ขับ ซีอาร์-วี เที่ยวปราสาท ชมมรดกโลก สัมผัสธรรมชาติที่ลาวใต้
วันหยุดที่ผ่านมาได้มีโอกาสสูดหายใจลึกๆ ให้หัวโล่งโปร่งสบาย นั่งมองทิวทัศน์สองข้างทาง…”เขมร”อณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต และ“ลาวใต้”ดินแดนแห่งธรรมชาติที่น่าหลงใหล หลายคนเลือกการพักผ่อนบนที่นอนในวันหยุด หรือเลือกนั่งดูทีวีอยู่บ้านเฉยๆ ผมคนหนึ่งละที่เลือกจะหยิบกุญแจรถออกไปขับเล่น แม้หนทางจะยาวไกล แต่มันทำให้ได้เห็นประสบการณ์ใหม่ๆ และเพื่อนฝูงมากมาย โลกใบนี้ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เราไม่ได้เห็นด้วยตา คนส่วนใหญ่มองโลกใบใหญ่นี้ผ่านทางภาพถ่ายมันไม่ได้ “อรรถรส” เชื่อไหมว่าแม้จะเป็นสถานที่เดิมแต่เวลาต่างกันมันก็มีภาพคนละแบบ เหตุการณ์คนละเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าไปเจอเพื่อนๆ กลุ่ม “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” ในทริ๊ป 5 วัน 4 คืน ในแบบคาราวานคนกันเองมุ่งหน้าสู่ชายแดนไทยจากกรุงเทพฯ ถึงตลาดโรงเกลือสระแก้วเพียงอึดใจเดียว
ก่อนเดินทางต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมทั้งพาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) ใบขับขี่ไทยใช้ได้ในสองประเทศนี้ พร้อมติดสติ๊กเอกร์ภาษาอังกฤษรูปตัว T ด้านหลังแสดงว่าเป็นรถสยามประเทศ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่ม ใบเสียภาษี ฯลฯ เอารถผ่านแดนมันค่อนข้างจุกจิกไม่น้อย หลังจากนั้นผ่านการตรวจเอกสาร คุณได้ไปต่อ! อ้อเกือบลืมบอกไปทริ๊ปนี้เรามากันเป็นขบวนใหญ่นับได้คราวๆ 23 คัน ทั้งหมดเป็น ซีอาร์-วี ใหม่ มีผู้นำทางและไกด์กิตติมศักดิ์อำนวยความสะดวก
เป็นการขับรถเที่ยวในรูปแบบคาราวานที่สบายมาก ที่บอกแบบนี้เพราะฮอนด้า ซีอาร์-วี คันใหญ่! พื้นที่ใช้สอยเยอะ ชอบมากกับที่เก็บสัมภาระเพราะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่ 4 ใบ ขนมจุกจิก กระติกน้ำแข็ง คันผมมากัน 4 คน ไม่เคยมีปัญหากับเรื่องสำคัญอย่างการชาร์จโทรศัพท์ เพราะมี USB ถึง 4 ช่อง ยังไม่รวมแอร์แยกอีก 3 ตอน แดดแรงๆ แบบนี้เย็นฉ่ำ ฮอนด้าจัดใหญ่ ผมจำได้เมื่อ 5 ปีก่อน ฮอนด้า ประเทศไทย เคยชวนมาเที่ยวแบบนี้กับ ซีอาร์-วี เจนฯ ก่อนหน้าเหมือนกัน ตอนนั้นสภาพเส้นทางโหดร้ายเอาเรื่อง ยิ่งช่วงชายแดนถนนดินแดง บางช่วงมีลุยบ้าง แต่มาวันนี้กัมพูชาเปลี่ยนไป ถนนหนทางสะดวกสบาย จนถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีมรดกโลกคอยต้อนรับผู้คนที่ใฝ่หาประวัติศาสตร์ นั่นเป็นเหตุให้เราได้เห็นฝรั่งแนวอินเดียน่าโจนมาเดินเพ่นพ่านเต็มปราสาทและวัด
ใช้เวลาปรับตัวไม่นานกับช่องจราจรที่ต้องชิดขวาเป็นหลัก ประเทศในอาเซี่ยนทั้งหมด10 ประเทศ ขับรถเลนขวา 5 ประเทศ “กัมพูชาและลาว พวงมาลัยซ้าย ขับเลนขวา” คนนั่งข้างต้องช่วยดูด้วยเวลาแซงเพราะคนขับมองไม่เห็นครับมุมมันอับ ชุดประสบการณ์ขับรถในหัวเรามันสั่งงานอัตโนมัติ ดังนั้นต้องพึ่งระวังเสมอ นั่นเป็นเหตุให้ขับรถเที่ยวต่างประเทศทำประกันไว้เถอะปลอดภัยสุด ยิ่งกฏหมายบ้านเมืองอื่นไม่เหมือนไทย การเรียกร้อง หรือเวลาการเครียมันนานมาก ไม่นับการสื่อสาร อันนี้เตือนไว้เลยสำคัญจริงๆ ผมเคยมาเที่ยวกับสายประกันที่เล่าให้ฟังว่าถ้าอีกฝั่งยังไม่ว่างเครียคุณก็ต้องรอต่อไป “ยิ่งถ้ามีเหตุชนสิ่งมีชีวิตด้วยแล้วไปกันใหญ่ ชนิดที่นอนรอในคุกกันเลย”
ความเร็วในการเดินทางประมาณ 70 กม./ชม. กำลังดี รถเยอะขบวนใหญ่ย่อมเป็นที่หมายตา แต่มาแบบนี้ปลอดภัยนี้มีอะไรก็ช่วยกัน แลกเปลี่ยนความคิด ได้เพื่อนใหม่ๆ ผ่านวิทยุสื่อสาร โดยเฉพาะกับกลุ่มของพี่ๆ ซีอาร์-วี หลายคนมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD มันทำงานยังไง เพราะวันๆ ใช้แค่จากบ้านไปที่ทำงาน หรือเกียร์ไฟฟ้าจะใช้กับแบบขึ้นลงเนิน ลุยนิดๆ ตบเกียร์ยังไง งานนี้สนุก เอารถมาออกกำลังกัน จนคุณหลงรักมันอย่างยิ้มแก้มปริ “ซีอาร์-วี คันนี้เลือกไม่ผิดจริงๆ” คำพูดจากพี่เจ้าของคันหนึ่งที่บอกกับทีมงานว่า ถ้ามีทริ๊ปแบบนี้เรื่อยๆ ยังไงรถคันหน้าก็ต้องซีอาร์–วี มันสะดวกกับสมาชิกครอบครัวของพี่เค้าที่มากันหลายคน หลายเจนเนเรชั่น
ไม่พลาดทุกการสื่อสารเพราะฮอนด้าแจกซิมอาเซียนมาด้วย เบอร์เดียวเน็ตกระจุยสามประเทศ อัพรูปได้ทันใจ ดังนั้นไม่แปลกที่คุณจะได้เห็นภาพการเดินทางนี้ว่อนเน็ต เชื่อหรือไม่ว่าการมาครั้งนี้ไม่ง่าย เพราะฮอนด้าคัดเลือกลูกค้า ซีอาร์-วี จากทั่วประเทศชาเล้นกันมาก่อนหน้า เมื่อได้รับการติดต่อพร้อมจ่ายไหม 9 พันบาท มาทริ๊ปนี้ ใครไม่พร้อมก็บ้าและ คุ้มเวอร์ระดับ โปรฯ ลูกเทพ แถมทีมงานดูแลระดับเลขาส่วนตัวแบบนี้ ผมพูดแบบไม่กลัวค่ายนี้เสียเงินเยอะ เฮ้ย…!!! จัดอีกเหอะ…มันเวิร์คนะ ลูกค้าได้มารวมกันเป็นกลุ่ม เจอกันทั้งคนขายรถ คนซื้อ และวิศวกรออกแบบ สื่อมวลชนอย่างเรา ได้รับประสบการณ์แบบนี้มาโดยตลอด แต่ฮอนด้ามองว่า “ทำไมไม่จัดให้ลูกค้าละ?”
จากกรุงเทพมาถึงเสียมเรียบ 390 กม. ได้เวลาพักรถลงเดิน…เราได้เห็นตำนานที่ยังอยู่บนพื้นดิน “นครวัด” ยังคงเป็นปราสาทที่มีสตอรี่มากมายที่ถูกถ่ายทอดสู่ผู้มาเยี่ยมเยือนในทุกภาษา การเดินชมปราสาทขอมชื่นชมภาพแกะสลักนางอัปสรที่ปรากฏอยู่มากถึงกว่า 1,600 องค์ และใกล้กันกับ “นครธม” “ปราสาทบายน” และ “ตาพรหม ปราสาททูมไรเดอร์” สถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ในหนึ่งวัน ถามว่ามีอย่างอื่นอีกไหม มีอีกเพียบครับที่นี่แต่มันไม่สะดวกนักในการเดินทาง คุณต้องชื่นชอบและศึกษาประวัติศาสตร์เขมรมาบ้าง หรือหาไกด์พื้นที่บรรยายให้ฟัง กับตำนานความเชื่อต่างๆ ชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนเค้าอยู่กันแบบไหน
เข้าสู่วันที่สองจากเสียมเรียบมุ่งหน้าสู่จังหวัดสตึงเตรง วันนี้ขับรถเล่นกันช่วงบ่ายจรดค่ำ กับระยะทาง 306 กม. เพื่อไปชมปราสาทเกาะแกร์มหาพีระมิด 7 ชั้น หรือศูนย์กลางแห่งจักรวาล “นครโฉกครรยาร์” ในสมัยพระเจ้าชัยสิงหวรมันหรือ “ชัยวรมันที่ 4” เพียงก้าวขาลงเดินผ่านหมู่สิ่งปลูกสร้างที่ยังหลงเหลือความสมบูรณ์ของรูปร่างในอดีต มันทำให้ชวนคิดว่าคนพวกนี้ก่อสร้างของแบบนี้ได้ยังไง คำถามเดียวกับเวลาคุณเห็นพีระมิดในอียิปต์นั่นแหละ และแล้วสิ่งที่คุยกันมาตลอดทางก็ปรากฏให้เห็น สายตาทุกคู่จับจ้อง เหมือนเราอยู่ในดินแดนเทพเจ้าก็ไม่ปาน งานนี้ได้วิทยากรอย่างอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ เป็นผู้บรรยายจนเหมือนเราย้อนไปอยู่ในช่วงเวลาที่ดินแดนแห่งนี้รุ่งเรือง ก่อนออกกำลังปีนบันไดไม้ขึ้นไปบนยอดเพื่อเก็บภาพสวยๆ เป็นที่ระลึก และมุ่งหน้าสู่ที่พัก
สูตรยอดนิยม “หกเจ็ดแปด” ยังคงเป็นคำมั่นสัญญาของชาวคาราวานซีอาร์-วี อ้อเค้ามีทีมในการเดินทางด้วย ในชื่อ Reach Out “ก้าวออกไป…ให้ไกลกว่าจินตนาการ” แค่นี้มันทำให้รู้สึกหึกเหิมเหมือนไปออกรบยังไงไม่รู้ ก่อนล้อหมุนเตรียมความพร้อมเช็คสัมภาระและรถให้เรียบร้อย วันที่สามกับอีก 301 จากชายแดนกัมพูชาเข้าสู่สปป.ลาว เรามีเป้าหมายพักแรมกันที่แขวงจำปาสัก ระหว่างทางเช็คน้ำมัน อืมมันประหยัดดีนะรถรุ่นนี้ พอๆ กับขับอีโคคาร์ก็ว่าได้ ส่วนท้องไส้คนขับและผู้โดยสารขนมในรถที่เตรียมมาเริ่มหมด หลายคนจึงเลือก สื่อสารกันผ่านวิทยุเพื่อความสนุกสนานคุยกันออกรส อากาศระหว่างทางเริ่มร้อน เชื่อว่าส่วนหนึ่งคือฟิล์มที่ช่วยกรองให้เบาลงบ้าง แต่เจ้าแอร์สามแถวนี่มันดีจริงๆ ปรับเอาเองเลยชอบให้พ่นใส่หน้าหรือตัวได้ทั้งคัน เผลอแป๊ปเดียว ก็มาถึงสถานที่เที่ยวชื่อดังของฝั่งลาวเริ่มที่ “น้ำตกคอนพะเพ็ง” ที่อยู่บนแก่งหินขนาดใหญ่ขวางกั้นแม่น้ำโขงเดียวนี้เค้าปรับปรุงจนมีความสะดวกสบาย มีร้านอาหาร มีสวนหย่อม ห้องน้ำสะอาด พร้อมรถกอล์ฟวิ่งรับส่ง ข้อดีคือคนแก่คนสูงอายุสามารถมาเที่ยวได้ สะดวกดี จุดนี่เองที่สมาชิกไม่พลาดลงไปปีนปายตามโขดหินเพื่อให้ได้ภาพมุมสวยๆ มาอัพเดทโชเชียลชนิดที่แดดแรงเพียงใดก็ไม่มีถอย ก่อนไปปิดท้ายช่วงบ่ายที่ “ปราสาทหินวัดพู” ช่วงถึงไปถึงพระอาทิตย์กำลังตกวิวสวยมาก คนพื้นที่กำลังเร่งมือจัดเตรียมงานประเพณี คล้ายๆ งานวัดบ้านเราพอดี ไกด์บอกว่าวัดพูขึ้นชื่อเรื่องสักการะขอพร เพราะมีน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านบน แต่ต้องออกแรงปีนกันอีกแล้ว “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” “ครั้งหนึ่งในชีวิต” หลายคำพูดพุดขึ้นมาให้คนกลัวความสูงอย่างผมต้องปีนขึ้นไป ชาตินี้จะได้มาอีกเหร่อ! น่าจะเป็นคำที่ดีที่สุด แต่ที่ตัดใจยอมคือพิสูจน์ศรัทธา! ขึ้นไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต จากนั้นขับกันต่อไปยังที่พักจำปาสักแกรนด์ซึ่งทีมงานฮอนด้าเตรียมไฮไลท์ทุกคน ซึ่งคืนนี้ก็อีกนั่นแหละมีเซอร์ไพรส์จากดาราคนดัง “น้องนุนี” Take Me Out มาต้อนรับสร้างความสดชื่น ให้หัวจิตหัวใจชายหนุ่มไทยทั้งหลายที่ถือกล้องรอซิลฟี่ยืนยิ้มแก้มปริ ทำเอาการแสดงอื่นๆ ในคืนนั้นจืดไปเลย แต่เราก็ไม่ลืมว่าน้อกจากน้องนุนีแล้วอาหารพื้นเมืองของที่ลาวก็เด็ดไม่แพ้เขมรนะจ๊ะ กินอิ่มนอนหลับพร้อมเที่ยวต่อ
แสงแดดส่องผ่านลอดหน้าต่างเป็นสัญญาณว่าวันนี้จะกลับไทยแล้ว ครึ่งวันเช้าเรายังเที่ยวในลาวใต้ให้หน่ำใจ น้ำตกตาดฟาน ร้านขายของที่ระลึก แต่ที่ชอบมากคือเค้าพาชาวคณะไปยือนที่ราบสูงโบโลเวน เมื่อก่อนคิดว่ามันอยู่แถวยุโรปมาโดยตลอดเวลาได้ฝั่งชื่อนี่จากโฆษณากาแฟ เฮ้ย มันคือลาว สบายดีบ่อ! อากาศเย็นๆ เหมือนขับรถอยู่บนยอดดอยทำให้เราต้องเปิดกระจกเอาหน้ารับความเย็นตลอดทางไปไร่กาแฟปากซองไฮแลนด์ อ้อกาแฟต้องที่นี่ ผมก็เพิ่งรู้ด้วยความสนใจได้เสวนากับผู้ดูแลอยู่ไม่น้อยว่า พื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ ได้สัมทานมาทำกาแฟตอนนี้ปลูกไปแล้ว 8 พันไร่ สร้างงานสร้างเม็ดเงินมหาศาล ส่งออกขายในไทยและในต่างประเทศ ทั้งพันธ์อาราบิก้า โรบัสต้า จนเพิ่งได้รู้กว่ากาแฟถึงถ้วยจริงๆ แล้วต้นทุนมันสูงมาก คนที่ขายแก้วละ 50 บาท มันต้องผสมกันบ้างจึงเป็นที่มาของการเบลน จากนั้นมุ่งหน้าผ่านชายแดนช่องเม็กแวะซื้อของที่ดิวตี้ฟรีพวกเหล้า บุหรี่ การแฟดาว กลับสู่ไทยที่อุบลราชธานี แวะพักกันที่ริมฝั่งโขงพร้อมรองานปาร์ตี้ปิดท้ายทริ๊ปอย่างใจจดใจจ่อ
ทุกคนรับรู้แล้วว่ารถฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่ซื้อมามีความสามารถขนาดไหน ทำอะไรได้บ้าง และมันดีอย่างไร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ฟินเว่อร์กับค่าน้ำมัน หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ว่าทำได้ ก็ได้ทำ ความสะดวกสบายในแบบเอสยูวี มันทำให้คุณไปไกลได้มากขึ้น เชื่อเถอะอยากขับไปถึงจีนยุโรปยังได้ เข้าสู่วินาทีที่ไม่อยากให้มาถึงงานเลี้ยงสุดท้ายปิดทริ๊ปหลายคนที่มาวันแรกยังเขินอายอันบ้าง ผ่านการละลายพฤติกรรม วันนี้เป็นกันเอง เหมือนรู้จักกันมานาน เสียงดนตรีดังขึ้น ผู้คนปลอดปล่อยความเป็นตัวตนไม่น้อย ทั้งงานมีแต่เสียงตรบมือ เสียงหัวเราะ เป็นทริ๊ปที่เฟอเฟ็กมาก ต้องขอขอบคุณทีมงานฮอนด้า ทีมงานออแกนไนซ์ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับน้องปุยฝ้ายเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวจริง เรียกให้แขกทุกคนลุกออกจากเก้าดี้ได้ ก่อนแยกย้ายพักผ่อนกลับไปเจอชีวิตประจำวันเหมือนเดิม แต่ทุกคนมีความสุขกับซีอาร์-วีในทุกวัน และมากขึ้นในทุกๆ วันพักผ่อน แล้วเจอกันทริ๊ปหน้า (นะจ๊ะจ๋าจะ)
เรื่อง : ณัฐพล จีระมงคลกุล
ภาพ : ฮอนด้า ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th