หากรถเกิดอุบัติเหตุหนักหรือถูกน้ำท่วมจนเสียหายสิ้นเชิงถึงขั้นว่าหากจะซ่อมเพื่อนำมาใช้งานต่อก็ไม่คุ้มถึงแม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ตาม สิ่งที่ตามมาก็คือเลิกคิดที่จะซ่อมรถ แล้วเปลี่ยนมาขายซากรถคันนั้นแทน อย่างไรก็ตามมีบางเรื่องที่ผู้ที่คิดจะขายซากรถยนต์ควรรู้ทั้งสำหรับรถที่มีประกันและไม่มีประกัน

รถที่มีประกัน

เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับความเสียหายจนถูกพิจารณาว่าเสียหายสิ้นเชิง บริษัทประกันจะเลือกวิธีการซื้อซากรถจากเจ้าของรถหรือผู้เอากรมธรรม์โดยที่มีรายละเอียดต่างๆ ต่อไปนี้

-ความหมายของรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง

รถยนต์เสียหายสิ้นเชิงหมายถึงรถคันที่เอาประกันเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้กลับสู่สภาพเดิมได้ หรือหากซ่อมให้กลับสู่สภาพเดิมจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารถยนต์ขณะเสียหาย หรือของทุนประกัน เช่นรถยนต์ที่มีราคา 1,000,000 บาท ทำประกัยโดยมีทุนประกัน 800,000 บาท หากเกิดอุบัติเหตุหนักแล้วถูกประเมินค่าซ่อม 600,000 บาทซึ่งเท่ากับ 70 เปอร์เซ็นต์ของทุนประกันจะถูกประเมินว่าเป็นรถเสียหายสิ้นเชิง

-การเคลมซากรถเสียหายสิ้นเชิง

เมื่อรถที่มีประกันเกิดอุบัติเหตุแล้วทางบริษัทประกันทำการประเมินค่าซ่อมรถ แล้วพบว่าเสียหายหนักจนต้องจ่ายค่าซ่อมมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของทุนประกัน ซึ่งจะถูกพิจารณาว่าเสียหายสิ้นเชิง ทางบริษัทประกันจะคืนทุนประกันตามเงื่อนไขของบริษัทซึ่งมี 2 แบบ แบบแรกหมือนกับการขายซากรถให้บริษัทประกันโดยจะรับเงินคืนทุนประกัน 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นเจ้าของรถก็โอนกรรมสิทธ์รถให้บริษัทประกัน

-เลือกไม่ขายซากให้บริษัทประกัน

ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับรถจนค่าซ่อมเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารถ เจ้าของรถหรือผู้เอากรมธรรม์ก็ยังสามารถเจรจาเพื่อเลือกเก็บซากรถไว้ได้ ซึ่งทางบริษัทประกันจะประเมินจ่ายค่าสินไหมทดแทนระหว่าง 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของทุนประกัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทประกัน หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถว่าจะเอาซากรถไปทำอะไรต่อ

ขายซากรถไม่มีประกัน

สำหรับเจ้าของรถที่ไม่มีประกันซึ่งเสียหายหนักจนไม่สามารถซ่อมกับมาใช้ใหม่ได้หรือซ่อมก็ไม่คุ้ม ก็จะไม่มีความสะดวกในการขายซากรถที่เสียหายสิ้นเชิงให้กับบริษัทประกัน สิ่งที่เจ้าของรถทำได้คือการขายซากรถด้วยตนเองกับอู่หรือผู้รับซื้อซากรถ รวมไปถึงผู้ที่เลือกรับเงินจากบริษัทประกัน 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์แทนการขายซากรถให้บริษัทประกัน แล้วนำรถมาขายซากด้วยตนเองมีสิ่งที่ควรรู้ต่อไปนี้

-ดูว่าภาษีประจำปีของรถหมดอายุหรือยัง ถ้ายังไม่หมดต้องแจ้งยกเลิกการใช้งานที่กรมขนส่งทางบก เพื่อป้องกันการสวมทะเบียนจากผู้อื่น และหากจะขายซากพร้อมป้ายต้องแจ้งขนส่ง

-สำหรับเอกสารที่ใช้ในการขายซากรถก็เหมือนกับการขายรถมือ 2 คือมีเล่มทะเบียน และโอนทะเบียนให้คนซื้อซากรถ

-การขายซากรถจากน้ำท่วมอาจแตกต่างจากซากรถที่เกิดอุบัติเหตุหนัก เพราะความเสียหายจากน้ำท่วมอาจน้อยกว่าอุบัติเหตุทำให้สามารถซ่อมแซมกับมาใช้งานได้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th