จัดหนัก!! THE NEW LAND ROVER DEFENDER 5.8 ล้าน ลุยเส้นทางออฟโรด
LAND ROVER DEFENDER รถอเนกประสงค์ เอสยูวีสัญชาติอังกฤษที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมายาวนานถึง 68 ปี และเป็นหนึ่งคันที่ชาวออฟโรดอยากจะจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุด เพราะเจ้า LAND ROVER DEFENDER เป็นรถระดับตำนานที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากสมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
การกลับมาอีกครั้งของ THE NEW LAND ROVER DEFENDER แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยแต่มันก็ยังคงความแข็งแกร่ง และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LAND ROVER DEFENDER ไว้เช่นเดิม แถมมาพร้อมกัน 2 รูปแบบมีทั้งรูปทรง 3 ประตู และ 5 ประตู ให้เลือกตามความต้องการ แม้หน้าตาจะยังคงเอกลักษณ์จากรุ่นเดิมเอาไว้บ้าง แต่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงวิศวกรรม เป็นครั้งแรกของรุ่นในหลายด้าน เช่น เปลี่ยนไปใช้ platform แบบ monocoque ส่วนแบบตัวถังมีให้เลือกทั้งรุ่น ฐานล้อสั้น SWB และ ฐานล้อยาว LWB
ครั้งนี้เราได้นำ THE NEW LAND ROVER DEFENDER 5 ประตู มาทดลองลุยทางออฟโรดดูซิว่ามันจะผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้หรือไม่ แต่ก่อนที่เราจะเอา THE NEW LAND ROVER DEFENDER 5 ประตูคันนี้ไปลุยจัดเต็มจัดหนักกันเรามาดูราคากันก่อนเลย
THE NEW LAND ROVER DEFENDER ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)
- THE NEW LAND ROVER DEFENDER (3 ประตู) เริ่มต้น 5,400,000 บาท
- THE NEW LAND ROVER DEFENDER (5 ประตู) เริ่มต้น 5,800,000 บาท
ภายนอกของ THE NEW LAND ROVER DEFENDER คงเอกลักษณ์ของ LAND ROVER DEFENDER โดยเน้นความเรียบง่ายผสานกับการมีระยะ overhang สั้นทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ทั้งยังให้กลิ่นอายย้อนยุคด้วยการจัดวางไฟหน้า LED วง แหวนกลมในโคมทรงเหลี่ยม และติดยางอะไหล่ไว้ท้ายรถ ในรุ่นฐานล้อยาว จะมี 5 ประตู รองรับผู้โดยสารแบบ 5 + 2 ที่นั่งส่วนรุ่นฐานล้อสั้นจะมี 3 ประตู รองรับผู้โดยสารแบบ 5 – 6 ที่นั่ง
มิติตัวถัง เทียบระหว่างรุ่น 5 ประตู กับรุ่น 3 ประตู
- THE NEW LAND ROVER DEFENDER (3 ประตู)
ยาว 4,323 มิลลิเมตร (ไม่รวมยางอะไหล่) กว้าง 2,008 มิลลิเมตร สูง 1,974 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase 2,360 มิลลิเมตร
- THE NEW LAND ROVER DEFENDER (5 ประตู)
ยาว 4,758 มิลลิเมตร (ไม่รวมยางอะไหล่) กว้าง 2,008 มิลลิเมตร สูง 1,967 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase 2,794 มิลลิเมตร
ห้องโดยสาร THE NEW LAND ROVER DEFENDER ยังเน้นความเรียบง่ายสะอาดตาเช่นกัน แฝงด้วยนวัตกรรมยุคใหม่ ล้ำสมัยมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับตำแหน่งล้อให้ยกสูงขึ้น, การติดช่องแสง Alpine Light Window บริเวณหลังคา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม D7X กับโครงสร้างที่มีโครงในตัวซึ่งเป็นอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงและทนทานกว่าโครงตามปกติถึง 3 เท่า ระบบความบันเทิง Pivi Pro พร้อมหน้าจอสัมผัสที่สามารถ update ได้เอง และยังคงเอกลักษณ์จากรุ่นพี่อยู่เช่นวัสดุปูพื้นที่ทนทาน รองรับงานลุยทุกรูปแบบ ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระในตัวถัง 110 อยู่ที่ 1,075 ลิตร และเพิ่มเป็น 2,380 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลังลง
เริ่มจัดหนักกันดีกว่าครั้งนี้เราพา THE NEW LAND ROVER DEFENDER มาที่จังหวักาญจนบุรีเพื่อมาทดลองเส้นทางออฟโรด ที่มีทั้งฐานต่างๆ ทางฝุ่น และทางป่า ภายในสนาม grand prix motor park ที่เป็นสนามฝึกฝนทักษะในการขับออฟโรด และเป็นสนามแข่งขันออฟโรดที่ยิ่งใหญ่อย่าง 10 เซียนประจันบาน ที่ชาวออฟโรดรู้จักกันดี แต่ก่อนที่จะไปถึงเรามาลองขับในตัวเมืองกันก่อนเลย
เดินมารับรถ THE NEW LAND ROVER DEFENDER แถวๆพระราม4 แรกเห็น THE NEW LAND ROVER DEFENDER รู้สึกถูกชะตาแบบบอกไม่ถูกรูปทรงของ THE NEW LAND ROVER DEFENDER มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนโดดเด่นมาก ขับไปบนถนนมีแต่คนเหลียวมองครับบอกเลย แปลกตาไม่ซ้ำใครแน่นอน ยืนชื่นชมอยู่พักใหญ่กระโดดขึ้นบนรถพร้อมออกเดินทาง ขับออกมาเส้นพระราม4 รถค่อนข้างเยอะในใจก็คิดมันจะคล่องตัวขนาดไหนกันเชียวคันใหญ่ขนาดนี้ โอ้ว!! มันขับง่ายกว่าทีคิดครับทัศนวิสัยดีมาก ความคล่องตัวมีสูงเมื่อเทียบกับรถขนาดเดียวกัน ลัดเลาะไปตามช่องว่างได้สบาย เครื่องยนต๋ ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ พละกำลังสูงสุด 240 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทำงานผสานกันได้อย่างลื่นไหลลงตัว กำลังเครื่องยนต์เหลือเฟือในการขับใช้งานในเมือง ระบบช่วงล่างแบบอิสระที่ใช้ถุงลมทำให้การขับขี่ในเมืองนุ่มนวลขับสบาย ดูซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก
หลุดออกมานอกเมืองเลยทำให้เราได้ลองอัตราเร่งของดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 240 แรงม้า กันซะหน่อย อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดีเติมคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและลื่นไหล การเร่งแซงไม่มีปัญหารวดเร็วทันใจ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 9.1 วินาที ขับทางตรงยาวๆรู้สึกมั่นคงและมั่นใจ แต่ผมยังติดที่ช่วงล่างที่เป็นถุงลมเวลาวิ่งทางตรงยาวด้วยความเร็วมันรู้สึกนิ่มและย้วยไม่นิด การเข้าโค้งด้วยความเร็วก็มั่นใจดีแต่ผมว่ามันก็ยังมีอาการย้วยโยนอยู่ (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับหลายท่านอาจจะชอบช่วงล่างที่นุ่มนวลแบบนี้และผมไม่ครับ) การเดินทางยาวถือว่า THE NEW LAND ROVER DEFENDER คันนี้ทำหน้าที่ได้ดีเบาะนั่งสบายภายในกว้างขวาง ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเวลาเดินทางไกลๆ
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่เรานำ THE NEW LAND ROVER DEFENDER มาจัดหนักจัดเต็มเริ่มจากสเตชั่นต่างๆก่อนเลยดีกว่า เริ่มจากทางที่เป็นหลุมสลับซ้าย-ขวา และหลุดลึกมากด้วย เพื่อที่จะดูแรงบิดของ THE NEW LAND ROVER DEFENDER คันนี้ปรากฎว่าผ่านไปแบบสบายๆ มาถึงการไต่เนินชัน THE NEW LAND ROVER DEFENDER คันนี้มีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันเมื่อเราค้างอยู่ทางขึ้นเนินชันก็ไม่ต้องกังวลว่ารถจะไหลถอยหลังขณะขี้นเนินชันอีกต่อไป แต่มันจะค้างแค่ประมาณ 3 วินาทีเท่านั้นนะครับ เดินหน้าขึ้นเนินชันกันต่อ หน้ารถจะเชิดขึ้นทำให้มองไม่เห็นเส้นทางด้านหน้า ก็สามารถเปิดกล้องหน้าแบบมุมกว้าง เพื่อตรวจสอบว่ามีอุปสรรคกีดขวางอยู่หรือไม่
ภาพที่แสดงบนจอมีความคมชัดและระยะไม่หลอกตา จึงใช้งานได้จริงทั้งการเลี้ยวให้อยู่บนถนนและมองทาง แต่เดี๋ยวก่อนมันมีสิ่งที่ควรระวังจะได้ไม่พลาดเมื่อผม ก่อนการขึ้นเนินอย่าลืมปรับช่วงล่างให้ยกขึ้นก่อนนะครับ เพราะตอนที่ผมทดลองผมขับมาบนถนนไฮเวย์ ระบบช่วงล่างมันจะปรับลงอัตโนมัติ เพื่อช่วงในการทรงตัวในขณะที่ใช้ความเร็วสูง พอมาถึงทางออฟโรดขึ้นเนินชันผมดันลืมเปลี่ยนยกช่วงล่างขึ้นใต้ท้องติดซิครับไม่เหลือ เลยต้องหยุดและกดปรับยกช่วงล่างขึ้นแค่นี้ก็ผ่านไปได้แบบสบายๆครับ ขณะลงทางลาดชันก็มีระบบช่วยเหลือ การทำงานเนียนกว่าผมเบรกเองอีก เมื่อรถเริ่มปักหัวลง ระบบก็จะทำงานทันทีอย่างนุ่มนวล ไม่มีช่วงดิ่งวูบหรือเหวอก่อนจะเบรก ตลอดการลงเนิน ระบบจะเบรกให้อย่างนุ่มนวล ไม่มีอาการหัวทิ่มหัวต่ำ และสามารถปรับเพิ่มลดความเร็วในการลงเนินได้ด้วย
มาลุยกันแบบต่อเนื่องข้างเป็นทางขรุขระแถมมันดันมีเนินลูกระนาดต่อเนื่องยาวๆอีกต่างหาก ฝนตกทางเป็นโคลนอีกเอาเข้าไป ขับลุยแหลกครับงานนี้ เฮ้ย !! ตอนแรกมองดูทางแล้วโครตยากโครตลื่น สรุปเราแค่ปล่อยให้รถขับเคลื่อนไปในแบบ Walking Speed เอาเข้าใจง่ายๆก็เข้าเกียร์ D ปล่อยไหลนั้นเอง รถก็จะเคลื่อนผ่านไปได้อย่างนุ่มนวล แต่มีบางจังหวะต้องกดคันเร่งช่วยหน่อยเพราะฝนมันตกทางเลยลื่นมาก แต่ต้องยอมรับว่าช่วงล่างแบบถุงลมทำงานได้นุ่มนวลทั้งจังหวะยืดและยุบตัว เหมาะมากในเส้นทางออฟโรด ระยะห่างใต้ท้องเหลือเฟือสำหรับการลุย การขับบนทางโคลนลื่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะจัดการทุกอย่างให้ ทั้งการเบรกในล้อที่หมุนฟรี และส่งกำลังไปยังล้อที่มีการยึดเกาะ รถผ่านไปได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าใครก็ขับบนเส้นทางออฟโรดได้พกใจมาอย่างเดียวที่เหลือ THE NEW LAND ROVER DEFENDER จัดการให้หมดแค่ประคองพวงมาลัยไว้เท่านั้น
ยัง ยัง มีอีก ทางข้างหน้าเราจะไต่ทางชันในระดับองศาที่มากกว่าเดิม เรียกได้ว่าชันจนหน้ารถแหงนเห็นแต่ท้องฟ้ากันเลยทีเดียว แรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 240 แรงม้า บอกเลยว่าเหลือ เหลือ ไม่ต้องเร่งส่งหรือใช้ความเร็วเลย แค่เดินคันเร่งเบาๆ รถก็ไต่เนินได้อย่างสบายๆ แถมเราลองหยุดระหว่างทางไต่ขึ้น แล้วเทคตัวออกจากทางลาดชัน เฮ้ย !! ก็ไปได้อย่างสบาย ต่อเนื่องด้วยการขับลงบ่อน้ำ ฮาฮา เห็น THE NEW LAND ROVER DEFENDER ที่มีโหมดลุยน้ำให้เลือก ต้องลองซิจะเหลือหรอ บริษัทเครมว่า THE NEW LAND ROVER DEFENDER มีความสามารถในการลุยน้ำสูงสุดของรถที่ 35.4 นิ้ว หรือ 90 เซนติเมตร เสียดายน้ำในบ่อมันของเรามันน้อยไปนิด ลุยผ่านได้สบายๆ
สรุป.. THE NEW LAND ROVER DEFENDER คันนี้โดดเด่นที่รู)ลักษณ์ภายนอกที่แตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน เพราะยังคงเอกลักษณ์ของรุ่นกอนหน้าไว้อย่างครบถ้วนพียงแต่ปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น ออกแบบให้ลุยบนทางวิบากได้จริง ทั้งความสูงใต้ท้องรถ มุมปะทะ มุมคร่อม และมุมจาก
ระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสายออฟโรดหน้าใหม่ ด้วยฟังก์ชั่นการขับที่เลือกให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางได้ และสั่งงานได้ง่ายผ่านหน้าจอ ภายในตกแต่งสไตล์ออฟโรดแท้ๆ ด้วยวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ลุยน้ำลุยฝนได้จริง THE NEW LAND ROVER DEFENDER สามารถพาคุณไปได้ในทุกเส้นทางไม่ว่าจะทางเรียบก็นุ่มนวล ทางโหดๆในป่าก็สบาย(ถ้าซื้อไปแล้วกล้าขับลุยนะ) เพราะราคาแรงเอาเรื่อง อัตราเร่งไม่อืดอาดขับสนุก ช่วงล่างนุ่มนวลดูดซับแรงได้ดี จุดด้อยคือศูนย?บริการที่มีน้อยไม่รอบคลุม และการรับประกันยังสู้คู่แข่งไม่ได้นั้นเอง
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th