ครั้งแรกของโลก ‘Byton’ รถไฟฟ้าอัจฉริยะ-เคาะราคา 1.48 ล้านบาทพร้อมขายจริงปีหน้า
กลายเป็นไฮไลต์ประเดิม CES 2018 งานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก ที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐฯ หลังจาก Byton แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่สัญชาติจีน เลือกใช้เป็นเวทีเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดฮอตของทศวรรษหน้า พร้อมประกาศจะเริ่มผลิตขายจริงในปี 2019 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.48 ล้านบาท
บนเวทีแถลงข่าวผู้บริหาร Byton แสดงจุดยืนชัดเจนว่ารถยนต์ของพวกเขาได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า หมายความว่าแบรนด์นี้จะไม่มีที่ว่างสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน
คลิปไลฟ์งานเปิดตัว Byton บนเวที CES 2018
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ถูกยกให้เป็นหัวใจสำคัญ Byton ย้ำว่ารถยนต์ของพวกเขาจะช่วยลดเวลาในการจับพวงมาลัยยามต้องเผชิญการจราจรที่ติดขัดในแต่ละวัน โดยคาดว่าช่วงแรกจะอยู่ระดับ Level 3 ที่หมายความว่าคนขับสามารถนั่งเล่นโทรศัพท์หรือดูหนังระหว่างเดินทาง แต่จะต้องพร้อมจะควบคุมรถยนต์ในบางสถานการณ์ พร้อมตั้งเป้าหมายจะก้าวไปสู่ Level 4 ที่สามารถสั่งให้หาที่จอดโดยไม่ต้องมีคนอยู่ในรถยนต์
Did You Know?
ช่วงกลางปีที่แล้ว Audi A8 ประกาศว่าพวกเขาเป็นรถยนต์ผลิตขายจริงรุ่นแรกของโลกที่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 3 โดยฟังก์ชั่น Traffic Jam Pilot สามารถควบคุมการขับแทนมนุษย์จนถึงความเร็วสูงสุดที่ 60 กม./ชม.
คลิปการขับทดสอบรถต้นแบบ Byton
การมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำให้ Byton เลือกติดตั้งระบบสื่อสารความเร็วสูง 5G และเสาอากาศแบบ Flat Antenna ฝังอยู่ใต้หลังไม่ได้เป็นรูปครีบฉลามเหมือนที่นิยมใช้ในรถยนต์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน รองรับระบบผู้ช่วยส่วนตัว Alexa ซอฟต์แวร์ควบคุมด้วยเสียงพัฒนาโดย Amazon เว็บขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก
นอกจากนี้เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานรถต้นแบบของ Byton มีการฝังแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วบนพวงมาลัยคนขับ และฉีกรูปแบบการดีไซน์แผงหน้าปัดหน้าด้วยการใส่หน้าจอทัชสกรีนขนาด 49 นิ้วที่ถูกนิยามให้เป็น Shared Experience Display สามารถรองรับระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตู, ระบบสั่งงานด้วยการจับความเคลื่อนไหวของมือ และแสดงภาพจากกล้องที่ติดอยู่รอบคันรถ
Analysis
บรรดาสื่อต่างประเทศเชื่อว่า Byton ที่มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองนานกิง ประเทศจีน จะเลือกเดินตามสูตรสำเร็จของ Tesla ในฐานะสตาร์ตอัพที่มีการนำเสนอแผนงานที่น่าเชื่อถือเพื่อระดมเงินจากนักลงทุน โดยตั้งสำนักงานการลงทุนที่ฮ่องกง, ศูนย์ออกแบบที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี และทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์รวมถึงระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ซิลิคอน วัลเล่ย์
รถยนต์ไฟฟ้าของ Byton ที่จะผลิตขายจริงมีให้เลือก 2 ระดับ แบ่งเป็นรุ่นแบตเตอรี่ขนาดความจุ 71 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่สามารถขับได้ 250 ไมล์ (ราว 402 กม.) ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง และรุ่นแบตเตอรี่แพ็กใหญ่ 95 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่จะวิ่งได้ไกลขึ้นเป็น 325 ไมล์ (ราว 523 กม.) ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง พร้อมพัฒนาระบบควิกชาร์จอัดไฟ 20 นาที ขับได้ 150 ไมล์ (ราว 241 กม.)
Facts
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา BMW ประกาศจะนำระบบปฏิบัติการณ์ Amazon Alexa ติดตั้งใช้งานในรถยนต์ของพวกเขา และ Mini บางรุ่นที่จะออกขายในช่วงกลางปี 2018
ตามแผนการที่ผู้บริหาร Byton วางเอาไว้ พวกเขาจะเริ่มต้นส่งมอบรถยนต์คันแรกให้ลูกค้าในประเทศจีน ช่วงปลายปี 2019 ก่อนจะบุกตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ในปี 2020 ด้วยการตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.48 ล้านบาท โดยพวกเขายังมีแผนจะผลิตรถยนต์ซีดาน และรถยนต์อเนกประสงค์แบบ MPV อีกด้วย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: byton.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th