5 ข้อควรรู้ เพื่อการควบคุมรถอย่างปลอดภัยในระหว่างและหลังฝนตก
ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักขับที่เชี่ยวชาญและเคยชินกับสภาพอากาศชื้นแฉะของฤดูฝน การควบคุมรถ จึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยมีสถิติสะท้อนให้เห็นความจริงที่น่าใจหายว่าอุบัติเหตุมักเกิดมากขึ้นในระหว่างฝนตก การที่ผู้ขับขี่มีสติและระมัดระวังมากขึ้นเมื่อต้องขับขี่บนถนนที่เปียกและลื่น จึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อต้องขับรถออกไปท่ามกลางสายฝน ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ
- ละลองฝ้าเกาะกระจกและหน้าต่าง ควรเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อสลายความชื้นภายในรถ หากรถของคุณไม่มีระบบปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างด้านหลัง ให้มีช่องว่างเพียงพอให้อากาศถ่ายเท
- การชะลอความเร็วเมื่อขับขี่บนถนนเปียก เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากพื้นผิวที่เปียกแฉะจะทำให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้ไม่ดีเท่ากับการขับบนพื้นถนนแห้ง นอกจากนี้ อาจต้องใช้ระยะเบรกเพิ่มขึ้นเท่าตัว รวมทั้งอาจบังคับพวงมาลัยหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ไม่ดีนัก
- ระยะห่างระหว่างรถของคุณ ควรรักษาระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้าให้เหมาะสม เนื่องจากอาจต้องใช้ระยะเบรกยาวขึ้นเมื่อขับรถบนถนนที่เปียกแฉะ นอกจากนี้ การรักษาระยะห่างเอาไว้ จะช่วยไม่ให้รถโดนน้ำที่กระเซ็นมาจากรถคันข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้น
- เทคนิคด้านมุมมองเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับขี่อย่างปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรมองไปบนถนนข้างหน้า ไปที่จุดหมายเบื้องหน้าที่ต้องการจะไปเสมอ
- การเลี้ยวกระทันหันหรืออย่างกระชากรุนแรง โดยเฉพาะบนพื้นถนนที่แฉะและลื่น อาจทำให้รถสูญเสียการทรงตัว ควรขับขี่ด้วยการบังคับพวงมาลัยอย่างนุ่มนวลและระมัดระวัง
นอกเหนือจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว ต้องมั่นใจว่าได้เลือกใช้ยางที่เหมาะสม และมีการตรวจสภาพยานพาหนะของคุณอยู่เสมอ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ข้อมูล : บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ภาพ : BT.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th