หลายคนที่อยากจะครอบครองรถยนต์ Mazda cx 3 แต่ยังคงมีความลังเลว่า จะซื้อดีหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อแบบมือหนึ่งอาจจะแพงเกินไป ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีการวางแผนอยากจะซื้อรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง แล้วละก็ ต้องไปทำความเข้าใจว่า มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถรับมือได้ก่อนตัดสินใจรอบคอบมากขึ้น

Mazda cx 3 เป็นอีกหนึ่งรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครองใจ เหล่าผู้ใช้ชาวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและหรูหรา ทั้งภายในและภายนอก เสริมลุคให้ดูมีความเป็นสปอร์ตทั่วทั้งคัน และมักจะเป็นที่หมายปองสำหรับผู้ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ Mazda เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยดีไซน์ภายนอกที่สวยสะดุดตา และเพิ่มความปราดเปรียว ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ ไฟท้ายแอลอีดี ไฟส่องกลางวันแบบแอลอีดีสปอยเลอร์ ไฟตัดหมอก พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม เสริมด้วยกระจกกรองแสงรอบคัน ที่ผลิตจากวัสดุชนิดพิเศษที่สามารถช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะภายในห้องโดยสารของ Mazda cx 3 นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เรื่องความหรูหรา และการใช้งานที่ครบวงจร ตกแต่งด้วยการคุมโทนสี เพิ่มความพรีเมี่ยม และพื้นที่ในการเก็บสัมภาระที่มากขึ้น เรียกได้ว่า ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต และการเดินทางได้อย่างเต็มรูปแบบ

เครื่องยนต์ของรถยนต์ mazda cx 3 มีด้วยกัน 2 รุ่น

• เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร Skyactiv-D ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร พร้อมประหยัดน้ำมัน 22.2 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราส่วนการอัดต่ำเพียงแค่ 14.8 : 1

• เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Skyactiv-G ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมัน 1.4 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราส่วนการอัดสูงถึง 14.0 : 1

ทั้งสองรุ่นสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 879,000-1,189,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงสำหรับใครหลายคน ดังนั้นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ นั่นก็คือ การซื้อรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง ที่ยังคงฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบวงจร ที่สามารถทำการซื้อขายได้ในราคาที่ถูกลง

ข้อดีของรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง

• เครื่องยนต์สมรรถนะปานกลาง ช่วยให้ขับเคลื่อนได้ไม่สะดุด
• เครื่องยนต์แรงดึงตอบสนองดี เหมาะสำหรับการขับในเมือง ที่มีช่วงการเบลกและการออกตัวแบบสั้น ๆ และบ่อย ๆ
• ระบบเบลกทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
• คุมพวงมาลัยได้ง่ายน้ำหนักเบา ช่วยให้มีความมั่นคงในการขับขี่
• ยึดเกาะถนน พร้อมช่วงล่างแน่น และยืดหยุ่นกำลังดี
• ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยอย่างครบครัน
• ไร้เสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ว่าความเร็วระดับใดก็ไร้ซึ่งปัญหา

ข้อเสียของรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง

• ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซ่อมแซม
• พื้นที่เก็บสัมภาระ ค่อนข้างแคบ
• การปรับเบาะ ใช้มือถือไม่มีระบบไฟฟ้า
• ไม่เหมาะกับการจุคนจำนวนมาก
• หน้าจอแสดงผลร้อนและเกิดอาการค้างบ่อย
• มีเสียงวี๊ดแหลมเกิดขึ้นเมื่อใช้ความเร็วที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• หากศึกษาข้อมูลไม่รอบคอบอาจจะได้รุ่น และราคาที่ไม่ตอบโจทย์

ราคาของรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง

• mazda cx 3 มือ สอง ปี 2015 ราคาเริ่มต้นที่ 688,000-843,000 บาท
• mazda cx 3 มือ สอง ปี 2016 ราคาเริ่มต้นที่ 597,000-1,155,000 บาท
• mazda cx 3 มือ สอง ปี 2017 ราคาเริ่มต้นที่ 650,000-1,050,000 บาท
• mazda cx 3 มือ สอง ปี 2018 ราคาเริ่มต้นที่ 719,000-975,000 บาท

รถยนต์ Mazda cx 3 เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสาวกแบรนด์ mazda ที่มีความชื่นชอบสไตล์และการดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน แสดงถึงความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัว พร้อมการใช้งานแบบอเนกประสงค์ จัดเต็มฟังก์ชันการใช้งานและความสะดวกสบายตามมาตรฐาน การันตีความคุ้มค่าในการซื้อรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ต่างจาการการซื้อมือหนึ่งแบบป้ายแดงในราคาที่แพงงเกินไปและอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร ดังนั้นหากมีความสนใจและมีความต้องการรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง ก็แนะนำให้เลือกร้านรถมือสองที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งศึกษาเอกสารและรายละเอียดการใช้งานของผู้ใช้ก่อนหน้า ทำการทดลองขับด้วยตัวเอง สำรวจฟังก์ชันและระบบต่าง ๆ ว่า จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนเพิ่มเติมประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุ้มค่ากับการซื้อมาใช้งาน

สำหรับการเลือกซื้อรถยนต์ mazda cx 3 มือ สอง ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่อยากจะได้รถยนต์สมรรถนะสูง เครื่องแรง ช่วงล่างหนึบ และเกาะถนนดีเยี่ยม พร้อมพวงมาลัยที่บังคับง่ายดาย อีกทั้งยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ ในราคาที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น เพราะการเลือกรถดี ๆ สักคันต้องเริ่มต้นที่การศึกษาข้อมูลที่จำเป็น เช็กราคาที่มีการจัดจำหน่าย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน โดยเฉพาะการซื้อรถมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จำเป็นต้องทำการตรวจสอบอย่างรอบคอบตั้งแต่ประวัติการใช้งานของผู้งานคนก่อน สภาพรถทั้งภายในและภายนอกว่า มีส่วนไหนบ้างที่ต้องซ่อมแซม ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ หรือทางที่ดีควรทดลองขับด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ว่า มีความขัดข้องหรือไม่ พร้อมทั้งทำการประเมินราคากับความคุ้มค่าที่ได้มีความเหมาะสมแค่ไหน ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้สูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th