ขับเดิมๆโลกไม่จำ แต่งรถสุดแนว แล้วคุณละ สไตล์ไหน !!
อย่างที่ผมเคยพูดไว้ การแต่งรถเป็นเรื่องสนุก ถ้าได้ลองเพียงซะครั้ง คุณจะติดใจ และหยุดไม่อยู่ ผมเชื่อว่าผู้ชาย หรือผู้หญิง ที่รักในการแต่งรถยนต์คงจะอดไม่ได้ที่จะทำให้รถยนต์ที่คุณครอบครองมีสไตล์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เลือกตกแต่งตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ วันนี้เราเอาแนวทางการแต่งรถแนวๆมาฝากกัน ดูกันซิว่ารถยนต์ของคุณตกแต่งสไตล์ไหน
BOSOZOKU Style
การแต่งรถสุดแปลกและแหวกแนวที่ไม่เหมือนใคร Bosozoku Style อ่านว่า โบโซโซคุ ตัวรถที่นำมาตกแต่งจะเป็นรถ Retro ย้อนยุคซะเป็นส่วนใหญ่ เริ่มกันที่ตัวถังรถนั้นจะถูกเจาะ-ตัด-ดัด-ถ่าง เริ่มตั้งแต่ตัดหลังคาออกกลายเป็นรถเป็นประทุนโดยปริยาย โป่งล้อทั้ง 4 จะถูกดึงออกเพื่อให้รับกับล้อที่กว้างมากหรือเรียกกันว่า ล้อออฟ(ออฟเซ็ต) ลึกมาก ประมาณว่าเอาหัวมุดเข้าไปได้เลยครับ ล้อเดิมก็ทำการกลับออฟเซ็ตให้ลึก ใส่ยางหน้ากว่า 9 นิ้วขึ้นไป
ชุดแต่งรอบคัน ลิ้นหน้ายาวๆ สปอยเลอร์หรือหางหลังก็เกินคำบรรยาย ช่วงล่างมาแบบโหดๆ โหลดเตี้ย เรี่ยพื้นดิน แคมเบอร์ติดลบมากๆ ทั้งหน้าและหลัง มากกว่ารถแข่งในสนามซะอีก ท่อไอเสียนั้นเป็นท่อแป๊บปลายท่อยิงตรงจะออกหลังรถหรือยิงสดๆ ออกจากฝากระโปรง ก็ต้องชี้ขึ้นฟ้าแบบไร้ปลายเก็บเสียง ดังสนั่นลั่นทุ่ง มาถึงด้านหน้าโชว์ Oil-Cooler แปะที่กันชนหน้าหรือรถที่มีเทอร์โบก็โชว์ Intercooler กันแบบจะๆ สีสันที่บนตัวรถนั้นเน้นสีวันสดใสหลากหลายสีเรียกได้ว่าเป็นลูกกวาดติดเลยก็ว่าได้ โหดไม่เบาเลยทีเดียวสำหรับการแต่งสไตล์นี้
RAT ROD Style
ความสวยงามของ Rat Rod คือความดิบธรรมชาติที่ผ่านร่องรอยมาหลายทศวรรษ มันอาจดูเสริมแต่งด้วยงานชิ้นงานเนื้อเหล็กดิบๆ หรือสีมอๆ ที่มักจะเป็นสีดำ หรือ สีด้านๆ บางมุมอาจเพิ่มจุดสนใจด้วยรูกระสุนสัก 2-3 รู หรือ กระทั่งหวดมันด้วยค้อนเหล็กพอให้มีแทคเจอร์ไว้เล่าขาน หรือไม่ก็สนิทขึ้นทั้งคัน
บางคนเรียก Junk Rod ,Rust Rod , Rat Rod , Crap Rod นิยมมากในแถวยุโรป บ้านเราก็ฮิตอยู่พักนึง เดี๋ยวนี้เห็นว่าถึงขั้นมีน้ำยาปลูกสนิมแล้วนะวิธีทำ เขาบอกว่า ปั่นสีออกจนเห็นเหล็กขาวๆ ทาน้ำยา แล้วก็ปล่อยให้มันขึ้น น้ำยาจะทำให้เกิดสนิมผิว แต่ไม่กัดเนื้อเหล็ก .. เจ๋ง
JDM Style
JDM ย่อมาจากคำว่า (JAPAN DOMESTIC MARKET) ซึ่งก็คือรถยนต์ที่มีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง สรุปแล้วการแต่งไตล์ JDM คือการทำให้รถที่มีจำหน่ายอยู่ในบ้านแปลงร่างเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นสไตล์การแต่งที่ได้ความนิยมในบ้านเราอย่างมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไทยชอบแต่งสไตล์นี้น่าจะมาจากพื้นฐานรถยนต์ในบ้านเรามีสเปคที่ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น จะเปลี่ยนเล็กเปลี่ยนใหญ่ หรืออัพเกรดแบบยกชุด ในบ้านเราก็มีเชียงกงให้ค้นหาอะไหล่ญี่ปุ่นอยู่หลายแห่งด้วยกัน หรือไม่ก็สั่งตรงจากพี่ยุ่นกันไปเลย ความสนุกของการแต่งรถแนวนี้คือการได้ตามหาอะไหล่ต่างๆที่บางชิ้นจัดเป็นแรร์ไอเทม (Rare Item) ไปแล้ว ยิ่งหายากยิ่งมีค่าทั้งทางจิตใจและมีมูลค่าสูง ใครหาได้มาถือว่าเทพ ตรงนี้แหละคือไฮไลท์ที่ทำให้การตกแต่งรถสไตล์ยุ่นเป็นที่นิยมมาโดยตลอด เพราะไม่ใช่แค่มีเงินจะแต่งได้ แต่ต้องมีความพยายามในการไล่ล่าหาของกันอีกด้วย
นอกจากชิ้นส่วนอะไหล่สเปคโรงงานที่บ้านเกิดแล้ว การเพิ่มของเล่นจากสำนักแต่งยุ่นแท้ๆเข้าไปถือเป็นอีกสเต็ปที่นิยมทำกัน เพราะมีของซิ่งให้เล่นมากมายทั้งอัพเครื่อง เซ็ทช่วงล่าง ไปจนถึงบอดี้พาร์ท และอื่นๆอีกเพียบแค่จัดให้ตรงรุ่นตรงแบรนด์รับรองเจ๋งสุด ที่สำคัญการตกแต่งสไตล์ JDM นั้นไม่จำกัดยี่ห้อไม่จำกัดรุ่น ไม่จำเป็นรถสปอร์ต หรือซุปเปอร์ ขอให้ศึกษาและหาของให้ตรงรุ่นพอ ซึ่งในบ้านเราจะมีสาวก Honda ที่นิยมแต่งสไตล์นี้มากที่สุด โดยเฉพาะ Civic ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มีให้เห็นเพียบ
VIP Style
คือ การตกแต่งรถแนวเลิศหรูอลังการณ์ โหลดเตี้ยล้อโต..พร้อมประเคนออฟชั่นแบบเว่อร์วัง ซึ่งเป็นอีกสไตล์การตกแต่งที่ในบ้านเรานิยมมาก อันจะเห็นได้จากเหล่าสมาชิก VIP Club ที่แตกแขนงกันออกมาทั้งรถเล็กและรถใหญ่ คอนเซ็ปของการตกแต่งสไตล์นี้มีต้นตำหรับมาจากแดนปลาดิบ ซึ่งรถที่นำมาแต่งส่วนใหญ่จะเป็นรถขนาดใหญ่พวก Midsize Sedan เช่น Honda Accord, Toyota Camry หรือ Nissan Teana ไปจนถึงพวก Luxury Saloon อย่างพวก Lexus GS เป็นต้น ซึ่งในบ้านเราได้นำแนวการแต่ แบบ VIP มาทำกันในรถทุกขนาดไซด์แบบไม่จำกัด
รถที่แต่งแนว VIP ที่เน้นอย่างแรกคือสีตัวถังถ้าไม่เน้นสีที่เรียบหรูดูดีมีสไตล์ ก็ต้องสีเจ็บๆเงาๆเหมือบมุขเยอะ สียิ่งแปลกยิ่งโดน ภายในห้องโดยสารต้องหรูสมกับ VIP ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังหรือขนสัตว์ ประดับด้วยคริสตัล Swarovski สักหน่อย หรือจะเพิ่ม TV ตู้เย็น และออฟชั่นระดับไฮคลาสเข้าไปยิ่งดูเริ้ด..สำหรับการแต่งรถแนวนี้
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ ล้อต้องใหญ่และแววับ จะเป็นล้อโครเมี่ยมหรือปัดเงาก็เลือกเอาตามสะดวก แต่ขนาดไซด์ต้องสัก 20-22 นิ้วกำลังสวย บวกกับตัวถังที่ต้องเตี้ยเลี่ยดิน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนช่วงเป็นแบบถุงลมเพื่อให้ปรับระดับความสูงได้ บวกกับชุดบอดี้พาร์ทชัดใหญ่สักชุด เวลาจอดกองอยู่กับพื้นยิ่งดูเท่มากๆสำหรับการแต่งรถสไตล์ VIP
FLUSH Style
เป็นการแต่งรถสไตล์ Flush จะเน้นที่การจัดวางล้อให้พอดีกับตัวถังโดยไม่ยื่นออกมานอกซุ้มล้อ ซึ่งแตกออกมาได้หลายแบบขึ้นอยู่กับขนาดและออฟเซ็ทของล้อแม็ก ขนาดยาง ความเตี้ยของตัวรถ การแต่งรถแนว Flush คือการใช้ล้อหน้ากว้างบวกกับยางหน้าแคบ หรือที่เรียกกันว่า “ล้อกว้าง ยางดึง” ซึ่งทำให้ขอบแม็กล้นออกมาเลยขอบยาง แล้วทำการโหลดให้ขอบยางด้านนอกลงมาเฉียดกับซุ้มล้อด้านใน โดยการปรับองศาล้อ หรือ มุมแคมเบอร์ช่วย
- Hella Flush จะเป็นการแต่งที่นิยมมากที่สุดในกลุ่ม Flush ซึ่งจะโหลดกับล้อหน้ากว้างมากๆรัดด้วยยางหน้าแคบ แล้วโหลดลงมาให้เตี้ยจนยางเบียดกับซุ้มล้อให้มากที่สุด โดยใช้การแบะล้อช่วยในกรณีที่ล้อยื่นออกมานอกรถ (ยิ่งเฉียด ยิ่งแบะ ยิ่งเท่)
- Hella Fail จะเป็นการโหลดคล้ายๆกับ Hella Flush แต่จะแบะล้อให้เอียงมากกว่า ไปจนถึงเอียงแบบสุดๆ บางงคันโหลดจนดูเหมือนจะแบนราบไปกับพื้นเลยทีเดียว แบบนี้จะนิยมทำกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
- Maxi Flush คือการใส่ล้อผิดออฟเซ็ทเข้ากับยางหน้ากว้างและทำให้ล้อยื่นออกมานอกตัวถัง ทำให้ไม่สามารถ Fitment ได้ ซึ่งการโลหดลักษณะนี้ที่จริงและไม่ถือว่าเป็นสไตล์ Flush แต่จะออกแนวรถแดร็ก หรือพวกแต่งแนว Retro มากกว่า
- ส่วนพวกที่โหลดโดยใส่ล้อที่มีความสูงและออฟเซ็ทเท่าขนาดแสตนดาร์ด (Storck) และไม่มีการปรับองศาล้อแต่อย่างใดนั้น แบ่งออกเป็นการโหลดแบบ Dropped ซึ่งคือการโหลดด้วยสปริงค์โหลด แบบนี้ตัวรถจะเตี้ยลงมาเล็กน้อยประมาณ 1.5 – 2 นิ้ว
- แบบโหลดด้วยโช็คอัพแบบสตรัท ซึ่งโหลดลงมาให้เตี้ยกว่าแบบแรกแต่ไม่มากนัก ซุ้มล้อจะปริ่มขอบยางเล็กน้อย แบบนี้เรียกว่า (Dropped) เช่นกัน แต่ถ้าปรับโหลดให้เตี้ยลงมาแบบสุดๆ จนซุ้มล้อลงมาระดับขอบแม็กโดยที่มุมล้อยังตั้งตรงอยู่ แบบนี้จะเรียกว่า (Slammed)
USDM Style
คือการแต่งรถ “สไตล์อเมริกา” (UNITED STATED DOMESTIC MARKET) ที่เน้นสีสันและความคลีนของตัวรถและห้องเครื่อง ซึ่งคอนเซ็ปการปรับแต่งก็จะคล้ายกับ JDM แต่เป็นการทำรถตามแบบรถสเปคอเมริกา โดยการแต่งรถสไตล์นี้ อะไหล่ที่เปลี่ยนแต่ละชิ้นต้องเป็นสเปคอเมริกา บวกความตัวรถที่โหลดเตี้ย และตัวถังที่เน้นความเรียบหรูดูสะอาดตา ไปจนถึงเครื่องยนต์ที่ต้องเก็บงานได้อย่างเรียบร้อยและลงตัวไม่รกตา เพียงเท่านี้คุณสามารถแปลงกายรถคุณให้ดูดีมีสไตล์ได้ไม่ยากเย็น จึงเป็นสไตล์แต่งรถที่นิยมอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
STREET Weapon Style
ถือเป็นสไตล์การแต่งรถที่เพิ่งได้รับความนิยมในบ้านเราและต่างแดนได้ไม่นาน แต่กระแสเปรี้ยงปร้างไม่แพ้การแต่งรถแนวอื่น การแต่งรถสไตล์นี้จะเน้นไปที่บอดี้พาร์ทสไตล์รถสนาม โดยเฉพาะหางหลัง (Rear Wing) ขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งแบบแต่งสวยดุเพื่อใช้งานปกติ (Steert Use Weapon) อันนี้ขอแค่ชุดพาร์ทโหดๆกับแม็กและยางซอฟท์อวบๆเท่านี้ก็หล่อแล้ว กับสายแรงที่ชอบวัดกันด้วยความแรงเท่านั้นไม่พอ ต้องขอแต่งเต็มไว้เผื่อโดดลงสนามในวันว่าง อันนี้เครื่องต้องสุด ช่วงล่างต้องหนึบ ตัวถังล้อและยางต้องรีดน้ำหนักให้เบาสไตล์ตัวแข่งถึงจะเรียกว่า Street weapon ตัวจริง
OFF ROAD Style
Off Road เหมาะสำหรับรถกระบะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ สายลุย มาถึงยัดล้อ บวกยางมัดเทอเรน เข้าไปแล้วจัดช่วงล่างชุดใหญ่ยกสูงตามความตั้องการ เป็นการตกแต่งรถให้มีลักษณะเหมาะกับการวิ่งในเส้นทางป่าเขา หรือทางวิบากที่รถธรรมดาไม่สามารถลุยผ่านไปได้ โดยจุดเด่นจะเน้นไปที่ช่วงล่างที่ปรับแต่งให้ล้อสามารถลุยได้ทุกสภาพพื้นผิวด้วยตัวรถที่ยกสูงกับล้อที่ใหญ่ยักษ์ สไตล์นี้จึงเป็นหนึ่งอีกสไตล์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ ตามท้องถนน เพราะช่วงล่างของการแต่งสไตล์ Off Road ก็ราคาไม่เบานะจะบอกให้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ภาพ : xo-autosport.com/Motor1.com / r32taka.com / 6thgearadvertising.com / stancenation.com/ thenaritadogfight.com / www.6two1.com / autocarnano.com/realtimecarmagazine.com
ข้อมูล : www.roojai.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th