หรือแม้แต่การดัดแปลงเครื่องยนต์ให้ผิดไปจากมาตรฐาน
- แคทฯ ตันจนเกิดความร้อนสูง: คืออุปกรณ์กรองก๊าซพิษไอเสีย (Catalytic Converters) เมื่อใช้ไปนานๆ อาจอุดตันและทำให้ระดับอุณหภูมิสูงขึ้นถึงพันองศาจนแผ่นพรมใต้พื้นเกิดการลุกไหม้ได้
- การผลิตและออกแบบที่ผิดพลาด: ชิ้นส่วนที่ออกแบบไม่ดีหรือมีจุดอ่อนของผู้ผลิตรถยนต์ หลายครั้งกลายเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่โดยมากจะมีการเรียกคืนเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ตัวใหม่แทน
ข้อปฎิบัติเมื่อรถเกิดไฟไหม้
1. เมื่อสังเกตุว่าตัวรถผิดปกติ หรือมีกลุ่มควันออกมาจากฝากระโปรงรถยนต์ ผู้ขับขี่ควรตั้งสติให้ดีอย่าตกใจเด็ดขาด
2. รีบนำรถจอดข้างทางทันที
3. ดับเครื่องยนต์เข้าเกียร์ P ปิดสวิตซ์กุญแจทันที เพื่อตัดระบบไฟฟ้า และหยุดการทำงานของชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิงที่สำคัญอย่างปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง เพื่อลดการแพร่กระจายของน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนรถท่านไหนใช้แก๊สรีบปิดวาล์วด้วยนะครับ หากเป็นวาล์วอัตโนมัติให้เปิดฝากระโปรงแบบแง้มไว้ ทำทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟ เพราะมันอาจจะนำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้ได้
4. อย่ารีรอรีบออกจากรถทันที
5. ถ้าหากเกิดเห็นไฟลุกขึั้นมาเล็กน้อยให้นำผ้าที่เปียกน้ำ หรือทรายมาโปะ หรือตบบริเวณที่เกิดไฟไหม้ หรือเจาะปากขวดน้ำที่มีน้ำเป็นรูเล็กๆ แล้วฉีดบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้
6. หากดูแล้วไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไฟไหม้หนักขึ้น ให้รีบหนีออกห่างจากรถที่ไฟไหม้โดยเร็วที่สุด
7. อย่าลืมหาคนช่วย โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินโทร 199 ดับเพลิงและกู้ภัย
รถไฟไหม้ประกันคุ้มครองอะไรบ้าง
กรณีรถยนต์ไฟไหม้่ถ้าเป็นประกันชั่น 1 , 2+ และ 2 จะคุ้มครองการเกิดไฟไหม้รถยนต์ในทุกกรณีตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ส่วนประกันชั้น 3 และ 3+ จะไม่คุ้มครองนะครับ เรามาดูกันว่าประกันจะคุ้มครองเราแบบไหน รถไฟไหม้ ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันในกรมธรรม์นั้น ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ที่เกิดจากตัวของรถยนต์เอง หรือไหม้เพราะสาเหตุใดๆ ก็ตาม ความรับผิดชอบที่ประกันจะดูแลให้แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
- กรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง นิยามของคำว่า “เสียหายสิ้นเชิง” นั้นคือ รถยนต์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจจะซ่อมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้อีกต่อไป หรือเสียหายเกินกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ในขณะที่เกิดเหตุไฟไหม้ บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าเสียหายเต็มจำนวน 100% ของทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ โดยทุนประกันของประกันชั้น 1 นั้นจะสูงสุดไม่เกิน 80% ราคารถยนต์ (ราคากลาง) หากเป็นรถยนต์ใหม่ ส่วนทุนประกันในปีต่อจะถูกลดลงตามค่าความเสื่อมราคาปีละ 10% ในขณะที่ทุนประกันสำหรับประกันชั้น 2+ และ 2 จะอยู่ที่ 100,000 บาทถึงสูงสุด 500,000 บาท (ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย)
- รถยนต์ได้รับความเสียหายบางส่วน คือรถที่ไม่ถึงกับเสียหายสิ้นเชิง บริษัทประกันภัยอาจเลือกซ่อมรถ หรือเปลี่ยนรถยนต์ให้กลับมามีสภาพเดิมได้ (รวมทั้งอุปกรณ์ของรถยนต์นั้นด้วย) หรือจะเลือกชดใช้เงินเพื่อทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้ ขึ้นอยุู่กับการตกลงกันของบริษัทประกันภัย และผู้เอาประกันเจ้าของรถยนต์คันที่เกิดเหตุ
สำหรับรถยนต์ติดแก็สหากเกิดไฟไหม้มีประกันชั้น 1,2+ และ 2 ที่ให้ความคุ้มครอง โดยตอนที่ตกลงทำประกันต้องทำเอกสารแจ้งให้บ. ประกันทราบว่ารถยนต์ติดตั้งแก็สไว้ รวมถึงแจ้งไปยังกรมขนส่งทางบกด้วย และต้องติดตั้งถังแก็สที่ได้มาตราฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) และอื่นๆ ที่บอกไว้ในกรมธรรม์
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th