จาก “ยานพาหนะ” สู่ “ยานพาหะ” !!! ระวังโรค COVID ที่อาจจะติดมากับรถสู่คน Part II : ป้องกัน “ตัวเอง” จากรถคนอื่น
ครั้งที่แล้ว เรานำเสนอเรื่องของการ “ป้องกันเชื้อในรถตัวเอง” กันไปแล้ว ซึ่งใน Part II นี้ เราจะมาพูดถึงอีกมุมหนึ่ง คือ “กรณีที่เราต้องจำเป็นต้องขับหรือโดยสารรถคนอื่น” กันบ้าง ว่าเราจะป้องกันตัวเองอย่างไร โดยเฉพาะ “รถสาธารณะ” ที่มีผู้โดยสารวนเวียนมากหน้าหลายตา โอกาสติดเชื้อก็ยิ่งมีมากขึ้น เราจึงต้องยิ่งป้องกันตัวเองให้มากขึ้น ด้วยแนวคิดต่อไปนี้…
Double Safe
แน่นอนครับ “ปลอดภัยคูณสอง” เช่น ใส่หน้ากาก 2 อันซ้อน ยอมอึดอัดหน่อยแล้วกัน ล้างมือบ่อยกว่าเดิม โดยเฉพาะบน “รถเมล์ รถไฟฟ้า” ที่มีคนอยู่ด้วยมากๆ และ “แออัด” ตอนนี้อาจจะเบาบางหน่อย เพราะ Work From Home กันส่วนมาก แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการ ก็อย่าลืมล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ พอถึงที่ รีบล้างมือด้วยสบู่ ล้างนานๆ หน่อยตามที่หน่วยงานสาธารณสุขแนะนำ เพราะเราต้องไปจับ “ราว” ต่างๆ ซึ่งก็มีโอกาสแพร่เชื้อได้มาก จึงต้องระวังเป็นพิเศษ…
พยายามเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ในรถ
ถ้าต้องไปนั่งรถคนอื่น แม้จะเพื่อนกันหรือคนรู้จักกันดีก็ตาม “ใส่หน้ากากเสมอ” ถ้าไม่ใส่ โอกาสติดเชื้อเต็มๆ ครับ ยิ่งเพื่อนนั่งเม้ามอยกันเยอะๆ เชื้อยิ่งกระจุยกระจาย คราวนี้ใครติดมาล่ะ “งานหยาบทั้งกลุ่ม” การนั่งบนรถ ก็พยายาม “เลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ในรถให้มากที่สุด” บางคนนั่งแล้วชอบเอามือเท้าคอนโซล เท้าแผงประตูที่เป็น “มือจับ” พยายามเลี่ยง เอามือวางบนตักเราปลอดภัยสุด เมื่อสัมผัสอะไรก็รีบแอลกอฮอล์ล้างมือทันที…
ลดการพูดคุยกันบนรถสาธารณะ
การพูดคุย ยิ่งทำให้การแพร่เชื้อทำได้ง่ายและมากขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่อยู่บนรถสาธารณะ “เงียบ” ดีที่สุด เว้นแต่มีเคสจำเป็นค่อยพูด และ “พูดสั้นๆ” พยายามป้องปากหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ หรือ คุยกับคนที่มาด้วยกัน อย่าลืมว่า เราต้องป้องกัน ลดการแพร่เชื้อ คนอื่นเขาก็กลัวเหมือนกัน ใจเขาใจเราครับ…
ขึ้น TAXI ต้องทำตัวอย่างไร
การโดยสาร “รถแท็กซี่” จะป้ายดำป้ายเหลืองอะไรก็ตามแต่ ยิ่งต้องเคร่งครัดมากเป็นพิเศษ “คูณสามซูเปอร์แก๊งค์” ไปเลย โดยเฉพาะ “เด็กๆ” ที่มีโอกาสไปซนจับนู่นจับนี่ กลิ้งไปกลิ้มา โอกาสรับเชื้อก็มีมาก ผู้ปกครองต้องกำชับดูแลเป็นพิเศษ ตอนนั่งก็ “แง้มกระจก” ไว้หน่อย เพื่อให้อากาศถ่ายเทออกไป ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้อีก และอันนี้ ผมว่าอาจจะไม่มีใครเตือนออกสื่อ คือ “ลดการพูดคุยกันบนรถ” เนื่องจากจะยิ่งแพร่และรับเชื้อได้มากขึ้น ไว้ลงจากรถไปก่อนแล้วค่อยเม้ามอยกันดีกว่า รวมไปถึง “อย่าชวนคนขับคุย” คือ บางคนอัธยาศัยดี ชอบชวนคนขับคุย แต่ตอนนี้อย่าเพิ่ง ให้บอกแค่จุดมุ่งหมายหรือเส้นทางที่จะไปแค่นั้นพอ เราไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจคนขับ แต่เชื่อเถอะ “เขาก็กลัวเหมือนกัน” ยิ่งกว่าเราอีก เพราะเขาต้องเจอคนมากมายทั้งวัน ยังไง “เซฟเขา เซฟเรา” ดีที่สุดครับ…
ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราจะสามารถป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคต่างๆ ไม่เฉพาะ COVID – 19 เท่านั้น จากการโดยสารรถคนอื่น หรือ รถสาธารณะ ซึ่งเราไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่า “มีเชื้อหรือไม่” และโอกาสเสี่ยงมีสูง จริงๆ ส่วนใหญ่ก็อยากจะมีรถส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้รถสาธารณะก็ต้องใช้ครับ ทำไงได้ละ ดังนั้น เราก็ต้อง “ป้องกันอย่างดีที่สุด” อย่าคิดมากเกินไปนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นโรค “ปสด.” (ประสาทดื่ม) เสียก่อนครับ…
เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th